ThaiPublica > คอลัมน์ > 20 อาร์ตทอยสุดปัง Part 04 (จบ)

20 อาร์ตทอยสุดปัง Part 04 (จบ)

20 พฤศจิกายน 2023


1721955

ตามสัญญาสำหรับชิ้นนี้จะเป็นการจบซีรีส์อาร์ตทอยที่ถูกเราเลือกขึ้นมา 20 ชิ้น และบทความชิ้นนี้จะเป็น 5 ศิลปินอาร์ตทอยกลุ่มสุดท้ายที่เราอยากพูดถึง ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าผลงานของศิลปินเหล่านี้น่าจะบอกเล่าความเป็นไปได้ต่าง ๆ ของอาร์ตทอย ไล่มาตั้งแต่อาร์ตทอยยุคเริ่มแรก จนมาถึงปัจจุบันที่เราขอย้ำว่ามีความหลากหลายในด้านรูปลักษณ์และเนื้อหา มากกว่าแค่น่ารักน่าสะสมอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เราไม่ได้บอกว่าความน่ารักน่าสะสมเป็นเรื่องผิดอะไร เพียงแต่ดูเหมือนความหมายของอาร์ตทอยในเวลานี้จะถูกจำกัดไปในแนวทางนั้นมากจนเราอยากจะหยิบยกให้เห็นว่า อาร์ตทอยไม่ได้มีรูปแบบเดียวอย่างที่เราเห็นฮิต ๆ กันในตอนนี้

Jon-Paul Kaiser

ผลงานของ จอน-พอล ไคเซอร์ หรือ JPK เป็นลักษณะคล้ายงานปั้นดินแบบพอร์ซเลน (Celadon หรือบ้านเราเรียกศิลาดล) เรียบ ๆ ง่าย ๆ ลงสีขาวดำ บางทีก็เจือสีอื่นการใช้สีน้อย ๆ ซึ่งเป็นโทนสีและลวดลายที่ได้อิทธิพลจากภาพพิมพ์ญี่ปุ่นยุคโบราณ หรือไม่ก็เป็นแนวคัสตอมผลงานคนอื่นด้วยการวาดมือ ด้วยลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเขา JPK อธิบายตัวเขาเองว่า “เกิดมาในความมืดมนของอังกฤษ เมื่ออายุ 4 ขวบทันทีที่รู้ว่าไม่สามารถเป็นอินเดียน่า โจนส์ได้ ผมก็ผันตัวไปเป็นศิลปิน และผมรู้ว่าต้องการทำอะไรเพื่อชีวิตตัวเอง นั่นคือการทำผลงานงานศิลปะ และผมไม่เคยหลงไปจากเส้นทางนั้น ผมเคยเป็นนักออกแบบและนักวาดภาพประกอบ ก่อนจะลาออกมาออกแบบฟิกเกอร์เต็มวาลาในท้ายที่สุด และผมเชี่ยวชาญด้านตัวละครสีขาวดำ ปัจจุบันผมทำงานร่วมกับค่ายต่าง ๆ อาทิ Toy2R, Kidrobot, Pobber และ DYZ Plastic”

“ผมชอบใช้สีดำในผลงานเป็นส่วนใหญ่จนกลายเป็นสไตล์ส่วนตัวไปแล้ว สำหรับผมการเชื่อมโยงทางอารมณ์เป็นสิ่งสำคัญมากในผลงานแต่ละชิ้น สีดำสะท้อนได้นานกว่า และบอกเล่าเรื่องราวได้มากกว่าหุ่นแนวน่ารักเพียงอย่างเดียว แน่นอนว่าสิ่งที่น่ารัก ๆ จะเตะตาได้ทันทีเมื่อแรกเห็น แต่ในความคิดผม มันไม่ได้ลึกซึ้งและยาวนานเท่าสีขาวดำ แต่ผมไม่ใช่พวกโกธิคมืดมนอะไรพวกนั้นนะ เพราะแนวทางของผมคือการได้หัวเราะกับภรรยาหรือเพื่อนสนิท คนรอบข้างผมเป็นคนตลกเหลือเชื่อเลยล่ะ และผมก็มีความสุขมากในการได้ตะโกนหัวเราะท่ามกลางวงเพื่อน ๆ…แม้ว่าจริง ๆ แล้วสิ่งต่าง ๆ มักจะ….ค่อนข้างมืดมน”

