ThaiPublica > สู่อาเซียน > ฟิลิปปินส์ ประชากรวัยเด็กกำลังบูม โรงเรียนมัธยมแห่งเดียวรับนักเรียนกว่า 18,000 คน

ฟิลิปปินส์ ประชากรวัยเด็กกำลังบูม โรงเรียนมัธยมแห่งเดียวรับนักเรียนกว่า 18,000 คน

16 ธันวาคม 2022


ที่มาภาพ: https://www.bulatlat.com/2020/06/06/filipino-parents-face-challenges-over-proposed-blended-learning/

ที่โรงเรียนมัธยมแห่งชาติ Batasan Hills( Batasan Hills National High School) ในฟิลิปปินส์ พื้นที่ทุกตารางนิ้วถูกใช้อย่างเต็มที่ทุกซอกทุกมุม ห้องเรียนถูกแบ่งครึ่งเพื่อเปิดทางให้กับนักเรียนกลุ่มพิเศษ และมีจุดเข้าและทางเดินที่กำหนดไว้เพื่อรองรับฝูงนักเรียนระหว่างคาบวิชา แม้แต่พื้นที่ใต้บันไดก็ไม่เสียเปล่า ใต้เพดานลาดเอียง ไม่มีแสงธรรมชาติ ครูจับกลุ่มกันเพื่อวางแผนการเรียนการสอนและจัดการประชุมคณาจารย์

อย่างไรก็ตาม ยังไม่เพียงพอที่จะรองรับนักเรียนจำนวน 18,638 คนได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นโรงเรียนจึงหันไปใช้การเรียนการสอนแบบสองรอบแทน โดยนักเรียนบางคนเริ่มเรียนเวลา 6.00 น. ในขณะที่คนอื่นๆ เรียนตั้งแต่บ่ายจนถึง 19.20 น. และมีชั้นเรียนอื่น ๆ ที่มีการเรียนการสอนทางออนไลน์

“จากข้อมูล 5 ปีของเรา โรงเรียนนี้มีนักเรียนลงทะเบียนเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 600 คนต่อปี ดังนั้นจึงหมายถึงมี ห้องเรียนเพิ่มขึ้นในปีหน้า และครูเพิ่มอีกคน” ดร.เอลาดิโอ เอช. เอสโคลาโน ครูใหญ่ กล่าว

การจัดการด้านโลจิสติกส์ ตั้งแต่การใช้โรงอาหารไปจนถึงที่จอดรถสำหรับพนักงาน เหมือนกับการเล่นกลตลอดเวลา

เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนกระทรวงศึกษาธิการอนุมัติให้ 52 โรงเรียนจัดการเรียนการสอนแบบผสมต่อไปได้ เนื่องจากมีโรงเรียน 24 แห่งประสบปัญหาความแออัดยัดเยียดของห้องเรียน จากจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้นและการขาดแคลนห้องเรียน แม้ก่อนหน้านั้นมีคำสั่งให้กลับมาเรียนแบบที่เด็กต้องเข้าชั้นเรียนตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน

โรงเรียนมัธยมแห่งชาติ Batasan Hills มีนักเรียนอย่างน้อย 18,638 คนซึ่งต้องใช้ห้องเรียนถึง 107 ห้อง หมายความว่าแต่ละห้องเรียนต้องรองรับเด็กถึง 90 คน ต่อหนึ่งรอบ สำหรับการเรียนที่แบ่งออกเป็น 2 รอบ

ครูใหญ่กล่าวว่า โรงเรียนต้องหันไปใช้การเรียนการสอนแบบสองรอบและผสมผสาน โดยนักเรียนจะมาโรงเรียนเป็นเวลา 3 วันและต้องอยู่ที่บ้านพร้อมสื่อการเรียนรู้เป็นเวลา 2 วัน

โรงเรียนตั้งอยู่ในเกซอนซิตีเป็นหนึ่งในโรงเรียนที่ใหญ่ที่สุดในเขตเมโทรมะนิลา แต่การประสบปัญหาด้านเพื่อพื้นที่และทรัพยากรในลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นทั่วเมืองหลวงของประเทศ ในขณะที่ครูพยายามดูแลประชากรเยาวชนของประเทศ

