รายงานโดย ปรีดี บุญซื่อ
The Wall Street Journal (WSJ) ฉบับวันที่ 6 ธันวาคม 2567 รายงานว่า เหตุการณ์ลอบสังหาร Brian Thompson ซีอีโอ บริษัท UnitedHealthcare ทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจของคนอเมริกันอย่างรุนแรงมากขึ้น ในเรื่องการคุ้มครองจากการประกันสุขภาพ โดยเฉพาะบริษัทประกันที่ปฏิเสธ จะจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลแก่คนเอาประกัน
คำว่า “deny” (ปฏิเสธ) “defend” (สู้คดี) และ “depose” (ปิดคดี) ที่มือปืนเขียนบนปลอดกระสุนปืน ตกอยู่นอกโรงแรมที่เกิดเหตุ กลางเกาะแมนฮัตตัน นิวยอร์ก เป็นคำที่คุ้นเคยกันอย่างดี ในหมู่คนที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ ระหว่างลูกค้าทำประกันกับบริษัทประกัน ในเรื่องเงินชดเชย แต่ในกลุ่มองค์กรที่สนับสนุนผู้เอาประกัน จะใช้คำว่า “delay” (ถ่วงเวลา) “deny” และ “defend” เป็นคำ 3 คำ ที่สะท้อนยุทธวิธีของบริษัทประกัน ในเรื่องการลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเงินชดเชย
วิธีการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ใช้มานาน
ความไม่พอใจของคนอเมริกันต่อบริษัทประกันสุขภาพ มีสาเหตุจากธุรกิจประกันภัยใช้วิธีการปฏิบัติแบบนี้มายาวนาน ในการควบคุมต้นทุนการประกันสุขภาพ เช่น นโยบายที่คนไข้และแพทย์ จะต้องได้รับการอนุมัติค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ก่อนจะดำเนินการเรื่องการรักษาพยาบาล
รายงาน WSJ ระบุว่า ในปี 2023 จากการสำรวจความเห็นแพทย์ 1,000 คน ของสมาคมการแพทย์อเมริกา กล่าวว่า 1 ใน 4 ของแพทย์เห็นว่า วิธีการอนุมัติค่าใช้จ่ายล่วงหน้าทำให้เกิดกรณีเลวร้ายต่อคนไข้ 78% บอกว่าวิธีการนี้ทำให้มีการยกเลิกการรักษา และ 94% บอกว่า ทำให้การรักษาที่จำเป็นแก่คนไข้ ต้องล่าช้าออกไป
รายงานของบริษัทวิจัย KFF กล่าวว่า การต้องได้รับอนุมัติค่าใช้จ่ายล่วงหน้า เป็นวิธีการที่บริษัทประกันใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะการบริการทางการพทย์บางอย่าง ข้อมูลปี 2022 บริษัทประกันปฏิเสธ 10% ของการขออนุมัติล่วงหน้าใน 46 ล้านกรณี ในบรรดาบริษัทประกันสุขภาพ อัตราการปฏิเสธอยู่ที่ 4-13% สำหรับ UnitedHealthcare อัตราอยู่ที่ 7.4%
ระบบประกันสุขภาพอเมริกา
การประกันสุขภาพของอเมริกามีหลายระบบ ทำให้เกิดความสับสนในการดำเนินงาน โดยมีระบบใหญ่อยู่ 4 ระบบด้วยกัน ที่ให้ประกันสุขภาพแก่คนอเมริกัน 290 ล้าน และมี 28-30 ล้านคนที่ไม่ได้รับการคุ้มครอง
