ThaiPublica > Sustainability > Global Issues > Copernicus เปิดสถิติอุณหภูมิมกราคม 2568 เป็นเดือนมกราคมที่ร้อนที่สุดในโลกอีกครั้ง

Copernicus เปิดสถิติอุณหภูมิมกราคม 2568 เป็นเดือนมกราคมที่ร้อนที่สุดในโลกอีกครั้ง

7 กุมภาพันธ์ 2025


ที่มาภาพ: https://climate.copernicus.eu/copernicus-january-2025-was-warmest-record-globally-despite-emerging-la-nina

เดือนมกราคมอุณหภูมิสูงกว่าระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม 1.75 องศาเซลเซียส และสูงกว่าค่าเฉลี่ยของปี 1991-2020 ถึง 0.79 องศาเซลเซียส แม้คาดการณ์ว่าปรากฏการณ์สภาพอากาศลานีญาอาจทำให้อุณหภูมิลดลงก็ตาม

Copernicus เปิดสถิติมกราคม 2568 เป็นเดือนมกราคมที่ร้อนที่สุดในโลกอีกครั้ง

Copernicus Climate Change Service (C3S) หน่วยงานติดตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศของสหภาพยุโรป รายงานว่า เดือนมกราคม 2568 เป็นเดือนมกราคมที่ร้อนที่สุดในโลกอีกครั้ง โดยมีอุณหภูมิอากาศบนพื้นผิวตามชุดข้อมูล ERA5 เฉลี่ยอยู่ที่ 13.23 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของเดือนมกราคมในปี 1991-2020 ถึง 0.79 องศาเซลเซียส

เดือนมกราคม 2568 อุณหภูมิสูงกว่าระดับก่อนยุคอุตสาหกรรมถึง 1.75 องศาเซลเซียส และเป็นเดือนที่ 18 ในช่วง 19 เดือนที่ผ่านมา ที่อุณหภูมิอากาศบนพื้นผิวเฉลี่ยทั่วโลกสูงกว่าระดับก่อนยุคอุตสาหกรรมมากกว่า 1.5 องศาเซลเซียส(ชุดข้อมูลอื่นที่ไม่ใช่ ERA5 อาจไม่ยืนยันอุณหภูมิช่วง 18 เดือนที่สูงกว่า 1.5 องศาเซลเซียส ตามที่ระบุไว้ เนื่องจาก ERA5 จับอุณหภูมิทั่วโลกซึ่งสูงกว่า 1.5 เล็กน้อย เป็นเวลาหลายเดือน และมีความแตกต่างระหว่างชุดข้อมูลต่างๆ)

  • เริ่มต้นปี 2567 Copernicus บันทึกสถิติ มกราคมร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ทั่วโลก
  • ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา (กุมภาพันธ์ 2567 – มกราคม 2568) อุณหภูมิสูงกว่าค่าเฉลี่ยระหว่างปี 2534-2563 ถึง 0.73 องศาเซลเซียส และสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ประเมินไว้ของปี 2393-2543 ที่เป็นเกณฑ์ระดับก่อนยุคอุตสาหกรรมถึง 1.61 องศาเซลเซียส

    อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วยุโรปในเดือนมกราคม 2568 สูงขึ้น 1.80 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยระหว่างปี 1991-2020 ถึง 2.51 องศาเซลเซียส และเป็นเดือนที่ซึ่งร้อนที่สุดเป็นอันดับสองรองจากเดือนมกราคม 2563 ซึ่งอุณหภูมิสูงกว่าค่าเฉลี่ย 2.64 องศาเซลเซียส

    อุณหภูมิของยุโรปสูงกว่าค่าเฉลี่ยระหว่างปี 1991-2020 มากที่สุดในยุโรปตอนใต้และตะวันออก รวมถึงรัสเซียตะวันตก ในทางตรงกันข้าม อุณหภูมิต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในไอซ์แลนด์ สหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส และดินแดนทางเหนือของสแกนดิเนเวียที่เรียกว่าเฟนโนสแกนเดีย(Fennoscandia)

    นอกยุโรป อุณหภูมิจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยมากที่สุดในพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือของแคนาดา อลาสกา และไซบีเรีย นอกจากนี้ ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วอเมริกาใต้ตอนใต้ แอฟริกา พื้นที่ส่วนใหญ่ของออสเตรเลียและแอนตาร์กติกา

    อุณหภูมิต่ำกว่าค่าเฉลี่ยมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาและภูมิภาคตะวันออกสุดของรัสเซีย ชูคอตกา และคัมชัตกา คาบสมุทรอาหรับและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภาคพื้นทวีป (Mainland Southeast Asia) ก็มีอุณหภูมิต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเช่นกัน

