ThaiPublica > เกาะกระแส > ของขวัญปีใหม่ 2566 คลังให้ “ช้อปดีมีคืน-ลดภาษีที่ดิน” แบงก์รัฐมอบ “Cashback – บัตรกำนัล”

ของขวัญปีใหม่ 2566 คลังให้ “ช้อปดีมีคืน-ลดภาษีที่ดิน” แบงก์รัฐมอบ “Cashback – บัตรกำนัล”

20 ธันวาคม 2022


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ของขวัญปีใหม่ 2566 คลังจัดเต็มให้ “ช้อปดีมีคืน-ลดภาษีที่ดิน” แบงก์รัฐตบเท้าร่วมนโยบาย ธอส.มอบ cashback 1,000 บาท – ออมสินแจก 500 บาท สำหรับลูกค้าสินเชื่อที่มีประวัติผ่อนชำระดี ด้าน ธ.ก.ส.มอบสินเชื่อฟื้นฟู ส่วน กยศ.ขยายเวลาลดหย่อยหนี้ถึง 30 มิ.ย.2566

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบและรับทราบการดำเนินมาตรการเกี่ยวกับ ‘ภาษีและค่าธรรมเนียม’ รวมถึงโครงการของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2566 ให้แก่ประชาชน ดังนี้

ช็อปดีมีคืน 2566 ลดหย่อนภาษีไม่เกิน 4 หมื่นบาท

มาตรการ “ช้อปดีมีคืน ปี 2566” เพื่อรักษาการบริโภคในประเทศ สนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษี รวมถึงส่งเสริมการผลิตสินค้าท้องถิ่นและการอ่าน อีกทั้งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษีและการใช้ระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ โดยกำหนดให้ผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล หักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการเท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการสำหรับการซื้อสินค้าหรือการรับบริการในราชอาณาจักรให้กับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงค่าซื้อหนังสือและค่าบริการหนังสือที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต และค่าซื้อสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 40,000 บาท โดยแบ่งเป็น

  1. ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ จำนวนไม่เกิน 30,000 บาท จะต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบกระดาษหรือใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ของกรมสรรพากร
  2. ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ จำนวนไม่เกิน 10,000 บาท จากส่วนที่เกิน (1) จะต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Tax Invoice , e-Receipt ของกรมสรรพากรเท่านั้น

ทั้งนี้ ไม่รวมถึงค่าสินค้าและบริการบางชนิด ได้แก่ ค่าซื้อสุรา เบียร์ และไวน์ ค่าซื้อยาสูบ ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ ค่าซื้อหนังสือพิมพ์และนิตยสาร ค่าบริการจัดนำเที่ยว ค่าที่พักในโรงแรม ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต และค่าบริการสำหรับบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการระยะยาว (ซึ่งเริ่มต้นก่อนวันที่ 1 มกราคม 2566 หรือสิ้นสุดหลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 แม้จะจ่ายค่าบริการในช่วงระยะเวลามาตรการ) และค่าเบี้ยประกันวินาศภัย

ลดภาษีที่ดิน – ค่าธรรมเนียมโอน

มาตรการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2566 (มาตรการลดภาษีที่ดินฯ) เพื่อลดภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้แก่ผู้เสียภาษี

นายอาคม กล่าวต่อว่า สืบเนื่องจากการสิ้นสุดระยะเวลาการยกเว้นภาษีให้แก่เจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาและใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรมและการบรรเทาภาษีกรณีผู้เสียภาษีที่ดินฯ ที่มีภาระภาษีที่ดินฯ มากกว่าภาษีโรงเรือนและที่ดินและภาษีบำรุงท้องที่ ในปี 2562 ในช่วง 3 ปีแรกของการจัดเก็บภาษีที่ดินฯ (2563-2565) และการเพิ่มขึ้นของราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างในปี 2566 ซึ่งใช้เป็นฐานในการคำนวณภาษีที่ดินฯ โดยมาตรการดังกล่าวจะให้ลดภาษีในอัตราร้อยละ 15 ของจำนวนภาษีที่คำนวณได้สำหรับการจัดเก็บภาษีที่ดินฯ ของปีภาษี พ.ศ. 2566

