ThaiPublica > คนในข่าว > ระลึกถึง “ม.ร.ว.สายสวัสดี สวัสดิวัตน” ราชนิกุล ผู้อ่อนน้อมและรักความเป็นธรรม

ระลึกถึง “ม.ร.ว.สายสวัสดี สวัสดิวัตน” ราชนิกุล ผู้อ่อนน้อมและรักความเป็นธรรม

25 ธันวาคม 2022


ญาติมิตรและผู้ใกล้ชิด “ระลึกถึงหม่อมราชวงศ์สายสวัสดี สวัสดิวัตน” หรือ คุณหญิงหน่อย ผู้เป็นราชนิกุล ผู้อ่อนน้อมถ่อมตน รักความยุติธรรม และแสวงหาสันติประชาธรรมบนพื้นฐานเคารพสิทธิมนุษยชนของเพื่อนมนุษย์

หม่อมราชวงศ์สายสวัสดี สวัสดิวัตน

เมื่อเร็วๆนี้ เพื่อน ญาติมิตร และผู้ใกล้ชิดได้จัดงาน “ระลึกถึงหม่อมราชวงศ์สายสวัสดี สวัสดิวัตน หรือคุณหญิงหน่อย” ซึ่งถึงแก่กรรมอย่างสงบ เมื่อวันอังคารที่ 19 กรกฎาคม 2565 ณ บ้านสวนแก้ว แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ สิริรวมอายุ 91 ปี

บรรยากาศงานรำลึกถึงหม่อมราชวงศ์สายสวัสดี ที่สยามสมาคม ถนนอโศกมนตรี เต็มไปด้วยความอบอุ่นเป็นกันเอง โดยมีญาติมิตรและผู้ใกล้ชิดมาร่วมงานอย่างหนาแน่น อาทิ ม.ร.ว.นริศรา จักรพงษ์ ภรรยาของ คุณกี้ กอสวัสดิ์ สวัสดิวัตน 1 ใน 4 บุตรชายของคุณหญิงหน่อย และ ฮิวโก้ จุลจักร จักรพงษ์

ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ผู้มีศักดิ์เป็นหลานน้าของคุณหญิงหน่อย และเป็นหลานตาของหม่อมเจ้าศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท สวัสดิวัตน ผู้เป็นบิดาของคุณหญิงหน่อยได้กล่าวคำอาลัยระลึกถึงคุณหญิงว่า

“น้าหน่อยเป็นผู้ใหญ่ใจดี ก้าวหน้า คบหาทุกคนได้ทุกประเภททุกวัย น้าหน่อยสนใจทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องราวของคนรุ่นใหม่ ในช่วงที่ต้องไปใช้ชีวิตอยู่กับน้าหน่อยในต่างประเทศ ในช่วงนั้นบ้านน้าหน่อยมีเด็กที่ต้องดูแล 15 คน แต่น้าหน่อยดูแลเด็กทั้ง 15 คนเป็นอย่างดี รับส่ง โรงเรียน ตลอดจนขับรถ 3 ชั่วโมง เพื่อหาออกไปกินข้าว และสมัยนั้นอยู่โรงเรียนประจำติดต่อยาก โทรศัพท์ไม่ได้เลย น้าหน่อยเขียนจดหมายถึงพวกเราทุกสัปดาห์ ทุกวันอาทิตย์น้าหน่อยจะเขียนจดหมาย และเช้าวันจันทร์พวกเราจะรอคอยจดหมายซึ่งเป็นแบบนั้นทุกสัปดาห์ที่เราอยู่ที่นั้น”

ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์

ดร .ปิยสวัสดิ์ บอกว่าในช่วงปิดเทอมน้าหน่อยจะมีกิจกรรมให้พวกเราทำ ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยขุดดินปลูกผัก ผมปลูกผักครั้งแรกที่นั้น
ไม่เคยทำกับข้าว ไม่เคยทอดไข่ ผมทำเป็นครั้งแรกที่นั้น จากการเป็นลูกมือน้าหน่อยทำอาหาร

“น้าหน่อยสนใจเด็กๆทุกคน ผลสอบเป็นอย่างไร นักเรียนที่น้าหน่อยดูแลมีปัญหาหลากหลาย แต่น้าหน่อยดูแลทุกคนได้เป็นอย่างดี น้าหน่อยเป็นคนหัวก้าวหน้า ผมโชคดีมากที่เป็นหลานน้าหน่อย และน้าหน่อยจะอยู่ในความทรงจำของผมตลอดไป”

