ThaiPublica > เกาะกระแส > “สุริยะ” ขอ 2 ปี ดันรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย เร่งรัดทางคู่เชื่อมจีน – แก้ปัญหาสายสีส้ม

“สุริยะ” ขอ 2 ปี ดันรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย เร่งรัดทางคู่เชื่อมจีน – แก้ปัญหาสายสีส้ม

7 กันยายน 2023


“สุริยะ” ยืนยันรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย ทำแน่! แต่ขอเวลา 2 ปี พร้อมเร่งรัดทางคู่เชื่อมจีน – ลุยแก้ปัญหารถไฟฟ้าสายสีส้ม ขอสล็อตกองทัพอากาศ 100 เที่ยวบิน รองรับนักท่องเที่ยวช่วง “ไฮซีซั่น” เตรียมหารือคลังจัดทำมาตรการรับมือเบิกจ่ายงบฯปี 67 ล่าช้า

เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2566 เวลา 9.00 น. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม , นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางเข้ามาทำงานที่กระทรวงคมนาคมเป็นวันแรก โดยมีข้าราชการและผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคม มายืนต้อนรับกันเป็นจำนวนมาก

หลังจากที่รัฐมนตรีทั้ง 3 ท่าน สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงคมนาคมเสร็จเรียบร้อยได้เดินเข้าสู่อาคารราชรถสโมสร กระทรวงคมนาคม เพื่อพบปะกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคมนาคม และสื่อมวลชน โดยในวันนี้นายสุริยะ กล่าวย้ำว่า ยังไม่ถือเป็นมอบนโยบายใดๆให้กับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคมนาคมทั้งสิ้น ตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องรอรัฐบาลแถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาในวันที่ 11 – 12 กันยายน 2566 เสร็จเรียบร้อยก่อน จากนั้นจะมามอบนโยบายและแนวทางการทำงานกันอีกครั้ง

นายสุริยะ กล่าวว่า วันนี้ผม และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมอีก 2 ท่าน รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง แต่ในความยินดีนั้นก็มาพร้อมกับภาระที่ประชาชนฝากความหวังไว้กับรัฐบาล ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำกับรัฐมนตรีทุกท่านว่าให้ทำงานกันอย่างหนัก ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย โดยเฉพาะในเรื่องของการท่องเที่ยวที่กำลังจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ตนก็มาเน้นย้ำอีกครั้งนี้ โดยมอบหมายให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) จัดตารางการบินเพิ่มเติม (สล็อต) เพื่อให้มีสายการบินเข้ามาในประเทศไทยให้มากที่สุด

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

“ตอนนี้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก อยากเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทย แต่ปัญหาคือสล็อตไม่พอ จากข้อมูลที่ผมได้รับทราบจากผู้บริหารบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ “ทอท.” แจ้งให้ทราบว่ากองทัพอากาศมีสล็อตในช่วงเช้าเหลืออยู่มากพอสมควร ช่วงที่ผมได้พบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผมก็ขอให้ท่านไปช่วยเจรจากับกองทัพอากาศ หากมีสล็อตที่ไม่ใช้ ขอให้แบ่งมาให้กับ ทอท. ซึ่งจะสามารถเพิ่มเที่ยวบินเข้าประเทศไทยได้มาก เช่น ถ้าได้เพิ่มมาสัก 100 เที่ยวบิน เที่ยวละ 150 คน ก็จะมีผู้โดยสารเดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10,000 คนต่อวัน นายสุริยะ กล่าว

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ส่วนในระยะต่อไป ตนมองว่าประเทศไทยมีระบบโลจิสติกส์ที่มีศักยภาพสูงมากเมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยประเทศที่เจริญแล้วมีระบบโลจิสติกส์เฉลี่ย 9% ของ GDP ส่วนประเทศไทยมีระบบโลจิสติกส์เฉลี่ย 15% ของ GDP เนื่องจากประเทศไทยใช้ระบบขนส่งทางบกและทางอากาศเป็นหลัก ส่วนระบบการขนส่งทางน้ำและทางรางใช้เพียงแค่ 2% ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องเร่งการลงทุนเพิ่มเติม รวมทั้งเร่งรัดผู้ประกอบการ หรือ ผู้รับเหมา ให้ทำงานให้เสร็จตรงตามเวลา ส่วนโครงการใหม่ ๆก็ต้องเร่งดำเนินการ อย่างเช่น โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ขณะนี้นายกรัฐมนตรีกำลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความคืบหน้าของโครงการนี้ ซึ่งเส้นทางนี้จะมีความสำคัญมากในเรื่องการขนส่งสินค้าจากประเทศไทยไปจีน

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงเรื่องนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย จะดำเนินการอย่างไร นายสุริยะ กล่าวว่า “เรื่องนี้ผมต้องขอโทษประชาชนที่สื่อสารออกไปแล้ว อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด คิดว่ารัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ แต่ไปให้กับความสำคัญกับเรื่องอื่นที่มีความสำคัญมากกว่า ผมขอชี้แจงว่านโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย เป็นนโยบายที่มีความสำคัญมาก โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งมีภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางสูงมาก บางคนต้องขึ้นรถไฟฟ้า 3 – 4 สาย กว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง ทางพรรคเพื่อไทย เห็นว่านโยบายดังกล่าวนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก จึงต้องหาทางช่วยลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ให้กับประชาชน”