ระบบประกันสุขภาพใหญ่สุดคือ การประกันสุขภาพโดยเอกชน (private insurance) ที่นายจ้างออกค่าใช้จ่ายซื้อประกันทั้งหมดหรือออกให้บางส่วน ให้พนักงานกับครอบครัว มีบริษัทประกันอย่างเช่น UnitedHealthcare ดูแลการจ่ายค่ารักษาพยาบาล ในปี 2017 ประกันสุขภาพโดยนายจ้างครอบคลุมกว่า 50% ของคนอเมริกันทั้งหมด คือ 156-181 ล้านคน และอีก 15 ล้านคนซื้อประกันสุขภาพเอง
ระบบที่ 2 เป็นการประกันสุขภาพโดยรัฐ (state insurance) เรียกว่า Medicare รัฐบาลดูแลสุขภาพคนอเมริกันอายุ 65 ปีขึ้นไป และคนพิการที่อายุต่ำกว่า 65 ปี Medicare ครอบคลุมคนอเมริกัน 18% หรือ 58 ล้านคน
ระบบที่ 3 เป็นการประกันสุขภาพโดยรัฐ เรียกว่า Medicaid ที่ครอบคลุมคนอเมริกันรายได้ต่ำ และคนพิการ แต่ละรัฐกำหนดคนมีคุณสมบัติที่จะได้รับบริการ Medicaid ระบบนี้ครอบคลุมคนอเมริกัน 65 ล้านคน นอกจากนี้ยังมีประกันสุขภาพของรัฐ ที่ให้แก่ทหารผ่านศึก
ระบบที่ 4 คือการซื้อประกันสุขภาพเอง เพราะอายุต่ำกว่า 65 ปี จึงไม่ได้รับสิทธิตามโครงการรัฐ Medicare หรือไม่มีนายจ้างซื้อประกันให้ การซื้อประกันสุขภาพเองจะได้รับการอุดหนุนทางการเงินจากรัฐ ขึ้นกับระดับรายได้ เพื่อลดภาระค่าเบี้ยประกัน มีคนอเมริกันอยู่ในระบบนี้ 11 ล้านคน 8 ล้านคนได้รับการอุดหนุนทางการเงิน
นโยบายที่ทำลายความหวังคนชั้นกลาง
มือปืนสังหารซีอีโอ UnitedHealthcare ทิ้งหลักฐานสำคัญอย่างหนึ่ง คือคำที่เขียนบนปลอกกระสุนปืนว่า delay, deny และ depose คำพูด 3 คำนี้ไปเกี่ยวพันกับหนังสือชื่อ Delay, Deny, Defend ที่เขียนเรื่องบริษัทประกัน หาทางหลีกเลี่ยงที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลแก่ผู้เอาประกัน หลักฐานนี้ทำให้ตำรวจนิวยอร์คิดว่า มือปืนเป็นอดีตพนักงานหรือลูกค้าของ UnitedHealthcare
Delay, Deny, Defend (2010) ของ Jay Feinman อาจารย์กฎหมายของ Rutgers University กล่าวว่า การประกันภัยคือการคุ้มครองสำคัญที่สุด ต่อมาตรฐานชีวิตของคนชั้นกลางอเมริกัน การมีงานทำที่ดีเป็นหนทางที่คนเราจะมีบ้าน รถยนต์ การศึกษาระดับมหาวิทยาลัยของลูกหลาน และการเกษียณที่สุขสบาย การประกันภัยคือการให้ความมั่นคงในสิ่งเหล่านี้ เมื่อเผชิญความไม่แน่นอนของชีวิต เช่น บ้านอาจถูกไฟไหม้
การประกันภัยของเจ้าของบ้าน ทำให้มีเงินที่จะสร้างขึ้นมาใหม่ รถยนต์เกิดอุบัติเหตุ ประกันรถยนต์จะจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถยนต์ รวมทั้งค่าเสียหายแก่คนอื่นที่ได้รับบาดเจ็บ การเจ็บป่วย บาดเจ็บ และการตาย อาจเกิดขึ้น แต่การประกันสุขภาพ ประกันการทุพพลภาพ และการประกันชีวิต จะลดภาระค่าใช้จ่ายแก่คนที่เป็นเสาหลักครอบครัว
