ของขวัญปีใหม่ 2566 คลังจัดเต็มให้ “ช้อปดีมีคืน-ลดภาษีที่ดิน” แบงก์รัฐตบเท้าร่วมนโยบาย ธอส.มอบ cashback 1,000 บาท – ออมสินแจก 500 บาท สำหรับลูกค้าสินเชื่อที่มีประวัติผ่อนชำระดี ด้าน ธ.ก.ส.มอบสินเชื่อฟื้นฟู ส่วน กยศ.ขยายเวลาลดหย่อยหนี้ถึง 30 มิ.ย.2566
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบและรับทราบการดำเนินมาตรการเกี่ยวกับ ‘ภาษีและค่าธรรมเนียม’ รวมถึงโครงการของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2566 ให้แก่ประชาชน ดังนี้
ช็อปดีมีคืน 2566 ลดหย่อนภาษีไม่เกิน 4 หมื่นบาท
มาตรการ “ช้อปดีมีคืน ปี 2566” เพื่อรักษาการบริโภคในประเทศ สนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษี รวมถึงส่งเสริมการผลิตสินค้าท้องถิ่นและการอ่าน อีกทั้งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษีและการใช้ระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ โดยกำหนดให้ผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล หักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการเท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการสำหรับการซื้อสินค้าหรือการรับบริการในราชอาณาจักรให้กับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงค่าซื้อหนังสือและค่าบริการหนังสือที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต และค่าซื้อสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 40,000 บาท โดยแบ่งเป็น
- ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ จำนวนไม่เกิน 30,000 บาท จะต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบกระดาษหรือใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ของกรมสรรพากร
- ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ จำนวนไม่เกิน 10,000 บาท จากส่วนที่เกิน (1) จะต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Tax Invoice , e-Receipt ของกรมสรรพากรเท่านั้น
ทั้งนี้ ไม่รวมถึงค่าสินค้าและบริการบางชนิด ได้แก่ ค่าซื้อสุรา เบียร์ และไวน์ ค่าซื้อยาสูบ ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ ค่าซื้อหนังสือพิมพ์และนิตยสาร ค่าบริการจัดนำเที่ยว ค่าที่พักในโรงแรม ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต และค่าบริการสำหรับบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการระยะยาว (ซึ่งเริ่มต้นก่อนวันที่ 1 มกราคม 2566 หรือสิ้นสุดหลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 แม้จะจ่ายค่าบริการในช่วงระยะเวลามาตรการ) และค่าเบี้ยประกันวินาศภัย
ลดภาษีที่ดิน – ค่าธรรมเนียมโอน
มาตรการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2566 (มาตรการลดภาษีที่ดินฯ) เพื่อลดภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้แก่ผู้เสียภาษี
นายอาคม กล่าวต่อว่า สืบเนื่องจากการสิ้นสุดระยะเวลาการยกเว้นภาษีให้แก่เจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาและใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรมและการบรรเทาภาษีกรณีผู้เสียภาษีที่ดินฯ ที่มีภาระภาษีที่ดินฯ มากกว่าภาษีโรงเรือนและที่ดินและภาษีบำรุงท้องที่ ในปี 2562 ในช่วง 3 ปีแรกของการจัดเก็บภาษีที่ดินฯ (2563-2565) และการเพิ่มขึ้นของราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างในปี 2566 ซึ่งใช้เป็นฐานในการคำนวณภาษีที่ดินฯ โดยมาตรการดังกล่าวจะให้ลดภาษีในอัตราร้อยละ 15 ของจำนวนภาษีที่คำนวณได้สำหรับการจัดเก็บภาษีที่ดินฯ ของปีภาษี พ.ศ. 2566
ตัวอย่างเช่น กรณีมีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมูลค่า 1 ล้านบาท ใช้ประกอบกิจการ เช่น ร้านขายของชำ ร้านตัดผม ร้านขายอาหารตามสั่ง โรงงาน อาคารสำนักงาน เป็นต้น ปกติจะมีภาระภาษี 3,000 บาท แต่จะได้รับการลดภาษีจากมาตรการลดภาษีที่ดินฯ 450 บาท คงเหลือภาษีที่ต้องชำระ 2,550 บาท และตัวอย่างกรณีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับลดภาษีในอัตราร้อยละ 50 ของจำนวนภาษีที่คำนวณได้อยู่แล้ว เช่น โรงผลิตไฟฟ้า เขื่อน เป็นต้น จะได้รับการลดภาษีในอัตราร้อยละ 15 ของจำนวนภาษีที่คำนวณได้หลังจากได้รับการลดภาษีร้อยละ 50 แล้ว
