พรรคร่วมรัฐบาลจับมือแถลงร่วมสนับสนุน น.ส. แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 16 สิงหาคมนี้
หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยในวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลง เนื่องจากไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) และมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ในการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน ซึ่งเป็นผู้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้นายเศรษฐา พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และสภาผู้แทนราษฎร ได้มีการนัดประชุมสภาฯในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญนั้น
พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำพรรครัฐบาล มีมติเสนอชื่อ น.ส. แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 31
เวลา 17.00 น ของวันที่ 15 สิงหาคม 2567 ที่อาคารชินวัตร 3 พรรคร่วมรัฐบาลประกอบด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรค ประชาชาติ ซึ่งเดินทางมาถึงเป็นคนแรก นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้เดินทางมาร่วมแถลงข่าวเพื่อสนับสนุน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ตามมติกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ในการประชุม สภาผู้แทนราษฎร วันที่ 16 สิงหาคม 2567
นาย สรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้เปิดการแถลงข่าว โดยระบุว่า มติพรรคร่วมรัฐบาล ได้เห็นร่วมกันว่าจะเสนอชื่อ นางสาว แพทองธาร ชินวัตร ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 16 สิงหาคม นี้ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ
จากนั้น นายอนุทิน ได้กล่าวว่า วันนี้เป็นสปิริตของพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคในรัฐบาล เมื่อมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ทำให้นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ พวกเราจึงพร้อมใจกันเพื่อความไม่ชะงักของการบริหารราชการแผ่นดิน พรรคร่วมรัฐบาลจึงพร้อมใจให้พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล เสนอชื่อบุคคลที่จะมาเป็นนายกฯ คือ น.ส.แพทองธาร
“พรรคภูมิใจไทยได้ประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรของพรรค และเห็นร่วมกันว่าสนับสนุน น.ส.แพทองธาร เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และมีความมั่นใจ และเชื่อว่าภายใต้การนำของว่าที่นายกฯ แพทองธาร พวกเราทุกคนพร้อมที่จะให้การสนับสนุน ร่วมมืออย่างเต็มที่ และพร้อมที่จะปฏิบัติตามนโยบายของนายกฯ นับตั้งแต่วันแรกที่ดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการ” นายอนุทินกล่าว
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เพื่อไม่ให้การบริหารราชการแผ่นดินต้องล่าช้าและขาดตอน พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเศรษฐา อยู่แล้ว และเชื่อมั่นในพรรคเพื่อไทย จึงสนับสนุนตัวแทนของพรรคเพื่อไทย มั่นใจในความรู้ความสามารถของน.ส.แพทองธาร จึงต้องสนับสนุนเป็นนายกฯ ในวันพรุ่งนี้เช่นเดียวกันกับพรรคร่วมทุกพรรค
ด้าน นายพีระพันธ์ กล่าวว่า เกือบ 1 ปีเต็มที่พรรครวมไทยสร้างชาติที่ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน และพรรคร่วมรัฐบาล เราได้ร่วมกันทำงานด้วยความตั้งใจ มุ่งมั่นบริหารราชการแผ่นดินเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ แม้ช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย วันที่ 13 สิงหาคม นายกฯ เศรษฐายังมาร่วมประชุม ครม. พิจารณาวาระสำคัญๆแต่เมื่อเกิดเหตุการณ์วันที่ 14 สิงหาคม ทำให้การปฏิบัติภารกิจของนายเศรษฐาต้องยุติลงเป็นที่น่าเสียใจ แต่ประเทศชาติและผลประโยชน์ของประชาชนต้องเดินหน้าต่อ
ดังนั้นเมื่อพรรคเพื่อไทยที่ได้ตัดสินใจส่ง น.ส.แพทองธาร พรรครวมไทยสร้างชาติมีความเห็นตรงกันว่าให้สนับสนุนคนของพรรคเพื่อไทยเป็นนายกฯ ก็รู้สึกดีใจและขอให้ประสบความสำเร็จในการนำรัฐบาลต่อไป
