
เมื่อจัสติน ทรูโด นำพรรคเทียร์สอง (tier2) อย่างพรรคลิเบอรัล(Liberal party)คว้าชัยในการเลือกตั้งปี 2015 และก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของแคนาดา ได้สร้างความหวังใหม่ให้กับประชาชนที่เบื่อการเมืองแบบเก่า เพราะนอกจากจะเป็นคนรุ่นใหม่ ที่มีอายุเพียง 43 ปีในขณะนั้น ยังมีโปรไฟล์ดี ด้วยฐานะลูกชายคนโตของอดีตนายกรัฐมนตรีพิเอร์ ทรูโด มีการศึกษาที่ดี ด้วยดีกรีวิศวกรรมศาสตร์ และปริญญาโทด้านภูมิศาสตร์ รวมถึงยังเคยเป็นนักแสดง เคยเป็นครูก่อนก้าวเข้าสู่วงการการเมืองในปี 2008 อีกทั้งยังเป็นคนที่จับกระแสของปี 2015 ทั้งโลกร้อน ความเท่าเทียมทางเพศ ความเหลื่อมล้ำ และมีวาทศิลป์เป็นเลิศดึงดูดคนทุกรุ่น
โลกจับตา จัสติน ทรูโด เป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดคนที่สองในประวัติศาสตร์ของแคนาดา และการชนะการเลือกตั้งของเขายังเป็นสัญญานการเปลี่ยนผ่านไปสู่คนรุ่นใหม่ ที่สะท้อนออกมาในการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีอายุเฉลี่ย 35-50 ปี
จัสติน ทรูโด เปิดตัวคณะรัฐมนตรีที่จัดว่าเป็นคณะรัฐมนตรีที่อายุน้อยและมีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศที่มีคณะรัฐมนตรีมีความสมดุลและเท่าเทียมกันระหว่างชายและหญิง

รัฐมนตรีซึ่งประกอบด้วยผู้หญิง 15 คนและผู้ชาย 15 คน ส่วนใหญ่มีอายุต่ำกว่า 50 ปี สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงทั้งรุ่นอายุและความมุ่งมั่นที่จะสะท้อนถึงความหลากหลายของแคนาดา
“วันนี้เป็นวันสำคัญที่พวกเรามาอยู่ที่นี่ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีที่เหมือนกับแคนาดา ให้กับแคนาดา” ทรูโดกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2015 หลังจากที่สาบานตนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของประเทศอย่างเป็นทางการ
เมื่อถามว่าทำไมความเท่าเทียมกันสำคัญสำหรับเขา จัสติน ทรูโดตอบว่า “เพราะว่านี่มันปี 2015 แล้ว”
รัฐมนตรีหญิงหลายคนที่เข้ามารับตำแหน่งได้รับบทบาทสำคัญ รวมถึงอดีตนักข่าว คริสเทีย ฟรีแลนด์ รับผิดชอบด้านการค้าระหว่างประเทศ เป็นรัฐมนตรีหญิงคนแรกที่ดำรงตำแหน่งนี้ และแมเรียม มอนเซฟ วัย 30 ปี รัฐมนตรีอายุน้อยที่สุด เป็นมุสลิมที่หนีออกจากอัฟกานิสถานในฐานะผู้ลี้ภัยเมื่อ 20 ปีที่แล้วพร้อมแม่ที่เป็นแม่ม่ายและพี่สาวอีก 2 คน ดูแลงานด้านการปฏิรูปประชาธิปไตย


