
ABACUS digital ชูเทคโนโลยี AI แก้ปัญหาหนี้ไทยอย่างยั่งยืน ผ่านแอปพลิเคชั่น “มันนี่ทันเดอร์ (MoneyThunder)” เผย 5 ปี ปล่อยสินเชื่อแล้วกว่า 2.4 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้าปี 2568 กำไรโต 40% ขยายตลาดสู่ภูมิภาค
ดร.สุทธาภา อมรวิวัฒน์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อบาคัส ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันหนี้ครัวเรือนไทยต่อ GDP อยู่ที่ 89.6% (ข้อมูลเดือนมิถุนายน 2567) เป็นปัญหาต่อระบบเศรษฐกิจไทย อีกทั้งพบว่ามีครัวเรือนไทยถึง 42% ที่ยังประสบปัญหาหนี้ โดยมูลค่ารวมสูงถึง 8 หมื่นล้านบาท สาเหตุหลักมาจากข้อจำกัดในการเข้าถึงสินเชื่อในระบบ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางอย่างกลุ่มแรงงาน ฟรีแลนซ์ และผู้ประกอบการรายย่อยที่มีอยู่กว่า 21.3 ล้านคน
ดร.สุทธาภา อธิบายว่า เรื่องสินเชื่อมีผู้ที่เกี่ยวข้อง 3 ส่วน คือผู้กู้ ผู้ให้กู้ และผู้กำหนดนโยบาย ซึ่งแต่ละส่วนก็มีโจทย์ที่แตกต่างกัน
- ผู้กู้ มองว่าการสมัครสินเชื่อยาก เอกสารเยอะ ใช้เวลานาน และถูกปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคาร ทำให้ต้องพึ่งพาหนี้นอกระบบที่ดอกเบี้ยสูง และมีความเสี่ยงในการติดตามหนี้
- ผู้ให้กู้ มีต้นทุนในการดำเนินงานสูง ประเมินความเสี่ยงไม่แม่นยำ และติดข้อจำกัดจากระเบียบและข้อบังคับ
- ผู้กำหนดหรือผู้กำกับนโยบาย ต้องคำนึงถึงมุมปกป้องสิทธิผู้บริโภค ควบคุมระดับหนี้ครัวเรือน และรักษาเสถียรภาพสถาบันการเงิน
ดร.สุทธาภา กล่าวต่อว่า อบาคัส ดิจิทัล จึงมุ่งพัฒนาแอปพลิเคชันสินเชื่อออนไลน์ “มันนี่ทันเดอร์” (Money Thunder) เพื่อช่วยขยายโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน พร้อมผลักดันเศรษฐกิจที่เท่าเทียมและสร้างความมั่นคงในระยะยาว และเชื่อมั่นว่าการใช้เทคโนโลยี AI อย่างมีประสิทธิภาพจะเป็นกุญแจสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตและสนับสนุนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ผ่าน 3 แกนหลักคือ
- นำเทคโนโลยี AI และข้อมูลทางเลือกมาใช้วิเคราะห์ความเสี่ยงอย่างแม่นยำ
- เพิ่มโอกาสให้คนตัวเล็กที่มีเครดิตน้อยสามารถเริ่มต้นมีสินเชื่อในระบบได้
- ลดความเสี่ยงในการถูกฉ้อโกง และลดต้นทุนในการใช้สินเชื่อ
ทั้งนี้ “มันนี่ทันเดอร์” มียอดดาวน์โหลดสูงกว่า 20 ล้านครั้ง โดยมีจุดเด่นที่แตกต่าง คือ เทคโนโลยี AI ที่พัฒนาขึ้นเองจากความเข้าใจปัญหาทางการเงินของคนไทยอย่างแท้จริง ซึ่งสามารถใช้ในการประเมินความเสี่ยงได้อย่างแม่นยำ ลดต้นทุนและเพิ่มความปลอดภัยในกระบวนการให้สินเชื่อ และให้บริการช่องทางออนไลน์ตลอด 24 ชม. ผู้กู้สามารถใช้ข้อมูลทางเลือกที่เหมาะสมกับตนเอง เช่น บิลค่าน้ำค่าไฟ ยอดขายออนไลน์ ในการสมัครสินเชื่อ โดยมีการอนุมัติที่รวดเร็วไวสุดใน 2 นาที และมีดอกเบี้ยเป็นธรรม โดยปัจจุบันให้บริการคนไทยได้อย่างทั่วถึง มีจำนวนผู้ใช้เติบโตแบบก้าวกระโดดสูงกว่า 4 ล้านคน และปล่อยสินเชื่อแล้วกว่า 2.4 หมื่นล้านบาท