    อุณหภูมิผิวน้ำทะเลเฉลี่ย (Sea Surface Temperature:SST) ในเดือนมกราคม 2568 ที่เหนือละติจูด 60 องศาใต้–60 องศาเหนือ อยู่ที่ 20.78 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นค่าสูงสุดเป็นอันดับสองเป็นประวัติการณ์ของเดือนน แต่ต่ำกว่าสถิติเดือนมกราคม 2567 ที่ 0.19 องศาเซลเซียส

    SST ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเหนือเส้นศูนย์สูตรแปซิฟิกตอนกลาง แต่ใกล้หรือสูงกว่าค่าเฉลี่ยเหนือเส้นศูนย์สูตรแปซิฟิกตะวันออก บ่งชี้ว่าการเคลื่อนไปสู่ปรากฎการณ์ลานีญาช้าลงหรือหยุดชะงัก SST ยังคงสูงผิดปกติในแอ่งมหาสมุทรและทะเลอื่นๆ หลายแห่ง

    ที่มาภาพ: https://climate.copernicus.eu/copernicus-january-2025-was-warmest-record-globally-despite-emerging-la-nina

    ซาแมนธา เบอร์เกสส์ หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์ด้านสภาพภูมิอากาศ จากศูนย์สภาพภูมิอากาศระยะกลางของยุโรป (European Centre for Medium-Range Weather Forecasts:ECMWF)กล่าวว่า “เดือนมกราคม 2568 เป็นเดือนที่เกินคาดอีกเดือนหนึ่ง โดยยังคงมีอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตลอดสองปีที่ผ่านมา แม้ว่าสภาวะลานีญาในมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อนจะก่อตัวและส่งผลต่ออุณหภูมิโลกให้เย็นลงชั่วคราว โคเปอร์นิคัสจะยังคงติดตามอุณหภูมิของมหาสมุทรอย่างใกล้ชิดและอิทธิพลของอุณหภูมิเหล่านี้ต่อสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปของเราตลอดปี 2568”

    เดือนมกราคม 2568 มีสภาพอากาศชื้นมากกว่าค่าเฉลี่ยในภูมิภาคต่างๆ ของยุโรปตะวันตก รวมถึงบางส่วนของอิตาลี สแกนดิเนเวีย และประเทศแถบบอลติก ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมในบางพื้นที่ ขณะเดียวกัน มีสภาพที่แห้งแล้งกว่าค่าเฉลี่ยในภาคเหนือของสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ สเปนตะวันออก และทางตอนเหนือของทะเลดำ

    นอกเหนือจากยุโรปแล้ว ยังมีความชื้นมากกว่าค่าเฉลี่ยในอลาสกา แคนาดา รัสเซียตอนกลางและตะวันออก ออสเตรเลียตะวันออก แอฟริกาตะวันออกเฉียงใต้ บราซิลตอนใต้ โดยภูมิภาคต่างๆ ประสบน้ำท่วมและได้รับความเสียหายที่เกี่ยวข้อง ส่วนสภาพอากาศที่แห้งกว่าค่าเฉลี่ยพบในสหรัฐอเมริกาตะวันตกเฉียงใต้และเม็กซิโกตอนเหนือ แอฟริกาเหนือ ตะวันออกกลาง ทั่วทั้งเอเชียกลางและในจีนตะวันออก รวมถึงในแอฟริกาตอนใต้ส่วนใหญ่ อเมริกาใต้ตอนใต้ และออสเตรเลีย

    น้ำแข็งในทะเลอาร์กติกแตะระดับต่ำสุดรายเดือนในเดือนมกราคม ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 6% แต่ใกล้เคียงกับเดือนมกราคม 2561 ในภูมิภาคอาร์กติก ความหนาแน่นของน้ำแข็งในทะเลต่ำกว่าค่าเฉลี่ยผิดปกติในภาคตะวันออกของแคนาดา รวมถึงอ่าวฮัดสันและทะเลลาบราดอร์ และในทะลสาปแบเรนต์สทางตอนเหนือ

    ผืนน้ำแข็งในทะเลแอนตาร์กติกต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5% และค่อนข้างใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาอื่นๆ ต่างจากที่บันทึกได้หรือค่าที่ใกล้เคียงที่บันทึกได้ในปี 2566-2567

    ในภูมิภาคแอนตาร์กติก ความหนาแน่นของน้ำแข็งในทะเลสูงกว่าค่าเฉลี่ยในทะเลอามุนด์เซน และโดยรวมผสมปนเปกันในภาคมหาสมุทรอื่นๆ