อย่างไรก็ดี ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับการลดภาษีร้อยละ 90 แล้ว เช่น สวนสัตว์ สวนสนุก สถานที่เล่นกีฬา เป็นต้น จะไม่ได้รับการลดภาษีตามมาตรการลดภาษีที่ดินฯ เพิ่มเติมอีก
มาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัยปี 2566 (มาตรการลดค่าธรรมเนียมฯ) เพื่อสนับสนุนและลดภาระให้แก่ประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ส่งเสริมการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างความมั่นคงในทางเศรษฐกิจ รวมถึงช่วยรักษาระดับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอสังหาริมทรัพย์ และสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
นายอาคม ให้ข้อมูลว่า มาตรการดังกล่าวจะให้ลดค่าจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์จากร้อยละ 2 เหลือร้อยละ 1 และค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิมร้อยละ 1 เหลือร้อยละ 0.01 (เฉพาะการโอนและจดจำนองในคราวเดียวกัน) สำหรับการซื้อขายที่อยู่อาศัย ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว อาคารพาณิชย์ และห้องชุด (ทั้งบ้านมือ 1 และมือ 2) เฉพาะที่มีราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 3 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 3 ล้านบาท ต่อสัญญา โดยไม่รวมถึงกรณีการขายเฉพาะส่วน ตั้งแต่วันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566
ลดภาษีน้ำมันเครื่องบินถึงกลางปีหน้า
มาตรการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่นที่นำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับอากาศยานภายในประเทศ เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวและบริการให้มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องตามนโยบายของรัฐบาล และบรรเทาผลกระทบการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและสายการบินภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยลดอัตราภาษีตามปริมาณของน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่นที่ใช้บินในประเทศ จากลิตรละ 4.726 บาท เหลือลิตรละ 0.20 บาท โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566
เว้นค่าธรรมเนียม “สุรา-ยาสูบ-ไพ่” ถึงสิ้นปี’66
มาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมการอนุญาตขายสุรา ยาสูบ และไพ่ ตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการลดภาระของผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตขายสุรา ยาสูบ โดยให้สิทธิยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตขายสุรา ยาสูบ และไพ่ ประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2 สำหรับผู้ประกอบการที่ประสงค์จะประกอบกิจการต่อเนื่อง ณ สถานประกอบการเดิม ประเภทใบอนุญาตเดิม ที่ยื่นคำขอระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566
ธอส.มอบ Cashback 1,000 บาท สำหรับลูกค้าผ่อนชำระดี 48 เดือน
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. สนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการช่วยกระตุ้นกำลังซื้อเพื่อให้ประชาชนมีเงินจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 และร่วมสร้างวินัยทางการเงินผ่านการผ่อนชำระเงินงวดสินเชื่อบ้าน แและในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” จึงได้จัดทำ “โครงการของขวัญปีใหม่ 2566” สำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้านของ ธอส.ที่มีวินัยในการผ่อนชำระย้อนหลังรวม 48 เดือน (นับถึงงวดเดือนพฤศจิกายน 2565) โดยมีการชำระเงินงวดสม่ำเสมอและไม่น้อยกว่าเงินงวดที่ธนาคารกำหนดทุกเดือน ให้ได้รับเงิน Cashback จำนวน 1,000 บาท ซึ่งแบ่งลูกค้าออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