คณะรัฐมนตรีของทรูโดทั้ง 30 คนยังประกอบด้วยสมาชิกรัฐสภาชาวอะบอริจิน 2 คน ผู้พิการ 2 คน และนักการเมืองชาวซิกข์ 3 คน และยังมีรัฐมนตรีที่เป็นมุสลิมคนแรก มีรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมชาวอะบอริจินคนแรก และรัฐมนตรีประมงจากภาคเหนือคนแรก เป็นชาวเอสกิโมที่สวมเน็คไทหนังแมวน้ำเข้าสาบานตน
อมาร์จีต โซฮี รัฐมนตรีกระทรวงโครงสร้างพื้นฐานคนใหม่ เคยถูกจำคุกอย่างมิชอบในฐานะผู้ก่อการร้ายในประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา อมาร์จีตถูกจำคุก 21 เดือนและถูกทุบตีและทรมาน
เคนท์ เฮห์ร รัฐมนตรีกระทรวงกิจการทหารผ่านศึกและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นอัมพาตจากเหตุกราดยิงขณะขับรถ เขาเรียนกฎหมายและกลายเป็นสมาชิกพรรคลิเบอรัลในอัลแบร์ตา
และคณะรัฐมนตรีมีขนาดเล็กกว่าคณะรัฐมนตรีชุดก่อนๆ ที่มีสมาชิก 39 คน และโดยรวมอายุน้อยกว่ารัฐบาลแคนาดาชุดก่อนๆ อีกทั้งยังเป็นส.ส.หน้าใหม่ถึง 18 คน
นายกรัฐมนตรียังได้แต่งตั้งคนเก่าแก่ของพรรคลิเบอรัลบางคนด้วย โดยตั้งสเตฟาน ดิออน อดีตผู้นำพรรคเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ และตั้ง โดมินิก เลอบลังก์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และเป็นหนึ่งในที่ปรึกษาที่ใกล้ชิดที่สุดของเขาเป็นผู้นำรัฐบาลในสภาผู้แทนราษฎร
แม้เป็นลูกอดีตนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งสองสมัยและมีผลงาน แต่ในระหว่างการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งจัสติน ทรูโดบอกว่า เขาไม่ได้คิดถึงสิ่งที่พ่อสร้างไว้
“สิ่งที่ผมคิดในวันนี้ ไม่ได้อยู่ที่กับสิ่งที่พ่อสร้างไว้ แต่มันเป็นเรื่องของลูกๆ ของผมเองและเด็กๆ ทั่วประเทศนี้ว่า เราจะทำงานอย่างหนัก เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะมีอนาคตที่ดีขึ้นกว่านี้”
ทรูโดย้ำแล้วย้ำอีกว่า รัฐบาลของเขาจะเปิดกว้างและโปร่งใสมากกว่าชุดก่อน และยืนยันว่ารัฐมนตรีจะมีอิสระในการบริหารงาน
“รัฐบาลที่เป็นคณะรัฐมนตรีกลับมาแล้ว”
นายกรัฐมนตรีคนก่อนหน้า สตีเฟน ฮาร์เปอร์ เป็นที่รู้จักกันดี จากการรวมอำนาจไว้ที่สำนักนายกรัฐมนตรีในระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่ง และครอบงำการตัดสินใจเชิงนโยบายที่เสนอโดยรัฐมนตรีของเขาเอง
ในการสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง มีเสียงเชียร์จากฝูงชนที่มาสนับสนุนรัฐมนตรีบางคนที่จัสติน ทรูโดเลือกขึ้นมา ทั้งรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมคนใหม่ โจดี วิลสัน-เรย์โบลด์ ทนายความ และผู้นำสภาชาวพื้นเมือง(Assembly of First Nations) ประจำภูมิภาค แห่งบริติชโคลัมเบีย ที่สาบานตนเข้ารับตำแหน่ง อัยการสูงสุดและรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมจึงเป็นชาวอะบอริจินคนแรกที่ดำรงตำแหน่งนี้

แคทเธอรีน แมคเคนนา เป็นทนายความ และผู้บริหาร NGO รับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศคนใหม่ ร่วมกับจัสติน ทรูโด เข้าประชุม COP 21 ในปารีสปลายเดือนพฤศจิกายน 2015

รัฐมนตรีกระทรวงกิจการชนพื้นเมือง แคโรลิน เบนเน็ตต์ เป็น ส.ส.พรรคลิเบอรัลที่ทำงานด้านกลุ่มชนพื้นเมืองมายาวนาน ดูแลการดำเนินการสอบสวนระดับชาติในกรณีของผู้หญิงพื้นเมืองหลายร้อยคนที่สูญหายและถูกสังหาร
สำหรับ รัฐมนตรีกระทรวงตรวจคนเข้าเมือง จอห์น แม็กคัลลัม ดูแลการนำผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย 25,000 คนเข้าสู่แคนาดาในปี 2015 นี้ ตามคำมั่นในการรณรงค์หาเสียงของพรรคลิเบอรัล
การเลือกคณะรัฐมนตรีของจัสติน ทรูโดยังพยายามรักษาความสมดุลระดับภูมิภาคอีกด้วย
…จากการรายงานของ CBC
คณะรัฐมนตรีของจัสติน ทรูโดมีทั้งหมด 31 คน รวมทั้งจัสติน ทรูโด โดยจัสติน ทรูโดและรัฐมนตรีอีก 6 คนมาจากมณฑลควิเบก มาจากรัฐออนแทริโอ 11 คน จากรัฐบริติช โคลัมเบีย 3 คน จากรัฐแมนิโทบาและรัฐอัลแบร์ตาที่ละ 2 คน ที่เหลือมาจากรัฐซัสแคตเชวัน รัฐโนวา สโกเทีย รัฐนิวบรันสวิก รัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์ รัฐนูนาวุต รัฐพรินซ์เอ็ดเวิร์ดไอส์แลนด์ รัฐละ 1 คน

ในปี 2017 จัสติน ทรูโดได้ปรับคณะรัฐมนตรี โดยได้โปรโมทรัฐมนตรีที่มีผลงานโดดเด่นและตั้งคนหน้าใหม่เข้ามาร่วมคณะรัฐมนตรี รวมแล้วมีการปรับ 6 ตำแหน่ง และมีรัฐมนตรีหน้าใหม่รับตำแหน่งสำคัญๆ นับเป็นการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่ครั้งแรกนับตั้งแต่จัสติน ทรูโดขึ้นสู่อำนาจในเดือนพฤศจิกายน 2015
โดยการปรับตำแหน่งที่สำคัญได้แก่ การโยกคริสเทีย ฟรีแลนด์จากกระทรวงการค้าระหว่างประเทศไปสู่กระทรวงการต่างประเทศ และยังปรับผู้ที่รับผิดชอบด้านการย้ายถิ่นฐานของผู้อพยพและการปฏิรูปประชาธิปไตย พร้อมด้วยตำแหน่งทางการทูตที่สำคัญตำแหน่งหนึ่ง
คริสเทีย ฟรีแลนด์ มีบทบาทสำคัญในการผลักดันข้อตกลงเศรษฐกิจและการค้าที่ครอบคลุมระหว่างสหภาพยุโรปและแคนาดา (EU-Canada Comprehensive Economic and Trade Agreement:Ceta) ไม่ให้ล่มในเดือนตุลาคมปี 2016 ในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เธอยังคงดูแลด้านความสัมพันธ์แคนาดา-สหรัฐฯ รวมถึงความสัมพันธ์ทางการค้ากับคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของแคนาดา
ต่อมาในการเลือกตั้งปี 2019 จัสติน ทรูโด ยังคว้าชัยแต่จำนวนที่นั่งในสภาของพรรคลิเบอรัลลดลงเหลือ 157 ที่นั่งเสียไป 20 ที่นั่ง ขณะที่พรรคอนุรักษ์นิยมซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญได้ไป 26 ที่นั่ง แต่พรรคลิเบอรัลยังคงมีที่นั่งเพียงพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยได้
การจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่สอดคล้องกับการให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆในการขจัดภัยคุกคามต่อความสามัคคีในชาติ และต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
คณะรัฐมนตรีที่จัสติน ทรูโด เปิดตัวในปี 2019 มีจำนวนที่มากขึ้นเป็น 37 คน รวมนายกรัฐมนตรี เพื่อแก้ไขประเด็นเร่งด่วนที่เกิดขึ้นระหว่างการเลือกตั้งระดับสหพันธรัฐหรือการเลือกตั้งกลาง ด้วยการเน้นเกี่ยวกับชนชั้นกลางและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคมากขึ้น ตลอดจนแนวทางใหม่ในการเป็นตัวแทน รัฐมนตรีชุดเดิม 12 คนได้กลับมารับตำแหน่งใหม่ และมีรัฐมนตรีหน้าใหม่ 7 คน ซึ่ง 2 คนในจำนวนนี้ได้รับเลือกเป็นครั้งแรกในปี 2562
เมื่อแยกออกเป็นตัวแทนจากระดับภูมิภาค ส่วนใหญ่เป็น สส.จากออนแทรีโอและควิเบก 4 คนจากบริติชโคลัมเบีย จากแมนิโทบา 1 คน และจากแต่ละเมืองในแอตแลนติกเมืองละ 1 คน
จัสติน ทรูโด ยังได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบกระทรวงต่างๆ โดยมีตำแหน่งใหม่หลายตำแหน่ง และยุบรวมความรับผิดชอบของคณะรัฐมนตรีบางส่วนเข้าด้วยกัน
คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ยังมีความสมดุลทางเพศ ตามมาตรฐานที่ จัสติน ทรูโด ได้ตั้งไว้กับคณะรัฐมนตรีชุดแรกของเขาที่สาบานตนเข้ารับตำแหน่งในปี 2015

ในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ คริสเทีย ฟรีแลนด์ ได้รับการเลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นรองนายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจอันดับสอง และเป็นรัฐมนตรี พร้อมกับรับผิดชอบงานที่ท้าทายมากขึ้น เช่น สภาพภูมิอากาศและนโยบายต่างประเทศ หลังจากที่รับผิดชอบงานใหญ่ ในการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ((North American Free Trade Agreement) หรือ NAFTA รอบใหม่ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในขณะนั้น มีนโยบายปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ (prorection) และได้แยกการเจรจากับเม็กซิโก ส่งผลให้ NAFTA กลายมาเป็น ข้อตกลงสหรัฐอเมริกา เม็กซิโกและแคนาดา (United States-Mexico-Canada Agreement) หรือ USMCA ภายใต้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ คริสเทีย ฟรีแลนด์ ยังคงดูแลความสัมพันธ์ของแคนาดากับสหรัฐอเมริกาในวงกว้าง
ในคณะรัฐมนตรีชุดนี้ จัสติน ทรูโด ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงเยาวชนอีกต่อไป แต่แต่งตั้ง บาร์ดิช แชกเกอร์ ให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงความหลากหลาย การไม่แบ่งแยก และเยาวชน(minister of diversity, inclusion and youth) รวมทั้งมีบทบาทในการขับเคลื่อนนโยบาย LGBTQ
หลังจากการรณรงค์ให้คำมั่นที่ต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จัสติน ทรูโด ได้โยกแคทเธอรีน แมคเคนนา จากกระทรวงสิ่งแวดล้อมไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโครงสร้างพื้นฐาน มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโครงการคาร์บอนต่ำ เช่น การขนส่งสาธารณะ
แต่ในเชิงตัวแทนระดับภูมิภาคกลับมีการเปลี่ยนแปลง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเสียที่นั่งในบางพื้นที่ และส่วนหนึ่งมาจากการแตกแยกระดับภูมิภาค โดยครั้งมีตัวแทนจากบริติชโคลัมเบียเข้าร่วมคณะรัฐมนตรี 4 คน จากออนแทริโอ 16 คน จากควิเบก 11 คน จากแอตแลนติก 4 คนและจากขตที่ราบทุ่งหญ้าแพรรี 1 คน(ทุ่งหญ้าแพรรีป็นที่ราบใหญ่อยู่ทางตอนกลางติดพรมแดนสหรัฐอเมริกา ได้แก่มณฑล ซาสแกตเชวัน อัลแบร์ตา และแมนิโทบาเป็นแหล่งปลูกข้าวสาลีที่สำคัญของแคนาดา)
ในการเลือกตั้งเดือนกันยายนปี 2021 หลังจากการยุบสภาในเดือนสิงหาคม จัสติน ทรูโด คว้าชัยเลือกตั้งและได้นั่งแหน่งนายกรัฐมนตรีของคณะรัฐบาลเสียงข้างน้อยเป็นครั้งที่ 3 โดยพรรคลิเบอรัลได้ 159 ที่นั่ง จาก 338 ที่นั่ง ในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งไม่ถึง 170 ที่นั่งที่จะได้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก
คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของแคนาดามีสมาชิก 38 คน รวมทั้งนายกรัฐมนตรีด้วย จัสติน ทรูโด ให้คำมั่นว่าคณะรัฐมนตรีใหม่ที่มีความสมดุลทางเพศ และจากเดิมนายกรัฐมนตรีแคนาดาพยายามให้มีตัวแทนภูมิภาคต่างๆ ของประเทศร่วมในคณะรัฐมนตรี แต่ครั้งนี้ได้ลดการกระจายตามภูมิภาคลง