ดร.สุทธาภา กล่าวต่อว่า มันนี่ทันเดอร์ อนุญาตให้ผู้ใช้เปลี่ยนจากสินเชื่อหมุนเวียนเป็นสินเชื่อแบบกำหนดระยะเวลา หรือลดจำนวนเงินผ่อนชำระลงชั่วคราว พร้อมทั้งฟีเจอร์ที่ช่วยสร้างวินัยการชำระอย่าง ฟีเจอร์คะแนนการชำระเงิน (Repayment Score) ที่จะช่วยให้ผู้กู้รักษาเครดิตได้ในระยะยาว ตลอดจนการใช้แชทบอตในการให้บริการตลอด 24 ชม. ทั้งการตอบคำถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และฟีเจอร์ “รู้ทันหนี้” เพื่อช่วยเพิ่มพูนความรู้ในการจัดการหนี้ ตอกย้ำบทบาทสำคัญในการช่วยแก้ปัญหาหนี้ของคนไทย และลดความเหลื่อมล้ำทางการเงินในสังคม
“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามันนี่ทันเดอร์ได้สร้างความสำเร็จในการเปิดโอกาสทางการเงินให้คนไทยอย่างแท้จริง โดยพบว่าผู้ใช้สินเชื่อกว่า 1 ใน 3 เคยพึ่งพาสินเชื่อนอกระบบ และกว่า 30% เคยถูกปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคาร ทั้งนี้ มากกว่า 50% ของผู้ใช้งานมีรายได้ที่ดีขึ้นหลังได้รับสินเชื่อจากมันนี่ทันเดอร์ นอกจากนี้เรายังได้ส่งเสริมความเท่าเทียมในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยมีสัดส่วนถึง 63% ของลูกค้าทั้งหมดที่เป็นผู้หญิง ซึ่งเทียบกับตลาดอยู่ที่เพียง 40% ตอกย้ำบทบาทสำคัญในการสนับสนุนผู้ประกอบการหญิงและปลดล็อกศักยภาพทางเศรษฐกิจพร้อมเปิดโอกาสการเข้าถึงทางการเงินให้กับคนไทย” ดร.สุทธาภา กล่าว

ด้าน ดร.ศรัณย์ อาฮูยา Chief Data Scientist บริษัท อบาคัส ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้พัฒนาเทคโนโลยี ABACUS techsuite เพื่อช่วยธุรกิจในการวิเคราะห์และตัดสินใจทางการเงิน เน้นความเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ประสบการณ์ทางเทคโนโลยีและความชำนาญจากการพัฒนามันนี่ทันเดอร์มาตลอด 5 ปี และต่อยอดไปสู่การสร้าง ABACUS check ซึ่งเป็นเทคโนโลยี AI ที่ช่วยยกระดับการวิเคราะห์ข้อมูลสเตทเมนต์ธนาคาร ที่ให้ผลลัพธ์เชิงลึกภายใน 1 นาที พร้อมฟังก์ชันตรวจจับการปลอมแปลงเอกสารที่แม่นยำ และความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกที่ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจข้อมูลทางการเงินได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ดร.ศรัณย์ กล่าวต่อว่า นวัตกรรมนี้ยังช่วยลดความเสี่ยง เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจหลากหลายประเภท อาทิ สถาบันการเงิน ธุรกิจเช่าซื้อ และอสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้ อบาคัส ดิจิทัล ตั้งเป้ากำไรโต 40% ในปี 2568 พร้อมเดินหน้าขยายบริการสินเชื่อ และส่งเทคโนโลยี AI สู่ตลาดภูมิภาคภายใต้ 2 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ (1) การพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าปัจจุบัน พร้อมขยายฐานลูกค้าใหม่ (2) การนำเสนอผลิตภัณฑ์เสริม ที่เพิ่มคุณค่าให้กับลูกค้า เช่น ผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่พัฒนาร่วมกับพันธมิตร