- กลุ่มที่ 1: สำหรับลูกค้ารายย่อยที่มีสถานะบัญชีปกติ มีวงเงินกู้ทุกบัญชีภายใต้หลักประกันเดียวกันไม่เกิน 2 ล้านบาท มีวินัยในการผ่อนชำระย้อนหลังรวม 48 เดือน (นับถึงงวดเดือนพฤศจิกายน 2565) สม่ำเสมอและไม่น้อยกว่าเงินงวดที่ธนาคารกำหนดทุกเดือน
- กลุ่มที่ 2 : สำหรับลูกค้าที่เคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ที่ปัจจุบันมีสถานะบัญชีปกติ และมีประวัติการผ่อนชำระหนี้ย้อนหลัง 6 เดือน (นับถึงงวดเดือนพฤศจิกายน 2565) สม่ำเสมอและไม่น้อยกว่าเงินงวดที่ธนาคารกำหนดทุกเดือน
ออมสินจัด 2 มาตรการ “วินัยดี มีเงิน” – “มีออม มีลุ้น”
ส่วนธนาคารออมสินได้จัดมาตรการของขวัญปีใหม่ 2566 ประกอบด้วย 2 โครงการ ดังนี้
- “โครงการวินัยดี มีเงิน” มอบเงินรายละ 500 บาท ให้แก่ลูกค้าสินเชื่อที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 200,000 บาท มีประวัติชำระหนี้ดีติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 ปี ไม่เคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้/ไม่มีประวัติการตัดหนี้สูญ และมีสถานะหนี้ปกติ (ค้างชำระไม่เกิน 30 วัน) โดยธนาคารจะส่งข้อความให้กดรับสิทธิ์ผ่านแอป MyMo ภายในวันที่ 15 มกราคม 2566
- “โครงการมีออม มีลุ้น” กับสลากออมสิน 2 ปี เพิ่มรางวัลพิเศษ จำนวน 24 รางวัล รางวัลละ 1 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 24 ล้านบาท ให้ผู้ฝากสลากออมสินพิเศษ 2 ปี ทั้งแบบใบสลากหรือสลากดิจิทัล ในวันที่ 2 ธ.ค.65 – 31 ม.ค.66 ทำการออกรางวัล 2 ครั้ง ในวันที่ 30 ธ.ค.65 จำนวน 12 รางวัล และ วันที่ 1 ก.พ.66 อีก 12 รางวัล โดยสลากแบบใบ หน่วยละ 100 บาท ฝากได้ตั้งแต่ 1 หน่วยขึ้นไป สำหรับบุคคลธรรมดาอายุ 7 ปี ขึ้นไป และนิติบุคคลทุกประเภท สลากดิจิทัล (ฝากผ่านแอป MyMo) หน่วยละ 100 บาท ฝากขั้นต่ำ 10 หน่วย รับฝากเฉพาะบุคคลธรรมดาอายุ 15 ปี ขึ้นไป ทั้ง 2 แบบนี้ ไม่จำกัดวงเงินรับฝากสูงสุด ทั้งนี้ ในช่วง 2 ปีที่ฝาก จะได้รับสิทธิ์ลุ้นถูกเลขสลากทุกเดือน ทำการออกรางวัลทุกวันที่ 1 ของเดือน รวม 24 ครั้ง มีเงินรางวัลที่ 1 จำนวน 10 ล้านบาท และเมื่อฝากครบ 2 ปี จะได้รับเงินต้นคืนทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ย กำหนดดอกเบี้ย 0.15 บาท/หน่วย
ธ.ก.ส.ลดดอกเบี้ยแก้หนี้ครัวเรือน
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มีของขวัญปีใหม่ 4 โครงการ ได้แก่
- “โครงการชำระดีมีคืน ปีบัญชี 2565” สำหรับลูกค้าเกษตรกรที่เป็นหนี้ปกติ ณ ปีบัญชี 2565 จำนวน 3 ล้านราย โดยเมื่อชำระดอกเบี้ยตามสัญญาที่มีสิทธิ์จะได้รับการคืนดอกเบี้ยเงินกู้เข้าบัญชีเงินฝากตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ ธ.ก.ส. กำหนด ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 และสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566 หรือเมื่อครบกำหนดวงเงินที่ ธ.ก.ส. กำหนด
- “โครงการลดดอกเบี้ยแก้หนี้ภาคครัวเรือน ปีบัญชี 2565” สำหรับลูกค้าสินเชื่อที่มีสถานะเป็นหนี้ NPL หรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ทั้งนี้ การลดอัตราดอกเบี้ยให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ ธ.ก.ส. กำหนด ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566
- “มาตรการเสริมสภาพคล่องและฟื้นฟูลูกค้า ปีบัญชี 2565″ โดยลูกค้าเกษตรกรที่เป็นหนี้ปกติ ณ ปีบัญชี 2565 สามารถขอยื่นกู้สินเชื่อเพิ่มเติมได้
- “มาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจ” (สินเชื่อเพื่อการปรับตัว) ปีบัญชี 2565 โดยลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่สามารถยื่นขอสินเชื่อ โดยได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ทั้งนี้ ต้องยื่นขอภายในวันที่ 9 เมษายน 2566
