ThaiPublica > สู่อาเซียน > จีน-เวียดนามลงนาม 45 ความร่วมมือ รวม 7 ข้อตกลงสำคัญว่าด้วยรถไฟและถนน

จีน-เวียดนามลงนาม 45 ความร่วมมือ รวม 7 ข้อตกลงสำคัญว่าด้วยรถไฟและถนน

15 เมษายน 2025


เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามโตเลิมและเลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานาธิบดีจีนสี จิ้นผิงชมเอกสารความร่วมมือที่ลงนามระหว่างสองประเทศ ที่มาภาพ:https://en.nhandan.vn/vietnam-china-ink-pivotal-agreements-on-railway-road-cooperation-post146599.html

จีนและเวียดนามได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือสำคัญ 45 ฉบับ โดยที่ 7 ฉบับเป็นเรื่องความร่วมมือในภาคส่วนทางรถไฟและถนน ในระหว่างการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการของประธานาธฺบดีสี จิ้นผิง ของจีน ระหว่างวันที่ 14-15 เมษายน ตามคำเชิญของเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม โต เลิมและประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เลือง เกื่อง

ในวันจันทร์ (14 เมษายน) จีนและเวียดนามได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือหลายสิบฉบับ ซึ่งกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงเตือนว่าลัทธิกีดกันการค้าไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร และไม่มีผู้ชนะในสงครามการค้า

สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เดินทางถึงเวียดนาม ซึ่งเป็นการเยือนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นครั้งแรก โดยจีนพยายามเสนอตัวเป็นทางเลือกที่มั่นคงแทนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่ประกาศนโยบายขึ้นภาษีศุลกากรครั้งใหญ่ในเดือนนี้ และก็กลับคำไปมา

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้รับการต้อนรับที่กรุงฮานอยด้วยการยิงปืนใหญ่สลุต 21 นัด กองทหารเกียรติยศ และเด็กๆ ที่เข้าแถวโบกธงที่ทำเนียบประธานาธิบดี ก่อนจะหารือกับผู้นำระดับสูงของเวียดนาม รวมถึงเลขาธิการใหญ่โต เลิม

ทั้งสองประเทศได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือ 45 ฉบับ รวมถึงเรื่องห่วงโซ่อุปทาน ปัญญาประดิษฐ์ การลาดตระเวนทางทะเลร่วมกัน และการพัฒนาระบบรางรถไฟ

ในบรรดาข้อตกลงความมือนั้น เป็นความร่วมมือสำคัญ 7 ฉบับในภาคส่วนทางรถไฟและถนนรวมถึงสนธิสัญญาระหว่างรัฐบาล 2 ฉบับ ความตกลงความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (ODA) 2 ฉบับระหว่างทั้งสองรัฐบาล และข้อตกลงระดับรัฐมนตรี 3 ฉบับ

การลงนามความร่วมมือสำคัญ 7 ฉบับดังกล่าวมีนายเจิ่นหง มินห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงก่อสร้างของเวียดนามเป็นตัวแทนฝ่ายเวียดนามในการลงนามเอกสารร่วมกับตัวแทนฝ่ายจีน

ภาคส่วนการรถไฟเป็นส่วนสำคัญของพิธีลงนาม โดยมีเอกสารสำคัญ 4 ฉบับที่มุ่งเร่งการจัดเตรียมและดำเนินการโครงการรถไฟข้ามชาติ ซึ่งรวมถึงบันทึกความเข้าใจ (MoU) ระหว่างกระทรวงก่อสร้าง (Ministry of Construct) ของเวียดนามและคณะกรรมการปฏิรูปและพัฒนาแห่งชาติของจีน (China’s National Development and Reform Commission) ในการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมด้านความร่วมมือทางรถไฟระหว่างเวียดนามและจีนเพื่อเร่งรัดโครงการรถไฟที่มีความสำคัญ

เอกสารอีกฉบับที่ลงนามคือบันทึกการทำงานระหว่างกระทรวงก่อสร้างและสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของจีน (China’s International Development Cooperation Agency :CIDCA) ซึ่งระบุแผนการสำรวจภาคสนามและการสนับสนุนทางวิชาการสำหรับการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการรถไฟสายหล่าวกาย-ฮานอย-ไฮฟอง นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนหนังสืออย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคของจีนในการวางแผนโครงการรถไฟรางมาตรฐาน รวมถึงเส้นทางด่งดัง-ฮานอย และหม่องก๋าย-ฮาลอง-ไฮฟอง การแลกเปลี่ยนหนังสืออย่างเป็นทางการอีกชุดหนึ่งยังยืนยันการสนับสนุนของจีนในการเตรียมการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการรถไฟรางมาตรฐานสายหล่าวกาย-ฮานอย-ไฮฟอง ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับขั้นตอนภายในและปูทางไปสู่การเริ่มต้นโครงการในระยะเริ่มต้น

