ThaiPublica > คอลัมน์ > เรื่องเล่าจากลุงหมีปุ๊ (66)…หอศิลป์ของพระราชวัง Hermitage

เรื่องเล่าจากลุงหมีปุ๊ (66)…หอศิลป์ของพระราชวัง Hermitage

19 พฤษภาคม 2025


หอศิลป์ของพระราชวังฤดูหนาว Hermitage ที่เมืองเซ็นต์ปีเตอส์เบิร์ก เมืองหลวงเก่าของรัสเซีย ได้รับการยกย่องให้เป็นพิพิธภัณฑ์ภาพศิลปะที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่ง ราชวงศ์ต่างๆ ของอาณาจักรรัสเซียโบราณได้สะสมภาพวาดมีชื่อเสียงจากศิลปินยุโรปชาติต่างๆ ไว้มากมาย การจัดแสดงแยกออกมาเป็นผลงานของแต่ละชาติแต่ละยุคอย่างเป็นระบบ ผู้เข้าชมจะได้ความรู้ประวัติศาสตร์ศิลปะอย่างเต็มอิ่ม

ขอเสนอภาพพระราชวัง Hermitage และทางเดินเข้ากับห้องโถงของหอศิลป์ก็จะเห็นความอลังการของสถานที่ได้ทันที



ในบรรดาห้องแนะนำผลงานภาพวาดจากชาติต่างๆ นั้น ลุงหมีเลือกมานำเสนอเพียง 3 ห้องเพื่อแนะนำศิลปินที่ถือว่าเป็นสุดยอดศิลปิน 4 คน คือ Raphael, Rubens, Rembrandt และ Kandinsky

เริ่มจากห้องแรก คือ ศิลปะอิตาลี ระหว่างยุคคริสต์ศตวรรษที่ 13 ถึง 20 รูปแรกแสดงถึงการจัดวางรูปในห้องและรูปที่สองคือรูปวาดของ Raphael


Raphael (1483- 1520) เป็นศิลปินอิตาเลียนมีชื่อของยุค Renaissance โดยเขาเป็นลูกศิษย์ของ Leonardo da Vinci ภาพที่แสดงข้างบนตั้งชื่อว่า Conestabile Madonna แสดงภาพพระแม่มาเรียในวัยสาวกำลังอุ้มทารกเยซูอยู่ ภาพนี้วาดลงบนแผ่นไม้ ให้สีตัดกันของเครื่องแต่งกาย แสดงความอ่อนหวานของใบหน้าพระแม่และทารก โดยมีแสงจับไปที่ทั้งสองคน

ภาพวาดที่มีชื่อเสียงระดับ masterpiece ของ Raphael มีชื่อว่า The School of Athens เป็นภาพปูนเปียก (fresco) ของผนังวังของสันตะปาปาที่เมืองวาติกัน วาดขึ้นระหว่างปี 1509-1511 ภาพนี้เป็นการยกย่องเชิดชูนักปราญช์และผู้ใฝ่รู้ของกรุงโรม โดยมารวมตัวกันในอิริยาบถต่างๆ โดยส่วนใหญ่ไปยืนห้อมล้อมสุดยอดนักปราชญ์สองคน คือ Plato กับ Aristotle ลูกศิษย์คนโปรด Plato อยู่ในท่าชี้นิ้วขึ้นฟ้าเพื่อบ่งถึงบ่อเกิดของปัญญา ส่วน Aristotle กุมมืออาจารย์ไว้อันแสดงถึงความเคารพผู้ใหญ่ซึ่งเป็นหลักจริยธรรมที่สำคัญ ภาพนี้จึงถือเป็นสุดยอดภาพวาดของยุคคลาสสิกชิ้นหนึ่ง


ห้องที่สองที่ขอนำเสนอคือ ศิลปะชาวดัตช์ในยุคศตวรรษที่ 15 ถึง17 อันถือเป็นยุคทองของผลงานเด่น ภาพวาดของศิลปินมีชื่อแห่งยุคมักเป็นภาพขนาดใหญ่ดังเห็นในการจัดวางในห้อง และลุงหมีเลือกรูปหนึ่งมานำเสนอก่อน

ภาพข้างบนเป็นผลงานของ Sir Peter Paul Rubens (1577-1640) ผู้ตั้งรกรากในแคว้นของประเทศเบลเยี่ยมที่พูดภาษาดัตช์ (flemish) Rubens มีฝีมือวาดภาพยอดเยี่ยมจนได้รับแต่งตั้งให้เป็นศิลปินประจำราชสำนัก (court artist) ผลงานของเขาออกมาในแนวเรื่องราวทางศาสนา เทพปกรณัม (mythology) และเรื่องราวเปรียบเทียบสอนใจคน (allegory) ใช้สีสันสดใส วาดภาพคนได้สวยงามและใช้แสงจับไปที่จุดเด่นของภาพ ภาพข้างบนตั้งชื่อว่า Union of Earth and Water แสดงถึงความเชื่อมโยงพึ่งพิงกันของพื้นดินและแผ่นน้ำ โดยใช้ชายหนุ่มร่างกำยำกับหญิงงามผิวขาวผ่องเป็นตัวแทนความสัมพันธ์นี้