ธพว.แจกบัตรกำนัล-บัตรเติมน้ำมัน
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) จำนวน 3 โครงการ ได้แก่
- “โครงการผ่อนดี มีคืน” ช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยของ ธพว. ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 500,000 บาท และมีประวัติการชำระดี โดยได้รับบัตรกำนัล ฟรีมูลค่าสุงสุด 300 บาท ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566
- “มาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs” สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 50 ล้านบาท โดยได้รับบัตรเติมน้ำมันมูลค่าสูงสุด 5,000 บาท เมื่อได้รับอนุมัติสินเชื่อ ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566
- ส่งเสริมช่องทางการตลาดให้แก่ผู้ประกอบ SMEs โดยลูกค้าสามารถซื้อสินค้าราคาพิเศษ จาก SME D Market (ส่วนลดสูงสุดร้อยละ 20 มากกว่า 300 รายการสินค้า) ภายในเดือนธันวาคม 2565
EXIM คืนดอกเบี้ย 2% ลูกค้าที่ปรับปรุงโครงสร้างหนี้
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือ EXIM Bank จำนวน 2 มาตรการ ได้แก่
- “มาตรการจ่าย All in 1” โดยลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ที่เข้าร่วม 1 ใน 3 มาตรการ ดังนี้ 1) มาตรการสินเชื่อ EXIM Personal Biz 2) มาตรการสินเชื่อเพื่อผู้ส่งออกป้ายแดง และ 3) มาตรการสินเชื่อ EXIM Shield Financing จะได้รับอัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกินร้อยละ 6.60 ต่อปีระยะเวลา 6 เดือน
- “มาตรการรับเงินคืน” ร้อยละ 2 ของดอกเบี้ยจ่ายสะสม โดยลูกค้าที่เข้าร่วมมาตรการปรับปรุงโครงสร้างหนี้อย่างยั่งยืนของ EXIM BANK จะได้รับเงินคืนร้อยละ 2 ของดอกเบี้ยจ่ายสะสม เป็นระยะเวลา 2 เดือน
บสย.เว้นค่าธรรมเนียมค้ำหนี้
บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จำนวน 2 มาตรการ ได้แก่
- “มาตรการยกเว้นค่าดำเนินการค้ำประกันสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการ SMEs” โดยผู้ประกอบการ SMEs ที่ส่งคำขอให้ บสย. ค้ำประกันภายใต้โครงการดังนี้ 1) Bilateral Phase 7 (BI7) 2) Portfolio Guarantee Scheme (PGS) ระยะพิเศษ Soft Loan Extra และ 3) Thai Credit Guarantee Corporation Risk Based Pricing (TCG RBP) จะได้รับการยกเว้นค่าดำเนินการค้ำประกันสินเชื่อ ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2566
- “มาตรการสำหรับลูกหนี้ บสย.” สำหรับลูกหนี้ที่ประนอมหนี้กับ บสย. แล้ว และค้างชำระไม่เกิน 3 งวด จะได้รับการลดค่างวด ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 30 มีนาคม 2566
ก.ล.ต.เดินสายให้ความรู้ทางการเงิน
โครงการสนับสนุนตลาดทุนและเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนลดภาระแก่ผู้ประกอบธุรกิจเพื่อความสุขที่มั่นคงของทุกภาคส่วน โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ดำเนินโครงการสนับสนุนตลาดทุนและเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโต อย่างยั่งยืน รวมทั้งลดภาระแก่ผู้ประกอบธุรกิจ รวมถึงโครงการที่จะช่วยลดภาระต้นทุน ที่เกินความจำเป็นให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจในสภาพแวดล้อมการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น และเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปัจจุบัน เพื่อให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน ดังนี้
- การยกเว้นค่าธรรมเนียมเพื่อส่งเสริมการจัดตั้งและบริหารจัดการกองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน (SRI Fund) โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมการจัดตั้งกองทุนรวม 100,000 บาทต่อกองทุนรวม และยกเว้นค่าธรรมเนียมการแก้ไขโครงการจัดการกองทุนรวม ไม่เกิน 5,000 บาท ต่อกองทุนรวม โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566
