ในช่วงสี่วันแรกของการประชุม COP28 ระดมทุนได้มากกว่า 57 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่รัฐบาล ภาคธุรกิจ นักลงทุน และผู้ที่มีใจรักในเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ได้ให้คำมั่นและลงนามในปฏิญญา 8 ฉบับ
ดร. สุลต่าน อัล จาเบอร์ ประธาน COP28 ได้แถลงข่าวสรุปผลการประชุมในรอบ 4 วันที่ผ่านมา
โดยก่อนกล่าวถึงผลการประชุม ดร.อัล จาเบอร์ได้ย้อนไปถึงจุดมุ่งหมายของการประุชมครั้งนี้ว่า การที่หลายฝ่ายได้มารวมตัวในการประชุมครั้งนี้ ก็เพราะมีเรียกร้องให้ดำเนินการอย่างชัดเจน และเพราะเชื่อในข้อมูลทางวิทยาศาสตร์อย่างมาก โดยจะต้องลดการปล่อยก๊าซทั่วโลกลง 43% ภายในปี 2573 หรือ 22 กิกะตันภายในปี 2573 และต้องทำให้เกิดขึ้นได้จริงเพื่อรักษาไม่ให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเกินกว่า 1.5 องศาเซลเซียส
ดร.อัล จาเบอร์กล่าวว่า ในช่วงสี่วันแรก เชื่อว่าที่ประชุมได้สร้างมาตรฐานไว้สูงในการส่งมอบ และยังรู้สึกได้ถึงแรงส่ง การเดินหน้า ในทางบวก และความตื่นเต้นอย่างแท้จริง รวมทั้งมีความหวังและมุมมองในทางบวกว่า นี่ คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญและก็ไม่ควรพลาดโอกาสนี้ ที่เป็นโอกาสที่จะส่งมอบการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์ที่จับต้องได้จริงและเป็นรูปธรรม ซึ่งจะแก้ไขเส้นทางและนำไปสู่แนวทางที่ถูกต้องในการรักษาระดับอุณหภูมิเพิ่มขึ้นเกินไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียสไว้ได้ไม่ยาก
“การประชุมในปีนี้พิเศษอย่างมาก เพราะมีการลงคะแนนและสนับสนุนและรับรองวาระการประชุมในชั่วโมงแรกของวันแรกของ COP ที่ผ่านมาเราไม่เคยเห็นการยอมรับวาระการประชุมในวันแรกมาก่อน อย่าว่าแต่ชั่วโมงแรกเลย”
อีกทั้งองค์กรที่มารวมตัวกันในวันแรกได้ตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์ ในข้อตกลงสำคัญเรื่องการชดเชยความสูญเสียและเสียหาย (Loss and Damage) ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้ใช้ได้จริงเท่านั้น แต่มีการเริ่มใส่เงินเข้าไปด้วย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของ COP ที่เคยจัดขึ้น ที่ในวันแรกมีการตัดสินใจดังกล่าว
ดร.อัล จาเบอร์กล่าวว่า ความสำเร็จครั้งนี้มีขึ้นด้วยความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากทุกฝ่าย นอกจากนี้ยังได้ทำให้สหรัฐอเมริกาและจีนมาร่วมกันด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่เคยมีมาก่อนในการลดก๊าซมีเทนและก๊าซที่ไม่ใช่คาร์บอนไดออกไซด์อื่นๆ ทั่วทุกภาคส่วนเศรษฐกิจ ก๊าซเหล่านี้สร้างความเสียหายได้มากกว่า คาร์บอนไดออกไซด์ ถึง 80 เท่า การจัดการกับก๊าซมีเทนจะมีผลกระทบอย่างมากในระยะสั้นต่อการรักษาไม่ให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเกินกว่า 1.5 องศาเซลเซียสไว้ได้ แ
ดร.อัล จาเบอร์กล่าวว่า “ที่ประชุมระดมทุนมากกว่า 57 พันล้านดอลลาร์ในคำมั่นสัญญาและข้อผูกพันใหม่ แค่เฉพาะใน 4 วันแรกเท่านั้น” โดย
- 30 พันล้านดอลลาร์สำหรับ UAE catalytic fund ที่ปรับได้ตามความต้องการซึ่งมุ่งเน้น 100% ในการแก้ปัญหาและลดควาามแตกต่างในการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- 725 ล้านดอลลาร์สำหรับการชดเชยความสูญเสียและเสียหาย (Loss and Damage)
- 9 พันล้านดอลลาร์ต่อปีที่ประกาศโดยธนาคารโลก
- กว่า 3 พันล้านดอลลาร์สำหรับกองทุน Green Climate
- 2.7 พันล้านดอลลาร์เพื่อสุขภาพ
- 2.6 พันล้านดอลลาร์เพื่อธรรมชาติ
- 1.2 พันล้านดอลลาร์เพื่อการบรรเทาทุกข์ การฟื้นฟู และสันติภาพ
- 2.5 พันล้านดอลลาร์สำหรับพลังงานทดแทน และ
- 1.2 พันล้านสำหรับการลดมีเทน
อีกทั้ง หลายฝ่าย ยังได้เร่งผลักดันคำมั่นสัญญาและปฏิญญาหลายฉบับที่ทำให้โลกก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้อง
นอกจากนี้ยังมีการประกาศปฏิญญาใหม่ 8 ฉบับ และปฏิญญาเหล่านี้จัดทำขึ้นเพื่อช่วยเปลี่ยนผ่านทุกภาคส่วนหลักๆ ของเศรษฐกิจโลก โดย Global Decarbonization Accelerator ที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของหลายประเทศและบริษัทต่างๆ มากมายที่มุ่งเน้นการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์มากกว่าที่เคยเป็นมา อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหมดนี้มุ่งเป้าไปที่การลดคาร์บอนของอุปสงค์และอุปทาน ซึ่งเป็นแนวทางที่ไม่เหมือนใคร เป็นรูปแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก ได้แก่ การบูรณาการระหว่างอุปสงค์และอุปทานของระบบพลังงาน ในขณะเดียวกัน บริษัทน้ำมัน บริษัทน้ำมันและก๊าซที่ประกาศลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์จำนวน 55 แห่ง ได้ตั้งเป้าที่จะลดการปล่อยก๊าซมีเทนให้เป็นศูนย์ภายในปี 2573 และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิให้เป็นศูนย์ภายในปี 2593 ซึ่นับเป็นครั้งแรกที่ได้มีการประกาศในลักษณะนี้
รวมไปถึง การให้คำมั่นระดับโลกในการส่งมอบพลังงานใหม่และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีปฏิญญาเกี่ยวกับสุขภาพและระบบอาหารเป็นครั้งแรก ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ 2 เรื่องในการประชุม จะมีการประกาศปฏิญญาเพิ่มเติมอีก 3 ฉบับในอีกไม่กี่วันข้างหน้าเกี่ยวกับไฮโดรเจน การปล่อยก๊าซจากการใช้ความเย็น และเพศ จำนวนประเทศที่สนับสนุนปฏิญญาและคำมั่นเหล่านี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องร่วมมือ ร่วมมือ และสามัคคีกันอย่างจริงจัง ความสามัคคีเป็นสิ่งสำคัญในเวลานี้ หากเราจริงจังกับการแก้ไขปัญหานี้ ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องดำเนินการตามการทบทวนสถานการณ์และการดำเนินงานระดับโลก (Global Stocktake) และรักษาอุณหภูมิไม่ให้เพิ่มขึ้นเกินกว่า 1.5 องศาเซลเซียสไว้ให้ได้”ดร.อัล จาเบอร์กล่าว
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