“ผมรู้จักโลกของอาร์ตทอยผ่าน Porl หรือ Porlzilla(ศิลปินออกแบบหุ่นฟิกเกอร์และกีคนักสะสมของเล่นเรทโทรชาวอังกฤษ) เรามีเพื่อนร่วมกันชวนไปเล่นเกม Xbox เมื่อหลายปีก่อน เราคุยเรื่องเดียวกันแล้วเขาก็แนะนำให้ผมู้เข้าสู่โลกอาร์ตทอย จากนั้นผมก็เสพติดมันโดยทันที…ผมมีทุกสิ่งทุกอย่างเป็นแรงบันดาลใจ ภรรยาผม หนังที่ชอบ เดินเล่นในป่ากับหมาตัวโปรด ฝันกลางวันเกี่ยวกับการพิชิตจักรวาล หนังสือ นิยายภาพ สตาร์วอร์ส ฟิล์มนัวร์ ประวัติศาสตร์ วิจิตรศิลป์…และคนที่มีอิทธิพลต่องานผมเป็นศิลปินออริจินัล อย่าง ปิกัสโซ, ฮิโรชิเงะ และฟรานซิส เบคอน”

FYI Picasso

ปาโบล ปิกัสโซ่ (1881-1973) ศิลปินชื่อก้องชาวสเปน เจ้าของวลีเด็ด “ศิลปินที่ดี…ลอกเลียน ศิลปินที่ยิ่งใหญ่…ขโมย” เพราะเขาเชื่อว่าผลงานศิลปะในโลกนี้คือการต่อยอดมาจากศิลปินรุ่นก่อน ๆ แต่เราจะต่อยอดมันอย่างไรจนคนจับไม่ได้เลยว่าคุณได้ไอเดียมาจากศิลปินคนไหน และนั่นคือการขโมย ไม่ใช่แค่ของเลียนแบบ ปิกัสโซ่คือผู้สร้างแนวทางศิลปะที่เรียกว่า Cubism อันเป็นการทอนภาพด้วยลายเส้น โครงสร้างเพื่อให้เห็นมิติต่าง ๆ ในหลายมุมไปจนถึงส่วนลึกภายในใจ ด้วยสีสดใส แต่ก็ไม่เสมอไป เพราะบางครั้งเขาก็จงใจใช้สีขาวดำ หรือสีที่ซีดหม่น เพื่อเน้นย้ำความหมายในผลงานสำคัญบางชิ้น และอันที่จริงผลงานของปิกัสโซ่ ไม่ได้มีแต่คิวบิสม์ แต่ผลงานของเขาบางยุคเป็นเฉดสีฟ้า บางยุคก็เน้นเฉดสีชมพู บางทีก็เน้นอิทธิพลจากศิลปะอาฟริกันหรือวัฒนธรรมชนเผ่า ไปจนภาพแบบเน้นโครงสร้างผสมผสานกับความเหนือจริง บางทีก็แสดงอารมณ์พลุ่งพล่านอย่างเหลือล้น แต่ไม่ว่าจะไปทางไหนล้วนดูออกได้ในทันทีว่าคือผลงานของปิกัสโซ่

FYI Hiroshige

อุตะงาวะ ฮิโรชิเงะ (นามเดิม อันโด ฮิโรชิเงะ 1797-1858) ศิลปินญี่ปุ่นสมัยเอโดะ เชี่ยวชาญด้านภาพพิมพ์แกะไม้ที่เรียกกันว่า “อูกิโยะ (เป็นแนวที่นิยมกันในช่วงศตวรรษที่ 17-20)” เขาเป็นลูกของข้าราชการซึ่งทำหน้าที่ในการดูแลอัคคีภัยภายในปราสาทโชกุน โดยเขาได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปินใหญ่ คัตสึชิกะ โฮกุไซ ต่อมาได้ร่ำเรียนศิลปะกับ อุตะงาวะ โตโยฮิโระ ทำให้ได้รับฉายาตามอาจารย์ กระทั่งในที่สุด ฮิโรชิเงะ ได้รับการยกย่องว่าเป็นปรมาจารย์ในแนวภาพ อูกิโยะ คนสุดท้าย คือไม่มีผลงานของศิลปินรุ่นหลังคนไหนดีไปกว่าเขาอีกแล้ว ผลงานของเขามักเป็นภาพทิวทัศน์ที่มีการใช้เทคนิคไล่สีที่เรียกว่า “โบกาชิ” ซึ่งต้องใช้ความชำนาญและแรงอย่างมากเป็นพิเศษ ต่อมาในศตวรรษที่ 19 เมื่อผลงานของญี่ปุ่นขยายไปทางฝั่งยุโรป ผลงานของเขามีอิทธิพลต่อศิลปินฝรั่งอีกหลายคน อาทิ โมเนต์, มาเนต์ และวินเซนต์ ฟาน โก๊ะห์

