ThaiPublica > Native Ad > กรุงไทยเสริมแกร่งเกาะเต่า พัฒนาชุมชน สู่หมู่บ้านประมงแหล่งท่องเที่ยวแบบยั่งยืน

กรุงไทยเสริมแกร่งเกาะเต่า พัฒนาชุมชน สู่หมู่บ้านประมงแหล่งท่องเที่ยวแบบยั่งยืน

4 เมษายน 2023


โครงการ #UNDPกรุงไทยรักเกาะเต่า เป็นโครงการนำร่องด้านการใช้นวัตกรรมทางการเงินสนับสนุนโครงการที่สร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ และการยกระดับให้ชุมชนเกาะเต่าเป็นกรณีศึกษา ทั้งด้านการพัฒนาชุมชน และคุณภาพชีวิต ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อม ซึ่งตอกย้ำถึงการดำเนินงานของธนาคารกรุงไทยที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็น ธนาคารแห่งความยั่งยืน (Sustainable Banking) สร้างความเติบโตให้กับทุกภาคส่วนของสังคม ภายใต้กรอบแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน

“เกาะเต่า” เกาะเล็กๆ อยู่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นสวรรค์ของบรรดานักดำน้ำ แต่ต้องประสบปัญหาอย่างหนักจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่โลกได้เรียนรู้ที่จะอยู่กับโควิด 19 ด้วยวิถีชีวิตรูปแบบใหม่ ในวันที่ประเทศไทยเปิดประเทศ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว เกาะเต่าซึ่งได้รับการสนับสนุนและเตรียมพร้อมมาก่อนหน้านี้จากโครงการ #UNDPกรุงไทยรักเกาะเต่า วันนี้ได้ต่อยอดและพลิกฟื้นให้เกาะเต่ากลายเป็นชุมชนหมู่บ้านประมงแบบยั่งยืน พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง

  • กรุงไทย-UNDP- รักษ์ไทย ต่อยอด ‘ #UNDPกรุงไทยรักเกาะเต่า’ เสริมชุมชนพึ่งพาตัวเองอย่างยั่งยืน
  • กรุงไทย UNDP มูลนิธิรักษ์ไทยผนึกกำลัง ให้ความรู้ทางการเงิน ชุมชนเกาะเต่า
  • ธนาคารกรุงไทย วางแผนการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน สนับสนุนการบูรณาการเกาะเต่าในทุกมิติ โดยต่อยอดจากความสำเร็จของโครงการ #UNDPกรุงไทยรักเกาะเต่า ซึ่งธนาคารร่วมกับ UNDP ประเทศไทย และมูลนิธิรักษ์ไทย เมื่อปี 2563 ระดมทุนได้กว่า 2.7 ล้านบาท ในรูปแบบ Crowd Funding ด้วยการรับบริจาคผ่านระบบ e-Donation ของธนาคาร เพื่อสร้างอาชีพให้กับคนขับเรือท่องเที่ยวขนาดเล็กและช่วยเหลือคนในชุมชนเกาะเต่าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และเงินบริจาคส่วนที่เหลือ นำไปดำเนินโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกาะเต่าอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นคงด้านการประกอบอาชีพของคนในชุมชน รวมทั้งส่งเสริมพัฒนาทักษะให้กลุ่มอาชีพต่างๆ อาทิ พัฒนาผลิตภัณฑ์เอกลักษณ์ของท้องถิ่นให้กลุ่มพัฒนาบทบาทสตรีเกาะเต่า สนับสนุนโครงการประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์ผ้ามัดย้อมธรรมชาติ และ โครงการด้านประมงและท่องเที่ยว ซึ่งเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ของเกาะเต่ามาอย่างยาวนาน

    โครงการฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำด้วยซั้งปลา อีกหนึ่งโครงการที่ธนาคารสนับสนุน เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ช่วยส่งเสริมการทำอาชีพประมงควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อม โดยร่วมกับกลุ่มประมงพื้นบ้าน ทำซั้งปลาจากไม้ไผ่และทางมะพร้าว เพื่อสร้างบ้านปลาแบบยั่งยืน สำหรับเป็นตู้เสบียงชุมชน และช่วยฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity) ทำให้ปริมาณสัตว์น้ำ โดยเฉพาะปลาเศรษฐกิจ อาทิ ปลาอินทรีย์ ปลาแข้งไก่ และปลาหูบาง ที่ชาวประมงจับได้บริเวณรอบๆ ซั้งปลา และกองหินธรรมชาติ มีจำนวนเพิ่มขึ้น ชุมชนมีรายได้มากขึ้น รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนสูงขึ้น