นายวราวุธ กล่าวว่า วันนี้พรรคชาติไทยพัฒนาได้ให้คำมั่นกับพรรคร่วมรัฐบาลไม่เปลี่ยนแปลง คำไหนคำนั้น ทำงานกันมาถึงวันนี้แม้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ต้องขอบคุณนายเศรษฐาที่ทำงาน 350 กว่าวัน แต่วันนี้ พรรคเพื่อไทยได้เสนอ น.ส.แพทองธาร เป็นนายกฯ เรายืนยันที่จะสนับสนุนเป็นนายกฯ คนที่ 31 และให้คำมั่นว่าการทำงานของพวกเราจะผลักดันให้รัฐนาวาลำนี้ไปถึงฝั่งให้ได้
พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง ตัวแทนจากพรรคประชาชาติ กล่าวว่าได้เข้าร่วมรัฐบาลภายใต้การนำของนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ตลอดระยะเวลา 1 ปี นายกฯ เศรษฐา มีภาวะผู้นำมุ่งมั่นกับงาน เราเข้าใจว่าปัญหาของประเทศชาติมีความสลับซับซ้อน และมีความคิดต่างกัน นายกฯ เศรษฐา ได้ใช้ความเป็นผู้นำขับเคลื่อนพรรคร่วมรัฐบาลทุกคน พร้อมให้กำลังใจ และรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับท่าน แต่บ้านเมืองจะต้องมีผู้มารับต่อ และเราเชื่อมั่นในพรรคเพื่อไทย วันนี้เมื่อพรรคเพื่อไทยได้เสนอ แพทองธาร หัวหน้าพรรคฯ เป็นนายกฯ เราก็พร้อมที่จะขับเคลื่อนและเราก็ขอยืนยันจะแก้ปัญหาของประชาชนภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่เราจะร่วมกันโหวตให้
ด้านนายสุวัจน์ กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนาเป็นส่วนหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาลในวันที่ประเทศชาติ มีวิกฤติเศรษฐกิจ ต้องมีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ แล้วในสถานการณ์ที่จำเป็นต้องมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยพรรคชาติพัฒนายินดีที่จะเป็นส่วนหนึ่ง ในการการสนับสนุนพรรคร่วมรัฐบาลให้จัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ และ ยินดีที่จะสนับสนุน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้
นายสุวัจน์ กล่าวอีกว่า เชื่อมั่นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่เป็นนักการเมืองรุ่นใหม่และจะเป็นผู้ที่สร้างประวัติศาสตร์ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีอายุน้อยที่สุดและจะเป็น change ของการเมืองโลก เพราะการขึ้นมาสู่ตำแหน่งการเมืองของนักการเมืองรุ่นใหม่ จะทำให้ นานาชาติหันกลับมามองประเทศไทย เพราะเป็นเรื่องของการ transition ผู้นำการเมืองยุคใหม่ นอกจากนี้ ยังมีความรู้ด้านธุรกิจ และการเป็นผู้นำประเทศไม่ใช่เป็นเรื่องของเศรษฐกิจหรือคนรุ่นใหม่อย่างเดียว แต่ต้องบริหารการเมืองด้วย แม้ น.ส.แพทองธาร เป็นนักการเมืองใหม่แต่อยู่กับครอบครัวนักการเมืองมาตลอด ดังนั้นความรู้ ความเข้าใจ บวกกับนักการเมืองรุ่นใหม่ เข้าใจเศรษฐกิจเป็นพื้นฐาน มั่นใจ น.ส.แพทองธารนำประเทศและแก้ปัญหาของประเทศให้ลุล่วงไปด้วย
ด้าน น.ส.แพทองธาร กล่าวขอบคุณกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่ให้ความไว้วางใจ เสนอชื่อให้เป็นบุคคลที่สมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ขอขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคสำหรับการสนับสนุนนี้ แน่นอนว่าจะทำงานอย่างเต็มความสามารถ และขอให้รอดูผลการลงมติในวันพรุ่งนี้อย่างเป็นทางการ
น.ส.แพทองธาร กล่าวอีกว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราทุกคนชื่นชมในการทำงานของอดีตนายกฯเศรษฐา ทวีสิน เสียดายที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างที่เราไม่ได้คาดฝันเอาไว้ นายเศรษฐา เป็นผู้ใหญ่ที่เคารพรักนับถือมาตั้งแต่ก่อนเป็นนายกรัฐมนตรี มีความมุ่งมั่นตั้งใจทำงาน แม้เสียดายโอกาสนี้ แต่ประเทศต้องไปต่อ พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตัังรัฐบาล
“วันนี้เรามีความพร้อม ดิฉันมั่นใจในพรรคเพื่อไทย มั่นใจในพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ที่จะช่วยกันนำพาประเทศของเราให้หลุดพ้นจากวิกฤติเศรษฐกิจ เรามารวมตัวกันในวันนี้เพื่อให้พี่น้องประชาชนเห็นว่าเรามีความตั้งใจ มีความมุ่งมั่น มีความพร้อมเพรียงกัน ในการผลักดันประเทศให้ไปต่อ ขอขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างมากที่มาร่วมกัน รวมกัน ตกลงกัน ทำเพื่อประเทศชาติร่วมกันต่อไป” น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า