FYI Francis Bacon

ฟรานซิส เบคอน (1909-1992) ศิลปินLGBTQชาวไอร์แลนด์ชื่อก้อง ผู้ที่ในยุค 70s เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นศิลปินอังกฤษผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่” ผลงานของเขาถนัดในแนวทางหลอกหลอน นิยมใช้สีเพียงไม่กี่สี แต่แสดงอารมณ์และความเคลื่อนไหวได้ในระดับสั่นสะเทือนและรบกวนจิตใจมากที่สุดคนหนึ่ง เสียงกรีดร้อง ความบิดเบี้ยว ความเจ็บปวด ความลี้ลับ ความสยดสยอง หยาบ และเย็นชา อันส่วนหนึ่งได้รับอิทธิพลจากการโดนทุบตีทำร้ายจากแฟนคนแรกที่มีอายุมากกว่าที่มักจะเมาโมโหร้ายและเคยทำลายผลงานของเบคอน ส่วนอีกคนแม้จะขี้เหล้าไม่แพ้คนก่อน ที่แม้จะไม่ถึงกับทุบตีอะไร แต่แฟนหนุ่มของเขาก็เป็นตัวป่วนอย่างหนัก และความรักของพวกเขาก็จบลงด้วยการที่อีกฝ่ายเสพยาเกินขนาดจนตายคาโถส้วม(ต่อมากลายเป็นภาพวาดซีรีส์หนึ่งของเบคอน) อันทำให้เบคอนตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า และทั้งหมดนี้ส่งผลต่อผลงานของเบคอนในแต่ละช่วงเวลา

จาก FYI ที่เราให้ข้อมูลเพิ่มเติม เชื่อว่าผู้อ่านน่าจะพออนุมานเอาได้ว่า JPK ได้แนวทางการใช้สีและลวดลายมาจากศิลปินเหล่านั้นไม่น้อยเลย สุดท้ายเขาเผยรายชื่อศิลปินอาร์ตทอยคนโปรดของเขาว่า “ศิลปินคนโปรดของผมก็มีอย่าง… A Little Stranger, Map-Map, Jeremy Fish, Woes, J-Ryu, Brandon Griffiths, Mr Lister, PJ Constable, Huck Gee, Mishka, Kozik, Coarse, Darren Clegg, Luke Chueh, MuttPop, Sam Flores, Craww, UMEtoys, Stu Witter, RunDMB, Igor Ventura, Alex Pardee, Usugrow น่าจะประมาณนี้…แล้วถ้าจะให้ฝากอะไรถึงศิลปินรุ่นใหม่ ๆ ผมอยากบอกพวกเขาว่า…ใช้โซเชียลมีเดียอย่างชาญฉลาด วิจารณ์ตัวเองให้มาก ๆ อย่าขโมยไอเดียคนอื่น และฝึกฝนตัวเองต่อไปเรื่อย ๆ”

https://jonpaulkaiser.bigcartel.com/
https://www.instagram.com/jonpaulkaiser/

Grape Brain

เว็บไซต์ของ GRAPE Brain อธิบายตัวเองเอาไว้ว่า “ถึงพวกเราจะประหลาดแต่ก็ยังน่ารัก ถึงจะแสนเชยแต่ก็ยังสุดเจ๋ง ลามกแต่ก็ใสใส ร็อคแต่ก็ยังป๊อป สไตล์ญี่ปุ่นแต่ก็ปนสไตล์ฝรั่งด้วย ดิจิตอลแต่เราก็ยังแอนะล็อก รุนแรงแต่เราก็ยังเงียบสงบ ถึงเราจะโง่แต่ก็อัจฉริยะ เราโตแล้วแต่ก็ยังเป็นเด็ก GRAPE BRAIN เป็นเครื่องจักกราฟฟิกที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง เป็นตัวแทนวิถีชีวิตของชายลากมกที่ถูกตั้งชื่อว่า Rage (ความเดือดดาล) ผู้ที่ทำอะไรไม่เป็นเลยนอกจากวาดรูป”