นักเรียนของโรงเรียนมัธยมแห่งชาติ Batasan Hills เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในปี 2556 โรงเรียนมีเด็กเข้าเรียนทั้งหมด กว่า 12,000 คน ฝายบริหารของโรงเรียนไม่มีทางเลือกอื่น จึงต้องเอาฉากมากั้นเพื่อแบ่งห้องเรียนออกเป็น 2 ห้องเพื่อรองรับเด็กให้ได้ในอัตราครูกับเด็ก 1:55 ตามที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด

ดิเอโก อามิด ครูใหญ่ในขณะนั้นกล่าวว่า โรงเรียนมีห้องเรียนทั้งหมด 80 ห้องและทุกห้องใช้รองรับการเรียนที่แบ่งออกเป็นสองรอบ เช้ากับบ่าย

กว่า 30% ของประชากรฟิลิปปินส์หรือ 33.4 ล้านคนมีอายุต่ำกว่า 15 ปี ฟิลิปปินส์เป็น 1 ใน 8 ประเทศที่คาดการณ์ว่าจะมีสัดส่วนครึ่งหนึ่งของการเติบโตของประชากรทั่วโลกภายในปี 2593

ประชากรเยาวชนจำนวนมากของประเทศในบางพื้นที่สร้างแรงกดดันอย่างมากต่อการให้บริการ แต่นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า แต่ก็เป็นโอกาสไปในตัว ข้อมูลประชากรของฟิลิปปินส์กำลังเปลี่ยนไป อัตราการเจริญพันธุ์ลดลงตลอดหลายทศวรรษเนื่องจากการเข้าถึงบริการวางแผนครอบครัวมากขึ้น และลดลงอย่างรวดเร็วที่สุดเป็นประวัติการณ์ระหว่างปี 2560 ถึง 2565 อาจเป็นเพราะความไม่แน่นอนที่เกิดจากโรคระบาด ขณะนี้อัตราการเจริญพันธุ์หรือค่าเฉลี่ยการมีบุตรของผู้หญิงหนึ่งคนน้อยกว่า 2 คน ประชากรเยาวชนของประเทศจะเข้าสู่วัยทำงานในไม่ช้า ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว

ประชากรโลกทะลุ 8 พันล้านคนในเดือนตุลาคม แต่ภาพรวมทั่วทั้งเอเชียแตกต่างกันไป ในขณะที่บางประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เป็นสังคมผู้สูงอายุ แต่ประเทศอื่นๆ ที่มีประชากรอายุน้อย เช่น ฟิลิปปินส์ ปากีสถาน และอินเดีย หวังว่าจะได้รับประโยชน์เมื่อคนหนุ่มสาวออกจากโรงเรียนและเริ่มต้นชีวิตการทำงาน

ในอดีต ประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออก เช่น เกาหลีใต้ สามารถยกระดับประชากรจำนวนมากให้หลุดพ้นจากความยากจนได้ ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร บิยอร์น แอนเดอร์สสัน ผู้อำนวยการระดับภูมิภาคของกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าว

“มีการประเมินว่าประมาณ 1 ใน 3 ของการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวในบริบทของเอเชียตะวันออกอาจมาจากโครงสร้างทางประชากร ซึ่งเกิดขึ้นได้เมื่อประชากรมีสัดส่วนของประชากรวัยทำงานเพิ่มมากขึ้น เด็กหรือผู้สูงอายุมีจำนวนน้อยลง”
แอนเดอร์สสันกล่าว

“ครัวเรือนมีจำนวนเด็กที่ต้องดูแลน้อยลง ผู้หาเลี้ยงครอบครัวสามารถลงทุนทรัพยากรของตนในเด็กแต่ละคนได้มากขึ้น ครัวเรือนยังประหยัดเงินได้มากขึ้นด้วย” แอนเดอร์สสัน กล่าวและว่า ซึ่งสามารถเร่งการสร้างงาน นำไปสู่การเพิ่มผลผลิต และกระตุ้นเศรษฐกิจ

หลายประเทศในเอเชียหวังที่จะใช้ประโยชน์จากประชากรวัยหนุ่มสาวจำนวนมาก แต่ประโยชน์ที่ว่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ ในอินเดีย ซึ่งจะแซงหน้าจีนในฐานะประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกในปีหน้า อัตราการเจริญพันธุ์ลดลงในระดับประเทศแต่ยังคงแตกต่างกันไปทั่วประเทศ และการว่างงานของเยาวชนอยู่ในระดับสูงที่ 23% ปากีสถานมีคนหนุ่มสาวมากกว่าที่เคยเป็นมา แต่การวิจัยของสหประชาชาติชี้ให้เห็นว่าประชากรทุกกลุ่ม ไม่เฉพาะเยาวชน กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ยากที่จะได้รับประโยชน์จากโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนแปลง การที่เศรษฐกิจเติบโตไม่มากพอ โดยจีดีพีโตต่ำกว่า 7-8% ต่อปี ซึ่งเป็นระดับที่จำเป็นต่อการสร้างงาน เป็นอีกอุปสรรคหนึ่งในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมา

ที่มาภาพ:https://www.theguardian.com/world/2022/nov/17/the-school-with-18000-students-educating-the-philippines-booming-population

ฟิลิปปินส์มีสถานะที่ดีเมื่อมองในแง่ประชากร ศาสตราจารย์ไมเคิล เดล มุนโด แห่งมหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์กล่าว แต่ประชากรเพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ

“เรายังคงต้องลงทุนในการพัฒนาทุนมนุษย์ สุขภาพ และการศึกษา และที่สำคัญกว่านั้นคือผลิตภาพทางเศรษฐกิจและสวัสดิการทางเศรษฐกิจของประชากรวัยทำงานของเรา เนื่องจากประโยชน์จากโครงสร้างประชากรไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของประชากรเท่านั้น ต้องมีการแทรกแซงบางด้าน”

“ถ้าปล่อยไปตามปกติ เราอาจพลาด [โอกาส] ไปจริงๆ”

การศึกษาล่าสุดโดย เดล มุนโด พบว่ามีเพียง 3 ภูมิภาคจากทั้งหมด 17 ภูมิภาคของประเทศเท่านั้นที่พร้อมได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร ระดับการเจริญพันธุ์ที่ไม่อยากเห็นสูงขึ้นในบางพื้นที่และการมีส่วนร่วมของผู้หญิงในกำลังแรงงานอยู่ในระดับต่ำ การว่างงานสูงในหมู่คนหนุ่มสาวและผลการศึกษาที่ต่ำกว่าก็เป็นอุปสรรค

ตัวแทนครูกล่าวว่า หากโรงเรียนต้องการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนและเตรียมความพร้อมสำหรับการทำงาน ก็ต้องมีการลงทุนที่มากขึ้น ทั้งในอาคารซึ่งได้รับความเสียหายจากพายุในบางพื้นที่ และในบุคลากร

“เราไม่สามารถให้การศึกษาที่มีคุณภาพได้ หากเราสอนในสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ไม่สะดวกสบาย” รูบี เบอร์นาร์โด เลขาธิการ Alliance of Concerned Teacher กล่าว “โรงเรียนบางแห่งในเขตเมืองหลวงของประเทศ รับนักเรียนมากถึง 80 คนขึ้นไปต่อชั้นเรียน และมีการเรียน 3 รอบ โดยเฉพาะในโรงเรียนมัธยมปลายเนื่องจากการขาดแคลนครูและห้องเรียน”

การขาดแคลนทั้งสองด้านเป็นปัญหาที่มีมาอย่างยาวนาน แต่ปัญหาเหล่านี้ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นหลังจากเกิดโรคระบาด ซึ่งส่งผลให้นักเรียนต้องเรียนออนไลน์เป็นเวลาสองปี การเรียนที่หยุดชะงักทำให้เกิดช่องว่างในความรู้ของนักเรียน Bernardo ผู้สอนภาษาฟิลิปปินส์กล่าว “มันเป็นเรื่องเศร้าที่ต้องบอกว่าแม้จะเป็นภาษาของเราเอง แต่นักเรียนของเราก็ไม่สามารถเข้าใจและอ่านออกได้ เราเห็นผลกระทบต่อการเรียนรู้ของนักเรียนในช่วงสองปีที่ผ่านมา” นอกจากนี้ ยังมีนักเรียนที่ย้ายจากโรงเรียนเอกชนไปโรงเรียนรัฐบาลเพิ่มขึ้นเนื่องจากโรคระบาด ซึ่งเพิ่มแรงกดดันต่อระบบ

นักเรียนที่ Batasan Hills National High School กล่าวว่า พวกเขามีความสุขที่ได้กลับมาเรียนอีกครั้ง การเรียนออนไลน์เป็นเรื่องเครียดและบางคนพบว่าไม่มีสมาธิกับการเรียนที่บ้าน “บางครั้งการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของเราก็ไม่เสถียร เพื่อนบ้านของเราค่อนข้างส่งเสียงดัง” ไมเคิล โจเอล ที ทาลาเคย์ ซึ่งเรียนอยู่เกรด 9 กล่าว “มันยากมากที่จะสื่อสารกับเพื่อนร่วมชั้น เพราะบางครั้งก็ไม่เห็นหน้าพวกเขา แต่ได้ยินเสียงของพวกเขา

ที่มาภาพ: https://www.theguardian.com/world/2022/nov/17/the-school-with-18000-students-educating-the-philippines-booming-population

แต่การไปโรงเรียนตอนตี 5 เพื่อเริ่มเรียนตอน 6 โมงเช้าเป็นเรื่องที่ลำบาก โดยเฉพาะเมื่อมีภาระงานหนัก

ไมเคิล เป็นนักเรียนในโครงการ Science Technology and Engineering ของโรงเรียน ซึ่งเป็นโครงการพิเศษ มีเป้าหมายเพื่อเตรียมคนหนุ่มสาวให้พร้อมสำหรับการศึกษาระดับสูงหรือการทำงานที่เน้นด้านวิทยาศาสตร์ แต่ละปีนักเรียนต้องทำโครงการวิจัย

โครงการของไมเคิล วิจัยว่าสารสกัดจากต้นระย่อมน้อยและสารสกัดจากใบสะเดาสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้หรือไม่ ด้วยการทดสอบผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายกับหนู

ดร.เอสโคลาโน ต้องการขยายงานภาคปฏิบัติให้กว้างออกไปอีก “การเรียนรู้คือการลงมือทำ การเรียนรู้คือประสบการณ์” นอกจากนี้ยังสามารถช่วยลดช่องว่างระหว่างการศึกษาและอุตสาหกรรม ช่วยให้นักเรียนมีงานทำ แต่การสอนดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายสูง ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษและที่สำคัญคือพื้นที่

โรงเรียนได้ส่งคำขอสร้างอาคารเพิ่มเติม แต่ใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะเสร็จ

สำหรับตอนนี้ โรงเรียนพึ่งพาการสนับสนุนอย่างมากจากชุมชนท้องถิ่น ดร.เอสโคลาโน กล่าว ตั้งแต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในท้องถิ่นที่ช่วยดูแลความปลอดภัยของนักเรียนในชั่วโมงเร่งด่วน ไปจนถึงผู้ปกครองที่บริจาคอุปกรณ์ นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์ของพนักงานเป็นอย่างมาก

“ที่นี่ไม่มีผู้ชมหรือคนที่เอาแต่ยืนดู” ดร.เอสโคลาโน กล่าว “ทุกคนต้องทำงานของตัวเอง รปภ. คนงานด้านสาธารณูปโภค เพราะเรามีงานใหญ่ที่นี่”