การตั้งคณะรัฐมนตรีของ จัสติน ทรูโด ยังคงความเป็นคณะรัฐมนตรีที่มีความสมดุลระหว่างเพศ โดยมีผู้หญิงเข้ารับตำแหน่งครึ่งหนึ่ง และที่สำคัญมอบหมายให้ผู้หญิงรับผิดชอบงานสำคัญหลักของประเทศ 3 ด้าน คือ ด้านการคลัง กลาโหม และการต่างประเทศ
ทั้งสามกระทรวงนี้ มีอำนาจในการใช้จ่ายและกำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจ มีอำนาจในการจัดการภาพลักษณ์ของประเทศในต่างประเทศ และมีอำนาจในการปกป้องตนเองในยามวิกฤติ
โดยตั้งเมลานี โจลี วัย 42 ปี เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ จากที่เคยเป็นรัฐมนตรีพัฒนาเศรษฐกิจ และตั้งแอนิต้า อนันท์ วัย 54 ปีเป็นรัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งเป็นผู้หญิงรายที่สองที่รับตำแหน่งนี้ของแคนาดา ก่อนหน้านี้เธอเป็นรัฐมนตรีด้านการจัดซื้อจัดจ้าง(procurement minister) และมีบทบาทในการจัดซื้อวัคซีนในช่วงที่โควิด-19 ระบาด
ขณะที่ คริสเทีย ฟรีแลนด์ ซึ่งคาดว่าจะเป็นตัวเต็งขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีของแคนาดาคนต่อไป เพราะเป็นดาวรุ่งของคณะรัฐมนตรีของจัสติน ทรูโด ทุกชุดยังคงรั้งตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง
คริสเทีย ฟรีแลนด์ เป็นอดีตนักข่าว เคยเป็นหัวหน้าสำนักข่าวของ Financial Times ในกรุงมอสโคว์ รัสเซีย และเป็นที่รู้กันว่าเธอมีความเชื่อมโยงเหนียวแน่นกับวอชิงตัน

จัสติน ทรูโด ปรับคณะรัฐมนตรีอีกรอบในปี 2023 เดือนกรกฎาคม นับเป็นการปรับครั้งใหญ่ตั้งแต่ได้รับเลือกตั้งเข้าไปใหม่ และคุมการบริหารประเทศมาร่วม 8 ปี ด้วยการเพิ่มรัฐมนตรีหน้าใหม่ 7 คน เข้ามาแทนรัฐมนตรีเดิม 7 คน และปรับเปลี่ยนการมอบหมายงานใหม่เกือบทั้งหมด และมีเพียงรัฐมนตรีเก่า 8 คนที่คงตำแหน่งเดิม
รัฐมนตรีหน้าใหม่มาจากควิเบกและบริติชโคลัมเบีย ที่ละ 1 คน มาจากออนแทรีโอ 5 คน มาจากมหานครโตรอนโต 4 คน
จัสติน ทรูโด มอบหมายความรับผิดชอบและผลงานที่สำคัญให้กับ3 สส.ใหม่ หนึ่งในสามคนนั้นคือ อารีฟ วีรานี ที่เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรียุติธรรม

วิรานีเดินทางมาแคนาดาในฐานะผู้ลี้ภัยจากยูกันดาในปี 1972 ในช่วงที่ประธานาธิบดีอิดี อามิน ของประเทศในขณะนั้นขับไล่ชน กลุ่มน้อยชาวอินเดียในยูกันดา
วิรานี เป็น สส.จากพาร์คเดล-ไฮ พาร์ค ในออนแทรีโอ มาตั้งแต่พรรคลิเบอรัล ขึ้นสู่อำนาจครั้งแรกในปี 2015 เคยเป็นรัฐมนตรีช่วยหลายกระทรวง รวมทั้งกระทรวงยุติธรรม
ก่อนหน้านี้วิรานีทำงานเป็นทนายความด้านสิทธิมนุษยชนและเป็นผู้ช่วยอัยการพิจารณาคดีในการดำเนินคดีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ให้รวันดา ที่ศาลอาญาระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติ

รัฐมนตรีหน้าใหม่อีกคนคือ แกรี อนันทสังขารี จะเป็นรัฐมนตรีคนใหม่ของ Crown-Indigenous relations (หน่วยงานที่รับผิดชอบนโยบายที่เกี่ยวข้องกับชนพื้นเมืองในแคนาดา)
อานันทสังขารี ได้รับเลือกตั้งครั้งแรกในปี 2015 และดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยกระทรวงยุติธรรม นอกจากนี้ยังเป็นคณะกรรมาธิการด้านกิจการชนพื้นเมืองและภาคเหนือของรัฐสภาด้วย
อานันทสังขารี เป็นผู้แทนรัฐบาลรับผิดชอบในการพัฒนายุทธศาสตร์ต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติในระดับชาติ ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยกระทรวงมรดกและพหุวัฒนธรรม
อานันทสังขารี เข้ามายังแคนาดาในฐานะผู้ลี้ภัยชาวทมิฬจากศรีลังกาในปี 1983 ก่อนลงสมัครรับการเลือกตั้ง เขาทำงานเป็นทนายความด้านสิทธิมนุษยชนและร่วมกับองค์กรชุมชนหลายแห่ง รวมถึงในฐานะสมาชิกของสภาที่ปรึกษาผู้บัญชาการตำรวจโทรอนโตด้วย

รัฐมนตรีหน้าใหม่คนสุดท้ายในกลุ่มมสามคนคือ ญาร่า แซคส์ เป็นสส. จากโทรอนโต เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงสุขภาพจิตและการเสพติด (Minister of Mental Health and Addictions) และรองรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข
แซคส์ ยังจัดว่าเป็นสส.หน้าใหม่ เธอได้รับเลือกครั้งแรกในการเลือกตั้งซ่อมเดือนตุลาคม 2020 หลังการเลือกตั้งทั่วไปปี 2021 แซคส์ได้รับเลือกให้เป็นรัฐมนตรีช่วยกระทรวงครอบครัว เด็ก และการพัฒนาสังคม
ก่อนลงสมัครรับการเลือกตั้ง แซคส์ เป็นเจ้าของร่วมสตูดิโอโยคะและเป็นผู้อำนวยการองค์กรการกุศลด้านสุขภาพจิต
จัสติน ทรูโด กล่าวว่า การปรับคณระฐมนตรีครั้งนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าแคนาดาพร้อมที่จะพบกับผลที่จะตามมาทั้งในระดับประเทศและระดับโลก โดยชี้ไปที่ประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่อแคนาดา สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ยืดเยื้อ และเศรษฐกิจโลกที่อาจจะชะลอตัว
สำหรับภาวะในประเทศนั้น แคนาดากำลังประสบปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เงินเฟ้อ และราคาบ้านที่สูงขึ้น
จัสติน ทรูโด ตั้งเป้านำ “พลังใหม่” มาสู่รัฐสภา แต่หลังจากดำรงตำแหน่งมาแปดปี เขากำลังประสบกับการหมดใจของผู้มีสิทธิเลือกตั้งจากประเด็นนโยบายที่ยุ่งยาก รวมทั้งการสูญเสียความเชื่อมั่นของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง การสำรวจล่าสุดพบว่าพรรคลิเบอรัล ซึ่งมี จัสติน ทรูโด เป็นหัวหน้ามีคะแนนนิยม ตามหลังพรรคอนุรักษ์นิยม
“เราต้องเดินหน้าอย่างดีที่สุดต่อไป และทำงานให้หนักยิ่งขึ้นเพื่อชาวแคนาดา” จัสติน ทรูโดกล่าวในการแถลงข่าวหลังพิธีสาบานตนในออตตาวา
การที่คณะรัฐมนตรีเกือบทั้งหมดเข้าร่วมพิธี ชี้ให้เห็นว่าปรับคณะรัฐมนตรีใหญ่แค่ไหนก่อนการเลือกตั้งครั้งต่อไปในเดือนตุลาคม 2025