Rage หรือ เรย์จิ คือชื่อของผู้ออกแบบ Grape Brain ที่มีฐานที่มันอยู่ในเมืองแห่งศิลปะฟูกุโอกะ เขาให้สัมภาษณ์ว่า “ผมรักการวาดภาพมาตลอดตั้งแต่ยังเด็กและยังวาดตลอดมา ตอนเด็ก ๆ เคยฝันอยากจะเป็นนักวาดการ์ตูน แต่ผมเป็นพวกขี้เบื่อและมักจะหมดไฟเสียก่อนจะเขียนจบ ตอนหลังเลยเปลี่ยนมาวาดภาพประกอบเป็นงานอดิเรก จนมาสนใจอาร์ตทอยตอนอายุ 20 หลังจากนั้นก็คิดว่าสักว่าจะทำได้ด้วยตัวเอง ผมเริ่มผลิตอาร์ตทอยชิ้นแรกของผมในปี 2016”

“ผมว่าความแตกต่างระหว่างแนวตะวันตกกับตะวันออกคือแบบฝรั่งมักจะออกแบบใหญ่โตและดูทรงพลัง แต่ฝั่งตะวันออกจะเป็นดีไซน์เล็ก ๆ น่ารัก ผมชอบทั้งสองแบบแหละ แล้วก็พยายามจะรวมองค์ประกอบทั้งสองอย่างเข้ากับการออกแบบของผม งานของผมเต็มไปด้วยความขัดแย้งดังที่ผมเขียนเอาไว้ในหน้าแรกของเว็บไซต์ ผมชอบวาดแต่อะไรที่ผมชอบ ซาบซึ้งและสนใจวัฒนธรรมที่แตกต่างกันจากทั่วโลก และด้วยอาร์ตทอยผมจึงอยากสร้างโลกที่รวบรวมความคิดอันหลากหลายเหล่านี้เข้าไว้ด้วยกัน แต่หัวข้อโปรดที่สุดที่ผมชอบคือ โยไก มันเป็นได้ทั้งสัตว์ สัตว์ประหลาด หรือเทพเจ้าก็ได้ พวกเขาทำทั้งสิ่งชั่ว ๆ และสิ่งที่ดีก็ได้ด้วย ทั้งน่ากลัวและมีเสน่ห์ เต็มไปด้วยความขัดแย้งกันมากมาย ด้วยแรงบันดาลใจเหล่านี้ผมคิดว่ามันเอามาหลอมรวมกับพวกสัตว์ประหลาดของพวกฝรั่งได้ด้วย”