ขณะที่ เพื่อนผู้ใกล้ชิดตั้งแต่วัยเด็กอย่าง “อานันท์ ปันยารชุน” อดีตนายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 18 กล่าวรำลึกถึงว่า “ผมรู้จักคุณหน่อยตั้งแต่อายุ 17-18 ปี แม้ว่าหลายช่วงจะห่างกัน แต่ทุกครั้งที่เราเจอกัน ก็ยังสนิทสนมพูดคุยกันด้วยความสนุกสนานเหมือนเดิม

“คุณหน่อยกับผมมีนิสัยใกล้เคียงกันมากเป็นคนที่พูดตรงไปตรงมา ไม่ชอบพูดเรื่องไร้สาระ ตั้งแต่ผมรู้จักคุณหน่อยมา ไม่มีครั้งไหนที่พูดจาไร้สาระเลย คุณหน่อยเป็นคนที่มีความงามทั้งกายและใจ เป็นคนที่ชัดเจนที่สุด และเป็นคนที่คุมอารมณ์ได้เป็นอย่างดี การควบคุมอารมณ์ของคุณหน่อยไม่ใช่การคุมอารมณ์โดยตั้งใจแต่เป็นโดยนิสัย เวลาคุยกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม แม้ว่าชีวิตผ่านประสบการณ์มาหลายอย่างแต่คุณหน่อยไม่มีความเครียดแค้น ไม่มีความโกธร ไม่มีความท้อแท้ หรือไม่มีความรู้สึกที่ต้องการจะแก้แค้นด้วย”

นายอานันท์ ปันยารชุน

“คุณหน่อยทำอะไร อย่างมีสติสัมปชัญญะตลอดเวลา แม้ว่าคุณหน่อยจำได้ทุกเรื่อง แต่ถามว่าโกธรมั้ย ผมคิดว่าไม่ ถามว่าเจ็บใจมั้ย ผมคิดว่าไม่เจ็บใจ คุณหน่อยเป็นคนไม่มีจริต ทุกอย่างเป็นเรื่องธรรมชาติ และอยู่ในโลกความจริง จะมีความฝันมากน้อยแค่ไหนผมไม่รู้ แต่เป็นความฝันที่มองนึกถึงคนอื่น มองเห็นแต่กระจกของสังคม เดือดร้อนที่คนตกยาก เดือดร้อนที่เห็นคนขาดโอกาส เดือดร้อนที่คนถูกแกล้งทางการเมือง เดือดร้อนในเรื่องของความไม่เป็นธรรมในสังคมไทย คุณหน่อยเดือดร้อนที่คนไทยไม่ได้รับความสนใจเพียงพอเกี่ยวกับเรื่อง มนุษยธรรม หรือสิทธิมนุษยชน ทุกครั้งที่ผมเจอคุณหน่อยผมสนุก เพราะคุณหน่อยเป็นคนช่างถามและชอบออกความคิดเห็น เช่นเดียวกับผมก็เป็นคนช่างถาม ชอบออกความเห็นเช่นกัน แม้จะมีความเห็นตรงกันบ้างไม่ตรงกันบ้างก็ไม่เป็นไร”

นายอานันท์กล่าวในตอนท้ายด้วยน้ำเสียงอาลัยว่า “ผมกับคุณหน่อยรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก คนรุ่นเราก็เหลือกันไม่มากแล้วผมกับคุณหน่อยคุยกันได้ทุกเรื่อง ตอนนี้คุณหน่อยไม่อยู่กับเราแล้วผมเสียเพื่อนที่เข้าใจและคุยรู้เรื่อง หรือบางครั้งแม้จะไม่ได้คุยกันเราก็เข้าใจกัน”

เช่นเดียวกับ อ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์ กัลยาณมิตรผู้ใกล้ชิดอีกท่านหนึ่งเล่าว่า “ท่านทั้งหลายที่รู้จักหม่อมราชวงศ์สายสวัสดี สวัสดิวัตน ซึ่งมีบิดาคือ ท่านชิ้นหรือหม่อมเจ้าศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท สวัสดิวัตน เป็นสมาชิกของราชสกุล ขณะที่ฝ่ายมารดา หม่อมเสมอ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา ก็เป็นสมาชิกของขุนนางผู้ใหญ่สกุล สิงหเสนี ทั้งนี้ หม่อมเจ้าศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท เป็นพระเชษฐาต่างพระมารดาของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี และในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ท่านเป็นอดีตหัวหน้าขบวนการเสรีไทยสายอังกฤษ มีจุดมุ่งหมายเพื่อต่อต้านกองทัพญี่ปุ่นที่เข้ามารุกรานประเทศไทย โดยมีนายปรีดี พนมยงค์ ผู้สำเร็จราชการในเวลานั้นเป็นหัวหน้าขบวนการเสรีไทยในประเทศ ต่อมาท่านชิ้นเป็นผู้มีบทบาทสำคัญทำให้ไทยไม่ต้องกลายเป็นประเทศแพ้สงครามหลังสงคราม