“แต่อย่างไรก็ตาม การเร่งรัดในเรื่องนี้มันมีขั้นตอนในการไปเจรจากับผู้รับสัมปทาน อาทิ รถไฟฟ้าสายสีเขียวของกรุงเทพมหานคร และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ส่วนรถไฟฟ้าสายสีอื่นของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) อยู่ในกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคมก็จริง แต่ก็ต้องใช้เวลาในการเจรจาเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเรื่องการใช้ระบบ “ตั๋วร่วม” ซึ่งทาง รฟม.มีการติดตั้งระบบซอฟต์แวร์ต่างๆไว้แล้ว แต่ทางบริษัทบีทีเอสยังไม่มี โดยการติดตั้งระบบซอฟต์แวร์ต้องใช้งบประมาณเกือบ 1,000 ล้านบาท และต้องใช้เวลาในการจัดซื้อจัดจ้างประมาณ 1 ปี” นายสุริยะ กล่าวว่า

นายสุริยะ กล่าวว่า“นอกจากนี้ยังอีกประเด็นที่จะต้องเจรจากับผู้รับสัมปทานกันอีกหลายประเด็น เช่น เมื่อลดราคาค่าโดยสารลงมาเหลือ 20 บาท ตลอดสาย คาดว่าจำนวนผู้โดยสารก็จะเพิ่มขึ้นกว่า 10% และรายได้ก็จะเพิ่มขึ้นมาทันทีเช่นเดียวกัน ตรงนี้ก็จะต้องมาเจรจากับเอกชนในเรื่องรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจะแบ่งปันผลประโยชน์กันอย่างไร และรัฐบาลจะต้องจัดงบประมาณมาชดเชยให้เอกชนเท่าไหร่ ซึ่งในขณะนี้กรมการขนส่งทางรางก็มีตัวเลขอยู่แล้ว แต่ผมมอบหมายให้ไปหารือกับอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้ชัดเจนก่อน ดังนั้น การดำเนินโครงการรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย คาดว่าจะต้องใช้เวลา 2 ปี ยืนยัน เราทำแน่ แต่ขอเวลาหน่อย” นายสุริยะ กล่าว

ส่วนเรื่องแก้ปัญหาหนี้สินของรถไฟฟ้าสายเขียวนั้น นายสุริยะ กล่าวว่า “เรื่องนี้เป็นอยู่ในกำกับดูแลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่จะเข้าไปแก้ปัญหาดังกล่าวนี้”

อีกโครงการที่ยังเป็นปัญหาคาราคาซัง คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม นายสุริยะ กล่าวว่า “ช่วงที่ตนเป็นรัฐมนตรีอยู่ในรัฐบาลชุดที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคมได้มีเสนอเรื่องผลการประมูลรถไฟฟ้าสายส้มให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ช่วงนั้นสื่อมวลชนก็มีการนำเสนอข่าวหากมีการอนุมัติโครงการนี้ ให้ระวังติดคุก วันนั้นก็มีรัฐมนตรีหลายคน เดินออกจากที่ประชุม ครม. แต่ผมยังอยู่ในที่ประชุม ครม. เพราะอยากทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดเป็นอย่างไร ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาได้มีข้อเสนอแนะว่าเรื่องนี้ยังเป็นคดีฟ้องร้องกันอยู่ที่ศาลปกครอง และคดียังไม่ถึงที่สุด จึงเห็นควรรอให้ศาลปกครองพิจารณาวินิจฉัยให้เสร็จเรียบร้อยก่อน ถึงจะดำเนินการต่อไปได้”

“เท่าที่ทราบกรณีพิพาทระหว่างบริษัทบีทีเอสกับคณะกรรมการคัดเลือกของ รฟม.นั้นมีการฟ้องร้องกันอยู่ 3 คดี โดย 2 คดีแรก ศาลปกครองกลางและศาลปกครองสูงสุดมีคำวินิจฉัยชี้ขาดไปแล้ว ส่วนคดีที่ 3 นั้น ศาลปกครองกลาง วินิจฉัยว่า คณะกรรมการคัดเลือกของ รฟม. ทำถูกต้องแล้ว ไม่ได้ดำเนินการผิดขั้นตอนแต่อย่างใด ดังนั้น ในคดีที่ 3 นี้ คงต้องรอศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยชี้ขาดก่อน ถึงจะดำเนินการต่อไป ยืนยันโครงการนี้ต้องเดินหน้าแน่นอน แต่ต้องรอศาลปกครองสูงสุดมีคำวินิจฉัยออกมาก่อน” นายสุริยะ กล่าว

ถามว่าการจัดทำงบประมาณปี 2567 ที่ล่าช้า อาจส่งผลกระทบต่อการเบิกจ่ายงบลงทุนในโครงการต่างๆจะมีแนวทางแก้ไขอย่างไร นายสุริยะ ตอบว่า เรื่องนี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งเกี่ยวกับเรื่องของการจัดทำงบประมาณปี 2567 ที่ล่าช้า เรื่องนี้นายเศรษฐา ขออย่าให้ถือเป็นเงื่อนไขที่ทำให้รัฐบาลทำงานไม่ได้ แต่รัฐบาลจะใช้งบประมาณที่มีอยู่ทั้งหมดในปัจจุบันขับเคลื่อนงานได้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำ และหลังจากที่รัฐบาลแถลงนโยบายเสร็จเรียบร้อย คงจะต้องมีการหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อจัดทำมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายในช่วงที่งบประมาณปี 2567 ยังไม่มีผลบังคับใช้ต่อไป