(แถวบน) ผีร่ม ผีโคมไฟ ผีแมว (แถวล่าง) โตโตโระ, โอนิงิริ กับ มักกะโรนี

FYI Youkai

ถ้าแปลเป็นไทยโยไกน่าจะใกล้เคียงกับภูตผีปีศาจ ตัวศัพท์มีความหมายถึง ประสบการณ์เหนือธรรมชาติที่ไม่อาจอธิบายได้ เป็นความเชื่อเหนือธรรมชาติและวิญญาณ ตัวอักษรคันจิที่ใช้ 妖怪 มีความหมายว่า ประหลาดใจ ผิดปกติ อันเป็นคำยืมมาจาก เหยาก่วย ของจีน แต่ภูติผีของทั้งสองวัฒนธรรมมีรายละเอียดที่แตกต่างกันมากพอสมควร ชื่ออื่น ๆ ของพวกโยไก มีอาทิ อายาคาชิ, โมโนโนะเกะ, มาโมโนะ อย่างไรก็ตาม โยไก ไม่ใช่ปีศาจตามคติแบบตะวันตก แต่คือจิตวิญญาณของสิ่งมีชีวิต และพวกมันถูกมองว่าเป็น คามิ หรือเทพชินโตศักดิ์สิทธิ์สามารถให้คุณให้โทษได้ ชินโตเชื่อว่า คามิ ไม่สามารถแยกออกจากธรรมชาติ แต่คามิเป็นของธรรมชาติ มีทั้งความดีและความชั่ว อันเป็นการสำแดงของ มุซุบบิ หรือพลังงานที่เชื่อมโยงถึงกันของจักรวาล คามิ ถูกซ่อนจากโลกนี้และอาศัยอยู่กับการดำรงอยู่ที่สมบูรณ์ภายใน ชินไก (โลกแห่งคามิ) การสอดประสานกันอันมีแง่มุมน่าเกรงขามของธรรมชาติคือการตะหนักถึง คันนางาระ โนะ มิจิ (วิถีแห่งคามิ) อย่างไรก็ตามพฤติกรรมของ โยไก อาจมีตั้งแต่มุ่งร้ายถึงชีวิตหรือแค่ซุกซนไปจนถึงเมตตาต่อมนุษย์ โยไกมีลักษณะคล้ายสัตว์ เช่น ตัวกัปปะมีลักษณะคล้ายเต่า หรือเทพเทงงูส่วนใหญ่จะมีปีก ตัวคามิ หรือโยไก ชาวโลกน่าจะรู้จักดีคือ โตโตโระ ของค่ายการ์ตูนดัง สตูดิโอจิบลิ อย่างกรณีปีศาจที่ Grape Brain ออกแบบให้ มักกะโรนี เป็นตัวสลาเมนเดอร์ ส่วน โอนิงิริ (ข้าวปั้น) เป็นแมว แต่บางทีพวกโยไกก็อาจแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ด้วยอย่างพวกทานูกิ บางทีก็มาในร่างของสิ่งไม่มีชีวิต เช่น ร่ม โคมไฟ ถ้วยชาม พวกนี้จะเรียกว่า สึกึโมะคามิ

อาร์ตทอยพิเศษ หนุมาน และตัวละครจากเกมส์ดัง Street Fighter

“ขั้นตอนการทำของผมคือผมมักจะออกแบบในหัวก่อน จนกระทั่งผมมีไอเดียที่ชัดเจนถึงจะลงมือวาดลงไปบนกระดาษ ก่อนจะทำออกมาเป็นภาพสามมิติ อาจจะใช้วิธีแกะสลักหรือปั้นแบบออกมา แล้วทาสี จากนั้นก็จะออกแบบบรรจุภัณฑ์เองทั้งหมด จริง ๆ แต่ก่อนผมจะทำเองทุกอย่างแม้แต่บรรจุลงกล่อง แต่เดี๋ยวนี้เรามีทีมมาช่วยแล้วครับ”

http://www.grapebrain.net/
https://www.instagram.com/grapebrain_rage/
https://www.instagram.com/hellscat_onigiri/

Tamashii Nations

ออกตัวก่อนว่าการจะนับรวมผลงานของค่ายนี้เป็นอาร์ตทอยทั้งหมดคงไม่ใช่ อันที่จริงนี่คือบริษัทลูกในเครือของค่ายผลิตของเล่นยักษ์ใหญ่ Bandai ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2007 ส่วนหนึ่งมีการผลิตผลงานคลาสสิคในแบบพิเศษ ตัวเว็บไซต์เขาอธิบายว่า “TAMASHII NATIONS เป็นการหลอมรวมแบรนด์ชั้นนำของเรา ทามาชิอิ แปลว่า “จิตวิญญาณ” มันสร้างขึ้นจาก DNA ที่สร้างสรรค์และขับเคลื่อนด้วยความหลงใหล นั่นคือ ปัจจัยที่ยอดเยี่ยม ความสนุกสนาน และความประหลาดใจ เมื่อคุณได้ยิน TAMASHII NATIONS คุณจะรู้ว่าเราได้ทุ่มเททั้งหัวใจและจิตวิญญาณให้กับมัน เรารับประกันว่าคุณจะพบสิ่งที่แตกต่าง สิ่งใหม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจ และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง”