“คุณหญิงหน่อยจึงมีราชสกุลที่มีคูณูปการกับประเทศอันยิ่งใหญ่ทั้งสองฝ่าย และตัวคุณหญิงหน่อยก็ถือเป็นราชนิกุลที่เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนไม่ถือเรื่องชาติตระกูล เป็นคนสุภาพเรียบร้อย เป็นคนที่รักความยุติธรรม เป็นคนที่อ่อนนอกแข็งใน”

อ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์

อ.สุลักษณ์ บอกว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 นายป๋วย อึ๊งภากรณ์ ต้องหนีจากเมืองไทยไปต่างประเทศ นายป๋วยได้ชักชวนคุณหญิงหน่อยและพวกเรา 2-3 คนตั้งมูลนิธิมิตรไทย เพื่อเผยแพร่ข้อเท็จจริงที่กำลังเกิดขึ้นในเมืองไทยไปยังต่างประเทศ อีกทั้งได้ช่วยเหลือเกื้อกูลเด็กเยาวชนที่หนีไปอยู่ในป่าแม้จะช่วยเงินทองไม่ได้เพราะเกรงว่าจะไปซื้ออาวุธ แต่ก็ช่วยสนับสนุนอาหารและยา ช่วยส่งหมอเท้าเปล่าเข้าไปในพื้นที่ที่เยาวชนหนีไปอยู่ในป่า

นอกจากนี้คุณหญิงหน่อยยังเป็นผู้ประพฤติปฏิบัติธรรมแต่ไม่ได้เพื่อหลีกหนีโลก แต่คุณหญิงหน่อยพาเพื่อนเข้าหาธรรมมะเพื่อให้เห็น
ว่าโครงสร้างทางสังคมที่ไม่เป็นยุติธรรม

“สิ่งหนึ่งที่คุณหญิงหน่อยทำ คือการชักชวนพี่น้องยกที่ดิน 34 ไร่กว่า ให้มูลนิธิเสฐียรโกเศศ นาคะประทีป มาสร้างเป็นอาศรมวงศ์สนิท ที่ จ.นครนายก ตอนนี้อายุได้ 40 ปีแล้ว โดยเป็นสถานที่สำหรับนักกิจกรรมทางสังคมให้ไปพักฟื้นทางร่างกายและจิตใจ เป็นเหมือนวัดที่ไม่มีพระ หรือเป็นสถานที่ของผู้แสวงหาสันติ ซึ่งคุณหญิงหน่อยอุดหนุนจุนเจือมาตลอดเพื่อให้ต่อสู้ในทางสันติประชาธรรม”

อ.สุลักษณ์ บอกตอนท้ายว่า “ผมมีเรื่องพูดไม่มากและคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญที่หากคุณหญิงหน่อยรับรู้เธอต้องภูมิใจเพราะพวกเราระลึกถึงเธอไม่ใช่ในฐานะที่เธอเป็นคนที่น่ารัก ไม่ใช่เพราะว่าเธออุดหนุนศิลปะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลงไทย เพลงฝรั่ง แต่ว่าสิ่งสำคัญคือเธอมีความงามในการแสวงหาความจริงและพิสูจน์ความจริงและเดินตามเส้นทางของความจริง เอวังด้วยประการฉะนี้”


ฮิวโก้ จุลจักร จักรพงษ์

อนึ่งหม่อมราชวงศ์สายสวัสดี สวัสดิวัตน หรือคุณหญิงหน่อย เป็น ธิดาในหม่อมเจ้าศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท สวัสดิวัตน (ท่านชิ้น) และ หม่อมเสมอ สวัสดิวัตน ณ อยุธยาโดยชีวิตในวัยเยาว์ หม่อมราชวงศ์สายสวัสดีจบการศึกษาจากโรงเรียนราชินี เมื่ออายุ 14 ปีจึงเดินทางไปเรียนในระดับมัธยมต่อ ณ ประเทศอังกฤษ จนจบสำเร็จการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยด้าน food science ภายหลังตัดสินใจใช้ชีวิตคู่และสมรสกับ ‘คุณแกรี ทอมสัน’และใช้ชีวิตอยู่ประเทศอังกฤษ

คุณหญิงหน่อยเคยดำรงตำแหน่งนายกสามัคคีสมาคม ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยให้ความช่วยเหลือแนะนำให้คำปรึกษาแก่ประชาชนชาวไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเรียนนักศึกษานับเป็นสมาคมแห่งแรกของคนไทยในสหราชอาณาจักรและเป็นสมาคมคนไทยในต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดอีกด้วย