- การยกเว้นค่าธรรมเนียมการประกอบธุรกิจสำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่แจ้งยุติการประกอบธุรกิจ 50,000 บาทต่อราย โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566
- การยกเว้นค่าธรรมเนียมเพื่อสนับสนุนการออกตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืน โดยจะขยายเวลาเพิ่มเติม 3 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2568
- การยกเว้นค่าธรรมเนียมเพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้ทวนสอบ/ผู้ให้การรับรองข้อมูลก๊าซเรือนกระจก ตามที่ชำระจริงแต่ไม่เกิน 50,000 บาท ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่อง มีผลจนถึงสิ้นปี 2566 และอยู่ระหว่างเตรียมขยายระยะเวลาต่อไปอีก 3 ปี
นอกจากนี้ สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ความสำคัญและมีการดำเนินการเพื่อส่งเสริมความรู้ด้านการเงิน (Financial Literacy) ไม่ว่าจะเป็น
- การเดินสายติดอาวุธคนไทย ระวังภัยกลโกง โดยจัดให้ปี 2566 เป็นปีแห่งการรณรงค์ให้ความรู้ผู้ลงทุนในการระวังภัยกลโกงการลงทุน โดยเริ่มจากการจัดทำศูนย์รวมความรู้ภัยกลโกงการลงทุนบนเว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ภายใต้ชื่อโครงการ “SCAM CENTER รู้ทันภัยกลโกง” (จะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป)
- โครงการหลักสูตรเรียนรู้ออนไลน์ e-learning “ก.ล.ต. Crypto Academy” (www.seccryptoacademy.com) เพื่อเป็นแหล่งความรู้เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงความเสี่ยงและข้อควรระวังที่เกี่ยวข้องแบบครบวงจร โดยจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป
- โครงการเครื่องมือเปรียบเทียบกองทุนรวม “SEC Fund Check” เพื่อให้ประชาชนมีเครื่องมือที่สามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนรวมได้อย่างครบถ้วนเป็นกลางพร้อมคุณสมบัติที่ง่ายต่อการใช้งาน สามารถเปรียบเทียบกองทุนในหลายมิติ โดยจะเริ่มให้บริการในเดือนพฤศจิกายน 2565
- โครงการ “แนวทางวางแผนการเงินและการจัดการเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพหลังเกษียณ” โดยจะจัดทำเป็นการเสวนาผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับแนวทางวางแผนการเงินและการจัดการเงินทุนสำรองเลี้ยงชีพหลังเกษียณ รวมถึงเรื่องภาษีที่เกี่ยวข้อง โดยมีระยะเวลาดำเนินการช่วงประมาณปลายเดือนพฤศจิกายนถึงช่วงครึ่งแรกของเดือนธันวาคม 2565
ธนารักษ์เปิดให้ ปชช.ชมพิพิธพัณฑ์ฟรี
โครงการเที่ยวปีใหม่สุขใจไปกับพิพิธภัณฑ์ธนารักษ์ โดยกรมธนารักษ์ เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์ พิพิธบางลำพู พิพิธภัณฑ์ธนารักษ์ จังหวัดเชียงใหม่ พิพิธภัณฑ์ธนารักษ์ จังหวัดสงขลา และพิพิธภัณฑ์ธนารักษ์ จังหวัดขอนแก่น โดยไม่เก็บค่าเข้าชม ระหว่างวันที่ 3 ถึงวันที่ 15 มกราคม 2566
คปภ.ไฟเขียวประกันภัย 10 บาท
โครงการกรมธรรม์ประกันภัยรายย่อย (ไมโครอินชัวรันส์) สำหรับเทศกาลปีใหม่ 2566 โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ได้จัดทำกรมธรรม์ประกันภัยรายย่อย (ไมโครอินชัวรันส์) สำหรับเทศกาลปีใหม่ 2566 เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนใช้ระบบประกันภัยเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยง และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนได้อย่างทั่วถึงโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ด้วยเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสมกับความเสี่ยงของผู้เอาประกันภัย ในการเดินทางท่องเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสำคัญที่มีวันหยุดต่อเนื่อง เช่น เทศกาลปีใหม่ สงกรานต์ เป็นต้น จึงได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ให้การคุ้มครองในระยะเวลาสั้น 30 วัน ด้วยเบี้ยประกันภัย 10 บาท
กยศ.ขยายเวลาลดหย่อนหนี้ถึงกลางปีหน้า