ผู้สื่อข่าวถามถึงโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตว่ายังเดินหน้าอยู่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการโหวตเป็นนายกฯ เลย ขอให้ทุกอย่างเป็นทางการก่อน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการปรึกษาครอบครัวหรือไม่ น.ส.แพทองธารระบุว่า ทุกเรื่องปรึกษาครอบครัวอยู่แล้ว เรามาถึงจุดที่ทำให้ประเทศชาติไปต่อ เรายินดีและตั้งใจ เราได้พูดคุยกันและเคารพการตัดสินใจเสมอ พร้อมกับปรึกษา ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นบิดา เป็นผู้มีประสบการณ์ และยังเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีมาก่อนด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะปรึกษากับ ดร.ทักษิณ ใกล้ชิดมากขึ้นหรือไม่ น.ส.แพทองธารระบุว่า “ไม่ค่ะ เท่าเดิม เพราะใกล้มากอยู่แล้ว”
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการพูดคุยหารือกับนายเศรษฐา หรือไม่ น.ส. แพทองธาร ตอบว่า “คุณเศรษฐา เป็นคนสนับสนุนให้ดิฉันได้รับการเสนอชื่อ ส่วนตัวมีความเคารพคุณเศรษฐาอยู่แล้ว พูดคุยกันตั้งแต่เมื่อวาน และท่านให้การสนับสนุนเรื่องนี้มาก ท่านเป็นคนที่มี passion เยอะมากๆ อยากผลักดันนโยบายให้สำเร็จ มี energy เต็มร้อย มุ่งมั่นในการทำงานมากๆ ดิฉันหวังว่าจะผลักดันนโยบายต่างๆของพรรคเพื่อไทย ของพรรคร่วมรัฐบาลให้สำเร็จ”
‘แพทองธาร ชินวัตร’นายกรัฐมนตรีคนที่ 31
น.ส. แพทองธาร ชินวัตร เกิดเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ.2529 อายุ 38 ปี ชื่อเล่น อุ๊งอิ๊ง จบป.5 จากโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ และศึกษาต่อที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัยในระดับ ป.6-ม.6
ต่อมาในปี พ.ศ.2547 ได้สอบเข้าศึกษาคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในสาขาวิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา โดยถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าสอบได้เพราะ “ข้อสอบรั่ว” แต่ น.ส. แพทองธาร ยืนยันว่า อ่านหนังสือและเรียนพิเศษเหมือนกับเด็กคนอื่นจนสอบติด ไม่ใช่มีข้อสอบรั่วหรือทุจริตการสอบโดยใช้อำนาจบิดาซึ่งขณะนั้นเป็นนายกรัฐมนตรี
น.ส. แพทองธาร สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี พ.ศ.2551 จากนั้นได้เดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ ในสาขาวิชา Msc International Hotel Management ที่มหาวิทยาลัยเซอร์เรย์ และกลับมาดูแลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว โดยเป็นประธานเจ้าหน้าที่ด้านบริหาร กลุ่มธุรกิจโรงแรม บริษัท เรนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด กรรมการบริษัทธุรกิจในเครือโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ, โรงแรม เทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ และสนามกอล์ฟอัลไพน์ โรงแรมเอสซี ปาร์ค
เมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2562 น.ส. แพทองธาร สมรสกับ ปิฎก สุขสวัสดิ์ ที่ โรงแรมโรสวูด ฮ่องกง มีบุตรสาว 1 คน คือ ธิธาร สุขสวัสดิ์ และมีบุตรชาย 1 คน คือ พฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์
น.ส. แพทองธารเข้าสู่เส้นทางการเมืองในปี พ.ศ.2564 เมื่อ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ประกาศลาออก และเปิดตัวแพทองธารเป็นประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมของพรรค ต่อมาที่ประชุมของพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ.2565 เห็นชอบให้รับตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2566 ได้เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนที่ 8
ในการเลือกตั้งปี 2566 พรรคเพื่อไทยเสนอชื่อน.ส. แพทองธาร ชินวัตร นายเศรษฐา ทวีสิน และนายชัยเกษม นิติสิริ อยู่ในบัญชีรายชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