    แม้รายได้จากการท่องเที่ยวจะยังไม่เป็นปกติ แต่เกาะเต่ายังคงความสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ พร้อมต่อยอดไปสู่บริการจัดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมทำซั้งปลากับชุมชน เพื่อเรียนรู้การทำประมงพื้นบ้าน และศึกษาธรรมชาติรอบเกาะ ซึมซับแนวคิดด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมและการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ

    ธนาคารกรุงไทยตระหนักว่า การพัฒนาชุมชนให้พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ต้องเริ่มจากการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ จึงนำความรู้และนวัตกรรมทางการเงินมาเป็นเครื่องมือที่สร้างประโยชน์กับชุมชน โดยพนักงานธนาคารได้ร่วมลงพื้นที่ ให้ความรู้การวางแผนทางการเงิน และการทำบัญชีรายรับ รายจ่าย สนับสนุนการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการชมรมประมงพื้นบ้านเกาะเต่า และกองทุนสวัสดิการเรือรับจ้างขนาดเล็ก เพื่อช่วยเหลือสมาชิกกรณีฉุกเฉิน เจ็บป่วย หรือได้รับอุบัติเหตุจากการทำงาน รวมทั้งร่วมกับเทศบาลเกาะเต่าวางแนวทางจัดตั้งกองทุนสิ่งแวดล้อม เพื่อดูแลทรัพยากรและระบบนิเวศอย่างยั่งยืน

    จากผลสำเร็จของโครงการ #UNDPกรุงไทยรักเกาะเต่า ทำให้สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติดีขึ้น เกิดความความหลากหลายทางชีวภาพ ที่ส่งผลให้สิ่งมีชีวิตได้รับการฟื้นฟู ปกป้อง และเกื้อกูลกันระหว่างธรรมชาติกับคนในเกาะ โดยได้รับเลือกจากโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ หรือ The United Nations Development Programme (UNDP) ประเทศไทย ให้เป็นโครงการตัวอย่างในการพัฒนาด้านการเงิน เพื่อความหลากหลายทางชีวภาพ (Finance for Biodiversity) จัดแสดงในการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ หรือ United Nation Biodiversity Conference สมัยที่ 15 (COP15) ที่นครมอนทรีออล ประเทศแคนาดา เดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเวทีการประชุมเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity) ที่สำคัญที่สุดในรอบทศวรรษ แสดงถึงความสำเร็จในการนำเครื่องมือทางการเงินมาพัฒนาความหลากหลายทางชีวภาพ สร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจและสังคมไทย

    เกาะเต่าในวันนี้ ผ่านการพัฒนาก้าวสู่การเป็นชุมชนต้นแบบ สอดคล้องกับการดำเนินการตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)ในเป้าหมายต่างๆ อาทิ การรับรองการศึกษาที่เท่าเทียมและทั่วถึง ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแก่ทุกคน (Quality Education:เป้าหมายที่ 4 ), เตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก (Climate Action:เป้าหมายที่ 13 ), อนุรักษ์และใช้ประโยชน์มหาสมุทรและทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน (Life Below Water: เป้าหมายที่ 14 ), ปกป้อง ฟื้นฟู และสนับสนุนการใช้ระบบนิเวศบนบกอย่างยั่งยืน (Life On Land :เป้าหมายที่ 15 ), ส่งเสริมสังคมสงบสุข ยุติธรรม ไม่แบ่งแยกเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Peace Justice And Strong Institutions :เป้าหมายที่ 16 ) ส่งผลให้ชุมชนเกาะเต่ามีระบบเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง พัฒนาองค์ความรู้ให้พึ่งพาตนเอง มีระบบบริหารจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ จัดการขยะอย่างเป็นระบบ สามารถยกระดับความเป็นอยู่ให้คนในชุมชน มีคุณภาพชีวิตที่ดี สร้างการเติบโตให้กับทุกภาคส่วนของสังคม ตามวิสัยทัศน์ “กรุงไทยเคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน”