ThaiPublica > Native Ad > “โออาร์” เปิดระบบ EV Station PluZ หนึ่งใน ‘EV Ecosystem’ รองรับผู้ใช้รถไฟฟ้าในราคาที่เป็นมิตร

“โออาร์” เปิดระบบ EV Station PluZ หนึ่งใน ‘EV Ecosystem’ รองรับผู้ใช้รถไฟฟ้าในราคาที่เป็นมิตร

14 ธันวาคม 2022


แนวโน้มการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย กำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากวิกฤติสภาพภูมิอากาศและสงคราม ทำให้ราคาพลังงานแพงขึ้น จำเป็นต้องประหยัดพลังงาน ทำให้ “บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)” หรือ “โออาร์” ยังคงมุ่งมั่นในการให้บริการด้านพลังงานทางเลือก อย่างสถานีชาร์จไฟฟ้า EV Station PluZ (อีวี สเตชั่น พลัซ) เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค
EV Station PluZ เป็นหนึ่งใน Ecosystem ที่ โออาร์ มุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจสถานีบริการ PTT Station โดยปัจจุบัน EV Station PluZ มีอยู่ทั่วประเทศกว่า 123 แห่ง และตั้งเป้าขยายให้ถึง 450 แห่ง ภายในปี 2565 และตั้งเป้าขยายให้ครบ 7,000 แห่ง ภายในปี 2070 หรือพ.ศ.2573

ในแง่ธุรกิจ โออาร์ วางแผนขยาย EV Station PluZ ทั้งในสถานีบริการ PTT Station และในพื้นที่ Commercial Area เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงแรม รีสอร์ต ร้านอาหาร และอาคารสำนักงาน รวมถึงสถานีบริการ LPG และ NGV บนถนนสายหลัก ถนนสายรอง อำเภอขนาดใหญ่ และเชื่อมสู่เส้นทางแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ พร้อมทั้งหาพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อขยาย EV Station PluZ ในพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่มีศักยภาพ

EV Station PluZ ตั้งอยู่ในจุดที่ครอบคลุมเส้นทางหลักของการเดินทางในประเทศ โดยในสถานีอัดประจุไฟฟ้ามีเครื่องชาร์จ 2 รูปแบบ คือ

  • Normal Charge กำลังไฟ 7.4 กิโลวัตต์ เหมาะสมสำหรับรถยนต์ประเภท PHEV (Plug-In Hybrid Electric Vehicle) หรือ BEV ที่มีการใช้งานในพื้นที่ที่เป็น Destination หรือ Workplace มีการจอดนาน ใช้เวลาในการชาร์จขั้นต่ำ 3 ชม. ขึ้นอยู่กับรูปแบบเครื่องยนต์ของรถ และความจุของแบตเตอร์รี
  • Quick Charge เหมาะสำหรับรถยนต์ประเภท BEV หรือไฟฟ้า 100% ใช้ระยะเวลาน้อยในการชาร์จ ประกอบด้วย หัวชาร์จ 3 รูปแบบ คือ AC Type 2, CHAdeMO และ CCS COMBO2 เหมาะสำหรับช่วงเวลาที่เร่งด่วน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในเมือง และการเดินทางท่องเที่ยว โดยจะใช้เวลาชาร์จประมาณ 30 นาที เพื่อเติมความจุได้เต็ม 80% ของความจุแบตเตอร์รี
  • โดยผู้ขับรถ EV จะต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “EV Station PluZ” เพื่อให้สามารถใช้บริการได้อย่างครอบคลุมด้วยแอปพลิเคชันเดียว ตั้งแต่ การจองเพื่อเข้าชาร์จ เริ่ม-หยุดการชาร์จ การชำระเงิน และการตรวจสอบประวัติการใช้งานและเพื่อให้ผู้ใช้รถ EV สามารถวางแผนการเดินทางและชาร์จไฟได้แน่นอน ลูกค้าสามารถเลือกจองเวลาชาร์จก่อนล่วงหน้า และเข้าชาร์จภายใน 10 นาทีแรก ของรอบเวลาที่จอง โดยมีอัตราค่าบริการที่ 20 บาทต่อช่วงเวลา ช่วยให้ผู้ใช้รถ EV ไม่เสียเที่ยวในการเดินทาง ทั้งนี้ระบบจะคืนค่าจองเป็นส่วนลดค่าชาร์จในรอบการจองนั้น

    แต่หากผู้จองเข้าใช้บริการเกิน 10 นาทีแรกของรอบเวลาที่จอง ระบบจะปลดล๊อครายการจองในรอบเวลานั้น และมอบสิทธิให้กับลูกค้า Walk in แทน และระบบจะคืนค่าจองเป็นส่วนลดค่าชาร์จในรอบการชาร์จนั้น อย่างไรก็ตาม จุดชาร์จก็เปิดให้ลูกค้าที่ Walk in เข้ามาได้เหมือนกัน

    ส่วนอัตราค่าบริการการชาร์จจะคำนวณตามปริมาณการชาร์จไฟจริง อ้างอิงตามค่าไฟที่เรียกเก็บจากทางการไฟฟ้า โดยกำหนดราคาตามช่วงเวลาการใช้งาน (TOU) ได้แก่ ช่วง Peak ราคา 7.5 บาทต่อหน่วย สำหรับ วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 09.00 – 22.00 น. และช่วง Off-Peak 4.5 บาทต่อหน่วย สำหรับ วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 22.00 – 09.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดราชการ (ไม่รวมวันหยุดชดเชย)

    นอกจากนี้ โออาร์ ยังพัฒนา Ultra EV ผลิตภัณฑ์ Home Charger ที่เริ่มจัดจำหน่ายครั้งแรกในปี 2562 และได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันได้เริ่มจำหน่ายรุ่นที่ 2 โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มผู้พักอาศัยตามหมู่บ้าน คอนโดมิเนียม และ พื้นที่อาคารสำนักงาน ในรูปแบบ Normal Charge (Wall Box) ราคารวมค่าติดตั้งและภาษีทั้งสิ้น 49,900 บาท ไม่รวมค่าเดินระบบท่อสาย

    ทั้งหมดนี้คือ EV Ecosystem ผลิตภัณฑ์และบริการที่โออาร์พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ตามความต้องการของผู้บริโภค และยังตอบรับกับกระแสความยั่งยืน ดังนั้น ผลิตภัณฑ์และบริการ จึงครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำในราคาที่เป็นมิตร เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงพลังงานไฟฟ้าอย่างยั่งยืน