ThaiPublica > เกาะกระแส > ภูมิรัฐศาสตร์คือความเสี่ยงสำคัญสุดของปี 2024 จากวงจรการเลือกตั้งครั้งใหญ่ใน 50 ประเทศ

ภูมิรัฐศาสตร์คือความเสี่ยงสำคัญสุดของปี 2024 จากวงจรการเลือกตั้งครั้งใหญ่ใน 50 ประเทศ

3 มกราคม 2024


รายงานโดย ปรีดี บุญซื่อ

ที่มาภาพ : https://www.msc.com/en/solutions

การโจมตีเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดง จากโดรนและขีปนาวุธของกลุ่มกบถฮูตีในเยเมน ที่อิหร่านให้การสนับสนุน เป็นเหตุการณ์บานปลายจากสงครามอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส นับเป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่สั่นคลอนเศรษฐกิจโลก หลังจากโลกต้องเผชิญกับความตึงเครียดทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ จากสงครามยูเครน หอการค้าการเดินเรือระหว่างประเทศกล่าวว่า 12% ของการค้าโลกต้องอาศัยการขนส่งผ่านทะเลแดง ทำให้มีผลกระทบต่อการค้ายุโรป-เอเชีย

นอกจากความเสี่ยงจากการขยายตัวของความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ความแปรปรวนที่รออยู่ข้างหน้าคือ การเลือกตั้งของหลายประเทศที่จะมีขึ้นในปี 2024 ที่จะส่งผลกระทบกว้างขวาง และเป็นเวลานาน ปี 2024 ประชาชนในโลก 2 พันล้านคน ใน 50 ประเทศ จะออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง การเลือกตั้งสำคัญได้แก่ บังคลาเทศ ไต้หวัน ปากีสถาน อินเดีย อินโดนีเซีย สหรัฐอเมริกา และอีก 27 ประเทศ สมาชิกกลุ่ม EU ที่จะมีการเลือกตั้งรัฐสภายุโรป

การแปรปรวนของภูมิรัฐศาสตร์

ในช่วงที่ผ่านมา อำนาจของกลุ่มการเมืองเล็กๆหรือประเทศขนาดเล็ก ส่งผลกระทบต่อโลกมากขึ้น เช่น กลุ่มฮูตีในเยเมน กลุ่มฮามาส และเวเนซูเอลา Rickert McCaffrey นักวิเคราะห์ของ EY-Parthenon กล่าวกับ nytimes.com ว่า

แม้ความขัดแย้งจะมีขนาดเล็ก แต่สามารถส่งกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานโลก ได้อย่างไม่คาดคิดมาก่อน

การแปรปรวนของภูมิรัฐศาสตร์ รวมทั้งปัญหาความขัดแย้งจีน-สหรัฐฯ และฐานะประเทศขนาดกลางที่มีอิทธิพลมากขึ้น เช่น อินเดีย ออสเตรเลีย ตุรกี และบราซิล ทำให้การค้าโลกที่เคยค่อนข้างเสรี หยุดชะงักลง ในการตัดสินใจทางธุรกิจของเอกชน ปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์มีน้ำหนักมากกว่าการพิจารณาจากปัจจัยเศรษฐกิจ

การสำรวจเมื่อกลางปี 2023 ของ World Economic Forum ก็พบว่า…

“ความแปรปรวนจากภูมิรัฐศาสตร์ และความสัมพันธ์ด้านภูมิเศรษฐศาสตร์ ระหว่างมหาอำนาจ เป็นความกังวลที่มีความสำคัญที่สุด ในสายตาของผู้ดูแลความเสี่ยงของภาครัฐและเอกชน”

เนื่องจากความขัดแย้งทางทหารยังคงมีอยู่ การเพิ่มขึ้นความรุนแรงของสภาพทางอากาศ และการเลือกตั้งในหลายประเทศที่กำลังจะเกิดขึ้น ทำให้ความเสี่ยงในปี 2024 มีลักษณะเหมือนปี 2023 แต่จะมีเพิ่มมากขึ้น

Disruption จากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์

รายงานชื่อ 2024 Geostrategic Outlook ของบริษัทที่ปรึกษา EY Parthenon กล่าวว่า ครึ่งหนึ่งของประชากรโลกอาศัยอยู่ในรัศมี 100 ไมล์จากทะเล 95% ของการไหลเวียนของข้อมูลในโลก ผ่านเคเบิ้ลทางทะเล และ 1 ใน 3 การผลิตพลังงานของโลก อยู่ที่ชายฝั่งทะเล การแข่งขันกันเพื่อเข้าถึงทะเล จะรุนแรงมากขึ้นในปี 2024

ความเสี่ยงจากปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ ที่ทำให้เกิดการชะงักงันในการขนส่งทางทะเล จะเพิ่มมากขึ้นในปี 2024 เดือนมีนาคมปี 2021 เกิดการชะงักงันของห่วงโซ่อุปทานโลกนาน 6 วัน เพราการปิดคลองซูเอซ สงครามยูเครนทำให้การเดินเรือผ่านช่องแคบบอสฟอรัสของตุรกี ลดน้อยลง เหตุการณ์เหล่านี้แสดงถึงความสำคัญของพื้นที่คอขวดของการเดินเรือทางทะเล ที่มีต่อการค้าโลก คาดการณ์กันว่า หากเกิดภาวะชงักงันในเอเชียตะวันออก จะมีความเสี่ยงต่อการค้าโลกมูลค่าถึง 7.4 ล้านล้านดอลลาร์

ที่มาภาพ : simontechs.com

วงจรการเลือกตั้งครั้งใหญ่ของโลก

รายงาน 2024 Geostrategic Outlook กล่าวอีกว่า วงจรการเลือกตั้งใหญ่ของโลกจะเกิดขึ้นมากกว่า 50 ประเทศในปี 2024 โดยเฉพาะประเทศที่มีความสำคัญด้านภูมิรัฐศาสตร์ การเลือกตั้งเกิดขึ้นภายใต้แนวโน้มกระแสประชานิยม และการแบ่งขั้วทางการเมือง ทำให้เกิดความไม่แน่นอนต่อนโยบายเศรษฐกิจ ท่าทีต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และความขัดแย้งทางทหารที่ยังคงเกิดขึ้น

การเลือกตั้งที่สำคัญในปี 2024 จะเกิดขึ้นใน 6 ประเทศ ดังนี้

(1)การเลือกตั้งทั่วไปในบังคลาเทศ 7 มกราคม เป็นการเลือกตั้งแรกของปี 2024 เป็นหนึ่งในการเลือกตั้งที่จะมีความขัดแย้งมากที่สุด นายกรัฐมนตรีชีค ฮาซีนา (Sheikh Hasina) และพรรค Awami League ครองอำนาจมา 15 ปีแล้ว องค์กร Freedom House รายงานว่า รัฐบาลกระชับอำนาจมากขึ้น โดยการคุกคามพรรคฝ่ายค้าน สื่อมวลชน และประชาสังคม ผู้นำฝ่ายค้านส่วนใหญ่ถูกจับกุม ล่าสุด มูฮัมหมัด ยูนุส ผู้ก่อตั้งธนาคารกรามีน ถูกศาลแรงงานตัดสินจำคุก 6 เดือน เพราะละเมิดกฎหมายแรงงาน บังคลาเทศเป็นตัวอย่างประเทศที่สามารถจัดการเลือกตั้ง โดยไม่ได้ยึดหลักการประชาธิปไตย

(2)การเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวัน 13 มกราคม กรเลือกตั้งไต้หวันจะมีผลสำคัญต่อทิศทางภูมิรัฐศาสตร์ของภูมิภาคนี้ ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวินดำรงตำแหน่งมาแล้ว 2 สมัย กฎหมายห้ามลงสมัครสมัยที่ 3 ผู้สมัครสำคัญคือ รองประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ จากพรรครัฐบาล Democratic Progressive Party (DPP) คู่แข่งคือ Hou You-ih จากพรรคก๊กมินตั้ง และ KoWen-je จากพรรค Taiwan People Party (TPP) ผู้สมัครทั้ง 3 คน ล้วนเคยดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีมาก่อน จีนมองตัวแทนพรรค DPP ว่าเป็นภัยต่อนโยบาย” จีนเดียว” แม้ทั้ง 3 พรรคการเมืองจะคัดค้านการที่ไต้หวันจะประกาศเป็นเอกราช

(3)การเลือกตั้งทั่วไปปากีสถาน 8 กุมภาพันธ์ ปากีสถานเป็นประเทศที่การเลือกตั้งสามารถเลื่อนออกไปได้ นายกรัฐมนตรี Shehbaz Sharif ประกาศยุบสภาในเดือนสิงหาคม 2023 กฎหมายกำหนดให้เลือกตั้งใน 90 วัน แต่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนดเป็น 8 กุมภาพันธ์ 2024 เหตุผลคือมีเวลาพอในการเตรียมการเลือกตั้ง แต่สาเหตุสำคัญเพราะระยะ 2 ปีที่ผ่านมา เกิดวิกฤติการเมืองในปากีสถาน เมษายน 2022 รัฐสภาปลดนายกรัฐมนตรี Imran Khan ตัว Imran Khan เองนำการประท้วง ต่อมาศาลตัดสินจำคุกเขา 3 ปีข้อหารับสินบน ต้นปี 2023 ปากีสถานเอาตัวรอดมาได้จากการล้มละลายจากหนี้สินต่างประเทศ

(4) การเลือกตั้งทั่วไปอินโดนีเซีย 14 กุมภาพันธ์ การเลือกในอินโดนีเซียเป็นงานด้านโลจิสติกส์ ที่มีขอบเขตมหาศาล เพราะเป็นการเลือกตั้งประเทศที่มีพลเมือง 275 ล้านคน ประชาชนกระจายอยู่ในเกาะ 17,000 แห่ง และทำการเลือกตั้งให้เสร็จในวันเดียว รัฐธรรมนูญห้ามไม่ให้ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด (โจโควี) ลงสมัครเป็นสมัยที่ 3 ผู้สมัครคะแนนนำคือ Prabowo Subianto อดีตนายพลลูกเลยเผด็จการ Suharto เคยแพ้โจโควีมาแล้ว 2 ครั้ง ผู้สมัครคนที่ 2 คือ Ganjar Pranowo ผู้ว่าการเขตชวาตอนกลาง สมัครในนามพรรคของโจโควี ผู้สมัครคนที่ 3 คือ Anies Baswedan เป็นอธิการบดี Islamic University

(5) การเลือกตั้งทั่วไปอินเดีย เมษายน-พฤษภาคม การเลือกตั้งทั่วไปในอินเดีย เป็นตัวอย่างความมหัศจรรย์ของประชาธิปไตย ประชากร 1.4 พันล้านคน มีภาษาพูดกว่า 100 ภาษา สามารถใช้การลงคะแนนเลือกตั้งมาตัดสินว่าใครจะได้เป็นผู้นำการเมือง ที่ได้รับความเห็นชอบจากประชาชน พรรคการเมืองที่มีเสียงข้างมากในสภาจะเป็นฝ่ายเลือกนายกรัฐมนตรี พรรค Bharatiya Janata Paarty (BJP) ของนายกรัฐมนตรีนาเรนทา โมดี คงจะได้รับชัยชนะเป็นสมัยที่ 3 การสำรวจความเห็นคนอินเดีย 8 ใน 10 คน ยอมรับผลงานของโมดี เศรษฐกิจเติบโต 7% ทำให้รายได้คนอินเดียทั่วประเทศเพิ่มขึ้น ทำให้คนอินเดียมีความหวังว่า อนาคตจะดีกว่าวันนี้

ที่มาภาพ : wikipedia.org

(6) การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 5 พฤศจิกายน วงจรการเลือกตั้งโลกที่เป็นครั้งสุดท้ายของปี 2024 คงไม่มีการเลือกที่ไหน ที่ส่งผลกระทบต่อโลกมากเท่ากับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ในเดือนพฤศจิกายนนี้ การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเหตุการณ์คล้ายกับที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในปี 2020 ที่แข่งขันกันระหว่างโจ ไบเดนกับโดนัลด์ ทรัมป์ คนทั่วโลกสนใจการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะหากทรัมป์เป็นฝ่ายชนะ อาจหมายถึงจุดจบของประชาธิปไตยในอเมริกาและ “ระเบียบโลก” ที่อเมริกาเป็นผู้นำ การเลือกตั้งพฤศจิกายนของสหรัฐฯ จึงถือเป็นการเลือกตั้งที่สำคัญที่สุดของโลก

การที่ประเทศต่างๆในโลก ที่มีสัดส่วนเศรษฐกิจรวมกันมากกว่าครึ่งหนึ่งของผลผลิตของโลก มีการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นในปี 2024 จึงเป็นปัจจัยสำคัญทำให้ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ในปีใหม่นี้ ไม่ได้ลดน้อยลงเลย

เอกสารประกอบ

Two Wars, 50 Elections: The Economy Faces Rising Geopolitical Risks, December 24, 2023, nytimes.com
2024 Geostrategic Outlook, December 2023, EY Parthenon
Ten Elections to Watch in 2024, cfr.org, December 21, 2023.