โครงการ UOB My Digital Space (MDS) เป็นโครงการที่กลุ่มธนาคารยูโอบี (UOB) กำหนดขึ้นเพื่อเป้าหมายลดช่องว่างทางการศึกษาของเด็กที่ขาดโอกาส ให้สามารถเข้าถึงการเรียนรู้ผ่านช่องทางดิจิทัลและเชื่อมโยงพวกเขาสู่โลกแห่งโอกาสในศตวรรษที่21 จึงเล็งเห็นถึงความพร้อมของอุปกรณ์การเรียนการสอนในการเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง
สำหรับในประเทศไทย โครงการ MDS จับมือเป็นพันธมิตรกับโครงการร้อยพลังการศึกษา มูลนิธิยุวพัฒน์ เมื่อปี 2565 ด้วยการมอบเครื่องคอมพิวเตอร์ 35 เครื่องให้กับโรงเรียนปีละ 3 แห่ง เพื่อให้โรงเรียนมีห้องเรียนที่มีเครื่องมือพร้อมให้เด็กได้มีโอกาสการเรียนรู้จากสื่อดิจิทัลผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์เกือบ 2,000 คน จนถึงขณะนี้ปี 2566 โครงการ MDS ได้ดำเนินการมาต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ตามเป้าหมายที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ในการเข้าถึงการศึกษาและทักษะสำหรับอนาคต
ห้องเรียน My Digital Space มีโปรแกรมหลักสูตรดิจิทัลใน 3 วิชาหลักพื้นฐาน คือ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ เพื่อให้ครูสามารถนำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน รวมทั้งสามารถเป็นแหล่งข้อมูลในการเตรียมการสอนให้กับเด็กนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดเวลา ไม่ต้องผลิตสื่อการเรียนการสอนเองทั้งหมด เพราะหลักสูตรดิจิทัลนี้มีทั้งวีดีโอ เกม เป็นสื่อการสอนให้นักเรียนได้ใช้ทักษะและเข้าใจบทเรียนได้ง่ายขึ้น ขณะที่เด็กนักเรียนสามารถล็อกอินกลับไปทบทวนบทเรียนและทำแบบฝึกหัดเพิ่มเติมด้วยตนเองที่บ้านได้ตลอดเวลา วัดผลได้ทันที หากคะแนนไม่เป็นที่พอใจก็สามารถฝึกฝน ทำซ้ำเพื่อให้ได้คะแนนที่ดีขึ้น
……
เมื่อโลกเปลี่ยนเราปรับ ทั้งคุณครูและนักเรียนต่างใช้เครื่องมือเพื่อเปิด ‘โอกาส’ ในการเรียนการสอน ที่ทำให้การเข้าถึง ‘โอกาส’ ในการเรียนรู้อย่างรอบด้าน เป็นรูปธรรมที่สามารถวัดผลความรู้ความเข้าใจและความพึงพอใจทั้งของผู้สอนและผู้เรียนได้เป็นอย่างดี ด้วยเป้าหมายเพื่อยกระดับทักษะทั้งคุณครูและนักเรียนให้ก้าวทันโลกดิจิทัล
จากการพูดคุยกับคุณครูและนักเรียน โรงเรียนถ้ำปินวิทยาคม จังหวัดพะเยา คุณครูวิศิษฎ์ ราชเนตร ครูชำนาญการกลุ่มสาระฯ : วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า โครงการ MDS มีประโยชน์มากทั้งต่อนักเรียนและครูผู้สอน สำหรับครู ทำให้มีสื่อการเรียนการสอนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสื่อดิจิทัล ที่ช่วยให้แก้ไขข้อจำกัดต่าง ๆ ได้ เช่น มีเทคนิคการสอนที่ทำให้การสอนดีขึ้น รายละเอียดการสอนเพิ่มขึ้น รวมทั้งโปรแกรมการเรียนการสอน มีคู่มือที่มีความชัดเจนและเนื้อหาดีมาก รวมทั้งมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับให้ตรงกับเด็กนักเรียน
คุณครูวิศิษฎ์บอกว่าเด็กสามารถใช้เครื่องมือที่ได้รับการสนับสนุนจากโครงการ MDS ในการทบทวนวิชา การทำแบบฝึกหัดต่าง ๆ ตอนเริ่มอาจจะมีเด็กที่ตามไม่ทันบ้าง แต่ก็มีเด็กที่รู้มาช่วยสอน ทำให้เด็กที่ช่วยสอนสนุก ยิ่งเมื่อเปรียบเทียบคะแนนที่ได้ก่อนเรียนผ่านสื่อดิจิทัลกับหลังเรียน ทำให้ได้รู้ถึงพัฒนาการเด็กนักเรียนแต่ละคน รวมถึงปัญหาและสามารถแก้ปัญหาได้