ผลงานชุดนี้ถูกผลิตภายใต้ชื่อซีรีส์ Movie Realisation Series ซึ่งเริ่มปรากฎในปี 2015 เรื่อยมาจนปัจจุบัน มันคือการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างตัวละครฮิต ๆ ในหนังไซ-ไฟฮอลลีวูดเรื่องดังด้วยดีไซน์การออกแบบอย่างนักรบซามูไรโบราณ โดยซีรีส์แรกประกอบด้วย Boba Fett , Stormtroopers และImperial Royal Guard กระทั่งต่อมาลามไปถึงหนังซูเปอร์ฮีโร่อย่าง Spider-Man ตัวผู้ออกแบบผลงานชุดนี้คือ ทาคายูกิ ทาเคยะ ผู้มีเครดิตในการออกแบบให้หนังดัง ๆ มากมาย อาทิ Kamen Rider ZO, Gilgamesh, Attack on Titan, Shin Godzilla, Final Fantasy XV และFinal Fantasy VII Remake ฯลฯ

https://tamashiiweb.com
https://www.instagram.com/instamashii/
https://www.facebook.com/artoftakayukitakeya/

Fat Lane 17

แว่บแรกที่เราเห็นผลงานของ Fat Lane 17 เราประทับใจไอเดียอย่างมาก ไม่ว่าจะลุงยุคหินที่ตัวเตี้ยอ้วนถือนาฬิกาทรายและงีบหลับ ส่วนไอ้ตัวที่สูงกว่าก็ถือกระดูกรูปแผนที่ประเทศไทยแลบเลียปาก, แดดดี้ชาชาแมนมาในทรง Hulk มนุษย์จอมพลังตัวเขียวถือถุงกัมมันตภาพรังสี, ลุง Heavy Sleeper นาฬิกาเพื่อนสองเรือน, แมวกวักหน้าคุ้นเหมือนคนที่เพิ่งกลับมาไทย, ลุงเกาะบันหัวลูกโลกเวิร์ลบอยที่เบ้ปากใส่ลุง, ลุงButtที่แปลว่าตูดอยู่มาแล้ว 7 ปีวางอยู่บนถาดคล้ายอาหารหมา (เลียนแบบ Buzz Lightyear แห่ง Toy Story) แล้วไอเดียของค่ายนี้เก๋ตรงบางทีก็เปลี่ยนสีนิดนึง หรือใส่รายละเอียดบางอย่างเพิ่ม ความหมายก็เปลี่ยนไปเลย ตั้งแต่ลุงยุคหินเลียปากที่เปลี่ยนสีกระดูกเป็นสีเลือด หรือชาชาแมนมาในชุดกูลิโกะ เป็นผลงานของผู้ออกแบบชาวไทยเบอร์ต้น ๆ ที่เราเอาใจเชียร์และรอคอยผลงานใหม่ ๆ เสมอ เพราะไอเดียแสนเท่ห์ เรียบง่าย เข้าใจง่าย แต่ตีความได้มากมาย คมจัดชัดเจนมาก ชอบ

https://www.facebook.com/Fatlane17
https://www.instagram.com/fatlane17/
https://twitter.com/fat_lane

MOTMO

ผลงานของ โม่ คมกฤษ เทพเทียน หนุ่มสุพรรณที่จบวิจิตร์ศิลป์มาจากลาดกระบัง และโทประติมากรรมจากศิลปากร ด้วยไอเดียที่เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่า “ถ้าผมสามารถเอาศิลปะออกไปหาคนได้ โดยผ่านรูปแบบที่เรียกว่าสินค้า มันเหมือนหาตัวแปรอื่น ๆ ที่น่าจะทำให้ศิลปะร่วมสมัยเข้าถึงคนได้มากขึ้น” ทำให้เขาเกิดไอเดียตู้กาชาปองหิมพานต์ มาร์ชเมลโล่ เมื่อปี 2020 มาสู่ผลงาน ยักษ์แฝด กาชาปองอับเฉา ตรีเณชา กาชาปองรามเกียรติ์ กาเนชา กาชาปองผีไทย มาจนล่าสุดจับมอมมาแต่งผี ซึ่งทั้งหมดเล่นกับหลากหลายมิติของความเป็นไทย

https://www.instagram.com/motmostudio
https://www.facebook.com/MotmoStudio/