กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.)ร่วมกับกรุงเทพมหานคร ปล่อยขบวนรถ โอกาส Deliver มอบถุง ปันยิ้มให้น้อง ในกลุ่มเด็กเปราะบาง ด้อยโอกาส สร้างความเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา พร้อมเครือข่าย 4 จังหวัด พะเยา แม่ฮ่องสอน ลำปาง ปัตตานี ภายใต้โครงการขบวนรณรงค์ โอกาส Delivery เด็กทุกคนควรมีโอกาสเข้าถึงการเรียนรู้ที่เสมอภาค เพื่อเป็นของขวัญวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2566
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเนื่องในกิจกรรมวันเด็ก และปล่อยขบวนรถขบวนรณรงค์ส่งโอกาส Delivery เพื่อสร้างโอกาสเรียนรู้อย่างเสมอภาคว่า ทุกวันควรเป็น วันเด็ก เพราะเราต้องคิดถึงเด็กเป็นลำดับแรก และหากถามว่าสิ่งที่มีค่าที่สุดของครอบครัวและเมืองคืออะไร คำตอบก็คือ “เด็ก” และจะเป็นอนาคตของเมือง เป็นคนที่จะมาสร้างเมืองต่อไป
นอกจากนี้เห็นว่าการให้โอกาสที่มีคุณภาพและเรื่องของความเท่าเทียมกันเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งกทม.พร้อมที่จะให้โอกาสเพื่อให้ทุกคนเดินหน้าไปด้วยกัน และจะพาเมืองนี้ไปให้ดีที่สุดเพื่อส่งต่อเมืองที่มีคุณภาพให้กับทุกคน
ด้านดร.ไกรยส ภัทราวาท รองผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า กิจกรรมในวันนี้ จัดขึ้นเพื่อให้เด็กที่ไม่ได้มีโอกาสที่จะมาร่วมวันเด็ก เนื่องจากกิจกรรมวันเด็กที่จัดขึ้นในวันเด็กเป็นโอกาสของการเรียนรู้ ทำให้ กสศ.คิดในมุมกลับสำหรับเด็กที่เดินทางมาไม่ได้ ว่าควรจะเข้าหาเด็ก โดยนำเอาถุงปันยิ้มให้น้อง ไปมอบให้เด็กกลุ่มเปราะบาง ที่ไมมีโอกาสมาร่วมกิจกรรม ผ่านขบวนการรณรงค์ โอกาส Delivery เพื่อให้เด็กเข้าถึงสื่อการเรียนรู้ได้อย่างเท่าถึง
“ของขวัญการเรียนรู้ต่างๆ จะถูกส่งผ่านไปยังรถของโครงการ เพื่อ นำไปให้กับเด็กที่ด้อยโอกาส ที่ไม่สามารถมาร่วมกิจกรรมงานวันเด็กในปีนี้ได้ ด้วยหลายสาเหตุ เช่น ไม่มีค่ารถเดินทางมาร่วมกิจกรรม เพราะครอบครัวต้องทำงานหารายได้ จึงนำร่องแจกให้กับเด็กๆในชุมชนแออัดพื้นที่กรุงเทพมหานคร 4 ชุมชนก่อน คือ คลองเตย ทุ่งครุ นากลาง และตลิ่งชั่น ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีเด็กจำนวนมาก ยังขาดโอกาส ในด้านต่างๆก่อน ที่จะขยายไปยังพื้นที่อื่นๆ”
สำหรับถุงผ้าปันยิ้มให้น้อง จะประกอบด้วยหนังสือวิทยาศาสตร์ โมเดลกระดาษ 3 มิติ สมุดฝึกระบายสีฝึกกล้ามเนื้อ ชุดปลูกผัก และสีไม้ ซึ่งถือเป็นสื่อการเรียนรู้ที่เสริมพัฒนาการและการฟื้นฟูศักยภาพการเรียนรู้ของเด็ก เนื่องจากตลอด 3 ปีที่ผ่านมา การระบาดของโควิด-19 ทำให้เด็กไทยได้รับผลกระทบ มีเด็กจำนวนมากเผชิญกับภาวะการถดถอยทางการเรียนรู้ หรือ Learning loss ขณะเดียวกัน พบว่าเด็กทั่วไปมีผลกระทบ เรื่องพัฒนาการเรียนรู้ และภาวะกล้ามเนื้อบกพร่องในเด็กปฐมวัยและเด็กประถมต้น
“ภาวะถดถอยการเรียนรู้และเด็กหลุดนอกระบบเพราะความยากจน ที่กสศ.มีข้อมูลสถานการณ์ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา มีนักเรียนยากจน 15 % แรกในระบบการศึกษาไทย มีรายได้เฉลี่ยครัวเรือนเพียง 1,044 บาท หรือเฉลี่ยวันละ 34 บาทเท่านั้น
นอกจากนี้ ดร.ไกรยส บอกว่า กยศ.มีความร่วมมือกับ กทม.ระยะยาวในเรื่องการศึกษา โดยขณะนี้ กสศ.ได้ให้ทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสใน กทม. และในปีงบประมาณ 2567 ได้เสนอให้ กทม.ตั้งงบประมาณเพื่อสนับสนุนเด็กด้อยโอกาสโดยใช้ข้อมูลคัดกรองความยากจนจาก กสศ.ไปพิจารณาสนับสนุน ซึ่งพบว่า กทม.มีประมาณ 3 พันคน
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