ในด้านการขนส่งทางถนน มีการลงนามข้อตกลงเพิ่มเติมอีก 3 ฉบับ ซึ่งรวมถึง 1)ข้อตกลงระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งข้ามพรมแดนร่วมกันที่ด่านชายแดนระหว่างประเทศที่ แท็งทุย(Thanh Thuy)เวียดนาม กับ– เตียน เป่า(Tian Bao) ของจีน 2)พิธีสารที่ลดความซับซ้อนของขั้นตอนการเคลื่อนย้ายบุคลากร ยานพาหนะ อุปกรณ์ก่อสร้าง และวัสดุข้ามพรมแดน และ 3)บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางเทคนิคด้านถนนระหว่างกระทรวงก่อสร้างของเวียดนามและกระทรวงคมนาคมของจีน

ข้อตกลงด้านการขนส่งทางถนนเหล่านี้คาดว่าจะเป็นกรอบทางกฎหมายสำหรับจังหวัดห่าซางของเวียดนามและมณฑลยูนนานของจีนเพื่อร่วมลงทุนและดำเนินโครงการโครงสร้างพื้นฐานข้ามพรมแดน ซึ่งถือเป็นปัจจัยเร่งในการส่งเสริมการค้า อำนวยความสะดวกในการไหลเวียนของสินค้า และตอบสนองต่อความต้องการของการเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างสองจังหวัดและภูมิภาคโดยรวมที่เพิ่มขึ้น

บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางเทคนิคด้านถนนครอบคลุมการส่งเสริมความร่วมมือในการกำหนดมาตรฐานทางวิศวกรรม การพัฒนาเทคโนโลยีและวัสดุใหม่ๆ และการพัฒนาแนวทางการจัดการการก่อสร้างและการบำรุงรักษา

การเยือนเวียดนามของสี จิ้นผิงมีขึ้นเกือบสองสัปดาห์หลังจากที่สหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนามในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ได้เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเวียดนามถึง 46% ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการรุกคืบการค้าโลก

แม้มีการระงับการเก็บภาษีศุลกากรระหว่างเวียดนามและประเทศอื่นๆ ส่วนใหญ่ไปแล้ว แต่จีนยังคงต้องเผชิญกับภาษีศุลกากรที่สูงมาก และกำลังพยายามกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าในภูมิภาคและชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกของสี จิ้นผิงในปีนี้

จีนกล่าวว่า สี จิ้นผิงจะเดินทางออกจากเวียดนามในวันอังคาร โดยจะเดินทางต่อไปยังมาเลเซียและกัมพูชาในการเดินทางเยือนที่ “มีความสำคัญอย่างยิ่ง” สำหรับภูมิภาคโดยรวม

สี จิ้นผิงกล่าวระหว่างการพบปะกับนายเลิมว่าเวียดนามและจีน “ยืนอยู่บนจุดเปลี่ยนของประวัติศาสตร์… และควรเดินหน้าต่อไปด้วยความร่วมมือ”

ก่อนหน้านี้ สี จิ้นผิงเรียกร้องให้ทั้งสองประเทศ ปกป้องระบบการค้าพหุภาคี ห่วงโซ่อุปทานและอุตสาหกรรมโลกที่มั่นคง และสภาพแวดล้อมระหว่างประเทศที่เปิดกว้างและร่วมมือกันอย่างแน่วแน่”

พร้อมยังย้ำจุดยืนของจีนที่ว่า “สงครามการค้าและสงครามภาษีจะไม่มีผู้ชนะ และนโยบายคุ้มครองทางการค้าจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใด” ในบทความที่ตีพิมพ์เมื่อวันจันทร์ในหนังสือพิมพ์ Nhan Dan ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ของรัฐบาลเวียดนาม

  • สี จิ้นผิงเรียกร้องจีน-เวียดนามเสริมสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน
  • นายเลิม เลขาธิการพรรคของเวียดนามกล่าวในบทความที่โพสต์บนพอร์ทัลข่าวของรัฐบาลเมื่อวันจันทร์ว่า เวียดนาม “พร้อมเสมอที่จะร่วมมือกับจีนเพื่อให้ความร่วมมือระหว่างสองประเทศมีประโยชน์ ลึก สมดุล และยั่งยืนมากขึ้น”