มาตรการช่วยเหลือผู้กู้ยืมเงินเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2566 โดยกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้จัดเตรียมมาตรการของขวัญปีใหม่ปี 2566 ให้กับผู้กู้ยืมเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ดังนี้
- ขยายระยะเวลามาตรการลดหย่อนหนี้ จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 เป็นสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2566 รวมระยะเวลา 6 เดือน ดังนี้ (1) ลดเงินเพิ่มร้อยละ 100 กรณีผู้กู้ยืมเงินทุกกลุ่มชำระหนี้ปิดบัญชีในคราวเดียว (2) ลดเงินเพิ่มร้อยละ 80 กรณีผู้กู้ยืมเงินกลุ่มก่อนฟ้องคดีมาชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ (ไม่ค้างชำระ) (3) ลดหย่อนเงินต้น ร้อยละ 5 กรณีชำระหนี้ปิดบัญชีในคราวเดียว สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกองทุนและมิได้เป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้หรือเคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้ (4) ลดอัตราดอกเบี้ย จากเดิมร้อยละ 1 ต่อปี เป็นร้อยละ 0.01 ต่อปี ให้กับผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกองทุนและมิได้เป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้หรือเคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้ และ (5) ลดเบี้ยปรับเหลือร้อยละ 0.5 ต่อปี กรณีผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีและไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด
- ชะลอการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้กู้ยืมเงินและผู้ค้ำประกันที่ผิดนัดชำระหนี้ ประจำปี 2563 ปี 2564 และปี 2565 จากเดิมภายในวันที่ 31 มีนาคม 2566 เป็นภายในวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 เว้นแต่คดีที่จะขาดอายุความ
- ชะลอการบังคับคดีสำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ผิดนัดไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษาไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 เว้นแต่คดีที่ใกล้สิ้นสุดระยะเวลาการบังคับคดี
- งดการขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้กู้ยืมเงิน และผู้ค้ำประกันที่กองทุนได้ยึดทรัพย์ไว้ จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 โดยผู้กู้ยืมเงินและผู้ค้ำประกันจะต้องร่วมกับกองทุนของดการขายทอดตลาดต่อกรมบังคับคดี
- มาตรการลดอัตราดอกเบี้ยให้ผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกองทุนกลุ่มก่อนฟ้องคดี ที่มีสถานะปัจจุบันไม่เป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้ โดยลดอัตราดอกเบี้ยจากเดิมร้อยละ 1 ต่อปี เป็นร้อยละ 0.5 ต่อปี เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566
ไอแบงก์ลดเบี้ยปรับช่วยลูกค้าปลดหนี้
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด (ธอท.) จัดทำมาตรการของขวัญปีใหม่ปี 2566 ให้กับลูกค้ารายย่อยที่ไม่มีหลักประกัน/ผู้ค้ำประกัน เพื่อช่วยเหลือลูกค้าและผู้ค้ำประกันให้ปลดหนี้ได้ ดังนี้
- ลดเบี้ยปรับ ร้อยละ 100 ชำระเพียงเงินต้น กรณีปิดบัญชี
- ลดเบี้ยปรับ ร้อยละ 100 ชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย 3 เดือน กรณีผ่อนชำระไม่เกิน 6 เดือน
- พิจารณาผ่อนปรนตามความสามารถของลูกค้า/ผู้ค้ำประกัน กรณีผ่อนชำระเกิน 6 เดือน
ยาสูบฯจัด “ชม ชิม ช็อป”
โครงการ “ชม ชิม ช็อป ยาสูบเชียงราย” โดยการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) จัดทำโครงการ “ชม ชิม ช็อป ยาสูบเชียงราย” เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนชาวเชียงรายได้มีพื้นที่ค้าขายสินค้า/พืชผลทางการเกษตร และกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงราย ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 29 มกราคม 2566 ณ สวนตุงและโคมนครเชียงราย จังหวัดเชียงราย