นอกจากนี้เด็กบางคนเรียนได้เร็วมาก เพราะมีสมาธิ มีความตั้งใจ มีความตื่นเต้นกับสื่อใหม่ กลุ่มนี้จะไปได้ดี นำหน้าเพื่อน แต่ก็มีบางส่วนที่แรก ๆ สนใจ แต่ต่อมาก็เถลไถล ต้องเดินคุม แต่จากการสอบถามเด็กเป็นระยะๆ ว่า จะเรียนแบบนี้อีกหรือไม่ หรือจะเรียนแบบทั่ว ๆ ไป เด็ก ๆยืนยันว่าจะเรียนแบบนี้ควบคู่กันไป
คุณครูวิศิษฎ์กล่าวว่าโครงการ MDS สอดรับกับห้องเรียนยุคใหม่ที่ส่งเสริมให้เด็กเท่าทันโลกดิจิทัล เด็กรู้ว่าเป็นเครื่องมือที่เขาเรียนที่ไหนก็ได้ เรียนเวลาใดก็ได้
ที่สำคัญโครงการ MDS ช่วยลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่อยู่ห่างไกลสามารถได้เรียนกับครูดัง ๆ เช่นเดียวกับเด็กในกรุงเทพฯ ด้วยโปรแกรมดิจิทัลผ่านโครงการ MDS
คุณครูวิศิษฎ์บอกว่า “ห้องคอมพิวเตอร์ที่ใช้เรียน 3 วิชาหลัก อยากให้มีห้องคอมพิวเตอร์กลางที่เข้าไปใช้ได้ตลอดเวลา เหมือนห้องสมุดที่ให้นักเรียนลงทะเบียน หรือครูพาเข้าไปเพื่อทำการค้นคว้าในวิชาอื่น เช่น บางคนชอบเล่นกีฬา ก็เข้าไปค้นคว้าได้ว่า ควรฝึกซ้อมอย่างไร มีเทคนิคอย่างไร เป็นต้น จึงขอบคุณธนาคารยูโอบี และทีมงานร้อยพลังการศึกษา ที่ให้โอกาสเด็กและครูได้มีสื่อให้นักเรียนมีการพัฒนา มีความรู้ ได้มีโอกาสทัดเทียมในการเรียน ต้องขอบคุณมาก ๆ”
ดช.พิษณุ แซ่ลี หนึ่งในทีมผู้เข้าแข่งขันอัจฉริยภาพทางวิทยศาสตร์ ได้รองชนะเลิศ ของจังหวัดพะเยา และได้เหรียญทองจากการสอบปรนัยทางวิทยาศาสตร์ที่ได้คะแนนสูงสุด กล่าวว่า ‘ชอบการเรียนการสอนของโครงการ MDS เพราะอธิบายเข้าใจง่าย สามารถดูซ้ำได้ ทบทวนตอนไหนก็ได้ มีท่องเว็บบ้างตอนทำงานเสร็จ เทียบกับการอ่านหนังสือจะไม่ได้เท่ากับดูวิดีโอ รวมถึงตอนสอบแข่งขันอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์ โปรแกรมดิจิทัลที่ได้รับการสนับสนุนจากโครงการ MDS ทำให้เข้าใจวิทยาศาสตร์ ช่วยให้เข้าใจบทเรียนมากขึ้น และช่วยเรื่องข้อสอบปรนัยในการแข่งขัน โดยพื้นฐานชอบวิชาวิทยาศาสตร์อยู่แล้ว เพราะสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ รวมทั้งเอาไปใช้ประโยชน์ในการทำมาหากินได้ ส่วนเพื่อน ๆ ในห้องก็ชอบ แม้จะมีบางคนมแอบไปดูยูทูบ แอบเล่นเกม บ้างก็ตาม
……
โรงเรียนเสด็จวนชยางค์กูลวิทยา อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เป็นอีกหนึ่งในโรงเรียนที่ได้เข้าโครงการ MDS คุณครูจิรชัย สว่างแก้ว สอนวิชาคณิตศาสตร์ กล่าวว่า โครงการ MDS ทำให้คุณครูทั้ง 3 วิชา วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ทำการสอนได้ง่ายขึ้น ทั้งการเตรียมการสอน สามารถจัดกิจกรรมควบคู่กับการใช้คอมพิวเตอร์ได้ ทำให้นักเรียนตื่นเต้น สนใจอยากเข้ามาเรียนห้องนี้ โดยมีโปรแกรมสื่อการสอน ทั้ง วิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ที่นักเรียนสามารถกลับไปทบทวนได้
“ถ้าไม่มีโปรแกรมนี้ เด็กทบทวนผ่านหนังสือเรียน ต้องอ่านเอง แต่โปรแกรมนี้จะมีคำอธิบาย มีแบบฝึกหัดและข้อสอบ ที่ทำเสร็จแล้วดูว่าทำได้กี่คะแนน ข้อไหนทำไม่ได้ ก็ทบทวนกลับมาทำใหม่ได้ สำหรับครูมี teacher report ที่เข้าไปดูเลยว่า นักเรียนคนนี้เข้าไปดูกี่ครั้ง ทำข้อสอบกี่ครั้ง ได้คะแนนเท่าไหร่ ทำให้ครูประเมินนักเรียนได้ง่ายขึ้นว่าต้องเพิ่มเติมด้านไหน โดยพบว่า นักเรียนที่มีความตั้งใจเรียน สนใจกลับไปทบทวน ผลการเรียนจะมีประสิทธิภาพสูงขึ้น นักเรียนเองมีความตื่นเต้นสนใจมากกว่าเดิม มีความอยากไปเรียนห้องคอมพ์ อยากไปใช้คอมพิวเตอร์ และยังสามารถสอนนักเรียนให้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในการหาข้อมูลด้วย”
คุณครูจิรชัย กล่าวว่า สำหรับครูเองช่วงแรกอาจจะต้องปรับตัวมากหน่อย ต้องแบ่งเวลาให้เหมาะกับการเรียนผ่านคอมพิวเตอร์กับเรียนกับครู เพราะการเรียนผ่านคอมพิวเตอร์อย่างเดียว จะไม่น่าสนใจ ครูจึงต้องเตรียมตัวให้มากเพื่อพูดคุยกับนักเรียนว่า จะเสริมตรงไหนได้บ้าง เพื่อให้การสอนสอดคล้องและเป็นรูปแบบเดียวกัน
นอกจากนี้ การเรียนโปรแกรมออนไลน์ต้องใช้อินเทอร์เน็ต ถ้าเน็ตไม่ดีหรือไม่แรง การเรียนการสอนอาจจะติดขัดบ้าง ขณะที่โปรแกรมการเรียนการสอน วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ของ Learn Education อาจจะเพิ่มกิจกรรม หรือเกมมากขึ้น เพื่อให้น่าสนใจเหมือนภาษาอังกฤษของ Winner English ที่มีเกมให้นักเรียนเล่นผ่านทีละด่าน
“ขอบคุณโครงการ MDS ของธนาคารยูโอบี ที่ให้การสนับสนุนโรงเรียน ทั้งคอมพิวเตอร์ สื่อการเรียนการสอน ที่มีประโยชน์จริง ๆ ต่อนักเรียน และอยากให้โรงเรียนอื่นได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการแบบนี้ด้วย เพราะเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียนที่ไม่มีโอกาสได้สื่อการเรียนแบบนี้”
ดช.ธีระวัฒน์ บุญสนหง นักเรียนชั้นม.1 โรงเรียนเสด็จวนชยางค์กูลวิทยา กล่าวว่า ‘ผมชอบสื่อดิจิทัล เพราะการเรียนผ่านคอมพิวเตอร์ควบคู่กับการอ่านหนังสือ ทำให้สิ่งที่เข้าใจอยู่แล้ว เข้าใจมากยิ่งขึ้น ส่วนเนื้อหาที่ไม่เข้าใจ ก็กลับไปอ่านหนังสือทำความเข้าใจได้อีก รวมทั้งค้นคว้าเพิ่มเติมได้ โดยผสมผสานระหว่างการอ่านหนังสือ กับการเรียนผ่านคอมพิวเตอร์ แต่ก่อนผลการเรียนคะแนนไม่ค่อยดี แต่พอทำแบบฝึกหัดในคอมพ์หลาย ๆ รอบ และกลับไปทบทวน คะแนนสูงขึ้น ดีขึ้นทั้ง 3 วิชา โดยเฉพาะวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ที่มีรูปภาพให้ดู ทำให้เข้าใจง่ายขึ้น รวมทั้งเพื่อน ๆ ส่วนมากจะชอบ เพราะสนุก มีสื่อให้ดูเยอะ อยากให้มีห้องแบบนี้หลาย ๆ ห้อง เพราะนักเรียนเยอะ ต้องแย่งใช้คอมพิวเตอร์กัน’
“โครงการ MDS ทำให้ผมเรียนดีขึ้น ช่วยปรับปรุงการเรียน เข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น ทำให้ผมและเพื่อนหลายคนคะแนนดีขึ้น โครงการนี้ยังสอนให้เรารู้ ตัวเราพัฒนาขึ้นหรือไม่ มีการบอกคะแนน บอกจุดที่ทำไม่ได้ ก็เข้าไปแก้ไขปรับปรุง”
นี่เป็นเสียงเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่ของผู้ที่ได้รับ ‘โอกาส’ ในการเข้าถึงโลกแห่งการเรียนรู้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน หากคุณมีโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นอย่างกรณีโครงการ MDS ที่ได้ส่งมอบห้องเรียนคอมพิวเตอร์และซอฟแวร์ที่ดี นับเป็นการหยิบยื่น ‘โอกาส’ และช่วยทำให้ความเหลื่อมล้ำในสังคมลดน้อยลงได้
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