ธุรกิจประกันมีอายุมานาน 5 พันปี เมื่อพ่อค้าเมืองบาบีโลนพบนักลงทุนที่ยินดีประกันความเสี่ยงของสินค้า ที่อาจสูญหายในทะเล ต่อมาจึงพัฒนาเป็นที่มาของการประภัยทางทะเล ทุกวันนี้ การประกันภัยในสหรัฐฯเป็นอุตสาหกรรมมูลค่าล้านล้านดอลลาร์ มีบริษัทประกันภัยต่างๆ 2,700 บริษัท มีรายได้เบี้ยประกันปีหนึ่ง 440 พันล้านดอลลาร์ และจ่ายค่าสินไหมชดเชย 250 พันล้านดอลลาร์
หนังสือ Delay, Deny, Defend กล่าวว่า การประกันภัยจะทำหน้าที่เป็นผู้ปกป้องมาตรฐานชีวิตของคนกลางได้ ก็ต่อเมื่อระบบประกันทำงานได้ผลอย่างน่าพอใจ การซื้อประกันไม่เหมือนกับการซื้อสินค้าอื่น แต่จะเหมือนกับการซื้อ “คำมั่นสัญญา” (promise) ในการตอบแทนแก่คนที่ซื้อประกัน
บริษัทประกันสัญญาที่จะรับความเสี่ยง จากการสูญเสียทางการเงิน ที่ผู้เอาประกันไม่สามารถแบกรับด้วยตัวเอง
โฆษณาของ State Farm ยักษ์ใหญ่ประกันภัยทรัพย์สินและรถยนต์ของสหรัฐฯกล่าวว่า “เหมือนเพื่อนบ้านที่ดี State Farm จะอยู่ที่นั้น”
แต่การประกันภัยไม่ได้ผล เมื่อบริษัทประกันไม่ได้ทำตามนโยบาย ที่เป็นคำมั่นสัญญาว่าจะให้ความมั่นคงแก่ผู้เอาประกัน โดยการใช้วิธีการที่เรียกว่า “ถ่วงเวลา ปฏิเสธ ต่อสู้คดี” (delay, deny, defend) บริษัทประกันใช้การถ่วงเวลา ที่จะจ่ายเงินแก่ผู้เอาประกัน ปฏิเสธทั้งหมดหรือบางส่วนของการเคลมประกันที่สมเหตุผล ต่อสู้คดีกับการฟ้องของผู้เอาประกันที่ไม่มีทางเลือกอื่น
หนังสือ Dealy, Deny, Defend บอกว่า เมื่อการประกันภัยไม่สามารถดำเนินงานได้ผล ผลลัพธ์ตามมาจะรุนแรงมากกว่าบริษัทธุรกิจอื่นๆ ที่ไม่สามารถรักษาคำมั่นสัญญา หากเจ้าของบ้านจ้างช่างทาสี แต่ไม่มารับงาน เจ้าของบ้านสามารถจ้างช่างคนอื่นแทน หากบริษัทประกันปฏิเสธที่จะจ่ายค่าเคลมประกัน มันสายเกินไปที่จะวิ่งหาประกันรายอื่นแทน เพราะไม่มีบริษัทประกันรายไหน ที่มีนโยบายจ่ายค่าเสียหายจากไฟไหม้ ที่เกิดขึ้นแล้ว
ปัญหาที่ใหญ่กว่าการสังหาร Brian Thompson คือความล้มเหลวและไม่ประสบความสำเร็จของระบบการประกันสุขภาพอเมริกา ที่น่าเศร้าก็คือคนอเมริกันยังเต็มใจที่จะยอมรับสภาพแบบเดิมนี้ โดยปล่อยให้ธุรกิจประกันภัยมีกำไรมาศาล จากการสูญเสียของคนเอาประกัน
เอกสารประกอบ
Delay, Deny, Defend, Jay Feinman,2010, Penguin Group.
Reaction to Killing Spotlights Widespread Anger at Insurance, 06DEC2024,The Wall Street Journal,
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