ภาพที่มีชื่อเสียงของ Rubens ภาพหนึ่งตั้งแสดงอยู่ที่ National Gallery ลอนดอน ชื่อว่า Samson and Delilah แสดงเหตุการณ์ตามตำนานโบราณว่า Samsan นักรบหนุ่มผู้ทรงพลังหลงสเน่ห์สาวสวย Delilah จนถูกหลอกให้ตัดผมสั้นและสูญเสียพลังแข็งแกร่งไป ภาพวาดนี้แสดงเหตุการณ์นั้นโดยใช้สีผิวที่ตัดกันของหญิงสาวกับชายหนุ่มในทำนองเดียวกับรูปแรก และมีแสงจับไปที่ร่างกายของหญิงสาว การสร้างองค์ประกอบของรูปมีลักษณะเร้าอารมณ์ (drama)

Screenshot

ศิลปินชาวดัชท์อีกคนหนึ่งซึ่งมีรูปวาดแสดงในห้องนี้คือ Rembrandt van Rijn (1606-1669) ผู้ได้รับการยกย่องให้เป็นสุดยอดศิลปินแห่งยุค ภาพวาดของ Rembrant มีจุดเด่นตรงที่สามารถวาดรูปคนได้เหมือนตัวจริง แสดงอารมณ์บนใบหน้าและท่าทาง ใช้แสงจับไปที่จุดต้องการเน้นโดยวาดภาพข้างหลัง (background) ให้ดูทึบจนเกือบเป็นสีดำ

ผลงานของ Rembrandt ในห้องศิลปินชาวดัตช์ที่ลุงหมีเลือกมานำเสนอมีชื่อว่า Return of Prodigal Son แสดงภาพเหตุการณ์เล่าถึงในคัมภีร์ไบเบิลว่า ลูกชายที่หลงผิดและหนีออกไปจากบ้าน ในที่สุดก็สำนึกผิดและกลับมาขออภัยจากพ่อ ภาพที่ Rembrandt วาดแสดงการต้อนรับและให้อภัยของตัวพ่อ ในบรรยากาศที่แสดงอารมณ์ร่วมยินดีของเพื่อนบ้านที่อยู่ในฉากหลังที่ค่อนข้างมืดสลัว โดยมีแสงจับไปที่พ่อกับลูกชายเป็นหลัก

รูปที่ถือเป็น masterpiece ของ Rembrandt มีตั้งแสดงเป็นการถาวรที่พิพิธภัณฑ์หลักของประเทศเนเธอร์แลนด์ คือ Rijkmuseum มีชื่อว่า Night Watch แสดงภาพกลุ่มผู้ชายที่รวมตัวกันเป็นกองกำลังรักษาความปลอดภัยให้แก่ประชาชน ภาพนี้ความจริงคือภาพเหมือน (portrait) ของบุคคลที่มีตัวตนจริงโพสท่าหมู่ให้ดูเป็นกองกำลัง โดยมีแสดงจับไปที่ผู้นำกลุ่มสองคนตรงกลางภาพ ส่วนคนอื่นส่วนใหญ่อยู่ในเงามืดสลัว

Screenshot
Screenshot

ห้องที่สามของหอศิลป์ Hermitage ที่ลุงหมีขอนำเสนอ คือ ห้องศิลปินรัสเซีย ในยุคศตวรรษที่ 16 ถึง 20 โดยเสนอภาพบรรยากาศของห้องและรูปวาดสองรูปของสุดยอดศิลปินภาพวาดของรัสเซีย คือ Vassily Kandinsky

Kandinsky (1866-1944) ได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินผู้บุกเบิกภาพวาดสไตล์ abstract (ศิลปะนามธรรม) คนสำคัญคนหนึ่ง โดยผลงานของเขาเน้นการแสดงออกทางอารมณ์ (expression) มากกว่าการวาดภาพเหมือน คือ ใช้ลายเส้น สีเข้มและความฉับไวในการใช้ฝีแปรงวาดภาพแสดงความรู้สึกและอารมณ์ของเขาออกมา โดยนำเสนอรูปทรงที่เรียบง่าย เหมือนภาพในยุคดึกดำบรรพ์ แต่พอเพียงให้คนดูตีความได้ว่าเขานำเสนออารมณ์ความคิดอย่างไร

ภาพที่นำมาเสนอข้างบนสองภาพนั้น รูปแรกตั้งชื่อว่าทิวทัศน์ในฤดูหนาว (landscape) ต้นไม้และหมู่บ้านถูกนำเสนอเป็นเส้นขีดและรูปทรงง่ายๆ เท่านั้น แต่คนดูจะรู้สึกถึงความหนาวเย็นของอากาศในฤดูหนาวได้ ส่วนรูปที่สองใช้ชื่อว่า composition#6 วาดขึ้นมาแบบด้นสดๆ ถึงอารมณ์เพลิดเพลินกับเสียงดนตรีในขณะนั้น โดยใช้ฝีแปรงที่ฉับไว ลายเส้นหลายรูปทรง และใช้สีเข้มตัดกับสีอ่อนมองเห็นได้ชัด คนดูภาพจะต้องรับรู้อารมณ์ของศิลปินผู้วาดเอาเอง

ลุงหมีได้นำเสนอภาพวาดมีชื่อของศิลปินดัง 4 คนโดยแต่ละคนมีสองภาพ อยากขอให้กลับไปมองดูภาพแต่ละคู่อีกครั้ง ก็จะเห็นความคล้ายคลึงในสไตล์วาดรูปของศิลปินแต่ละคน อันเปรียบเสมือนลายเซ็น (signature) ในการวาดภาพของเขา

หมายเหตุ: ที่มา… หนังสือเกี่ยวกับ 4 เล่ม คือ The Hermitage Picture Gallery, The Sistine Chapel and The Room of Raphael, The Story of Art , The A -Z of Art