ตัวอย่างเช่น กรณีมีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมูลค่า 1 ล้านบาท ใช้ประกอบกิจการ เช่น ร้านขายของชำ ร้านตัดผม ร้านขายอาหารตามสั่ง โรงงาน อาคารสำนักงาน เป็นต้น ปกติจะมีภาระภาษี 3,000 บาท แต่จะได้รับการลดภาษีจากมาตรการลดภาษีที่ดินฯ 450 บาท คงเหลือภาษีที่ต้องชำระ 2,550 บาท และตัวอย่างกรณีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับลดภาษีในอัตราร้อยละ 50 ของจำนวนภาษีที่คำนวณได้อยู่แล้ว เช่น โรงผลิตไฟฟ้า เขื่อน เป็นต้น จะได้รับการลดภาษีในอัตราร้อยละ 15 ของจำนวนภาษีที่คำนวณได้หลังจากได้รับการลดภาษีร้อยละ 50 แล้ว

อย่างไรก็ดี ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับการลดภาษีร้อยละ 90 แล้ว เช่น สวนสัตว์ สวนสนุก สถานที่เล่นกีฬา เป็นต้น จะไม่ได้รับการลดภาษีตามมาตรการลดภาษีที่ดินฯ เพิ่มเติมอีก

มาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัยปี 2566 (มาตรการลดค่าธรรมเนียมฯ) เพื่อสนับสนุนและลดภาระให้แก่ประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ส่งเสริมการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างความมั่นคงในทางเศรษฐกิจ รวมถึงช่วยรักษาระดับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอสังหาริมทรัพย์ และสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

นายอาคม ให้ข้อมูลว่า มาตรการดังกล่าวจะให้ลดค่าจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์จากร้อยละ 2 เหลือร้อยละ 1 และค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิมร้อยละ 1 เหลือร้อยละ 0.01 (เฉพาะการโอนและจดจำนองในคราวเดียวกัน) สำหรับการซื้อขายที่อยู่อาศัย ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว อาคารพาณิชย์ และห้องชุด (ทั้งบ้านมือ 1 และมือ 2) เฉพาะที่มีราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 3 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 3 ล้านบาท ต่อสัญญา โดยไม่รวมถึงกรณีการขายเฉพาะส่วน ตั้งแต่วันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566

ลดภาษีน้ำมันเครื่องบินถึงกลางปีหน้า

มาตรการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่นที่นำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับอากาศยานภายในประเทศ เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวและบริการให้มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องตามนโยบายของรัฐบาล และบรรเทาผลกระทบการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและสายการบินภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยลดอัตราภาษีตามปริมาณของน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่นที่ใช้บินในประเทศ จากลิตรละ 4.726 บาท เหลือลิตรละ 0.20 บาท โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566

เว้นค่าธรรมเนียม “สุรา-ยาสูบ-ไพ่” ถึงสิ้นปี’66

มาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมการอนุญาตขายสุรา ยาสูบ และไพ่ ตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการลดภาระของผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตขายสุรา ยาสูบ โดยให้สิทธิยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตขายสุรา ยาสูบ และไพ่ ประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2 สำหรับผู้ประกอบการที่ประสงค์จะประกอบกิจการต่อเนื่อง ณ สถานประกอบการเดิม ประเภทใบอนุญาตเดิม ที่ยื่นคำขอระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566

ธอส.มอบ Cashback 1,000 บาท สำหรับลูกค้าผ่อนชำระดี 48 เดือน

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. สนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการช่วยกระตุ้นกำลังซื้อเพื่อให้ประชาชนมีเงินจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 และร่วมสร้างวินัยทางการเงินผ่านการผ่อนชำระเงินงวดสินเชื่อบ้าน แและในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” จึงได้จัดทำ “โครงการของขวัญปีใหม่ 2566” สำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้านของ ธอส.ที่มีวินัยในการผ่อนชำระย้อนหลังรวม 48 เดือน (นับถึงงวดเดือนพฤศจิกายน 2565) โดยมีการชำระเงินงวดสม่ำเสมอและไม่น้อยกว่าเงินงวดที่ธนาคารกำหนดทุกเดือน ให้ได้รับเงิน Cashback จำนวน 1,000 บาท ซึ่งแบ่งลูกค้าออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้

  1. กลุ่มที่ 1: สำหรับลูกค้ารายย่อยที่มีสถานะบัญชีปกติ มีวงเงินกู้ทุกบัญชีภายใต้หลักประกันเดียวกันไม่เกิน 2 ล้านบาท มีวินัยในการผ่อนชำระย้อนหลังรวม 48 เดือน (นับถึงงวดเดือนพฤศจิกายน 2565) สม่ำเสมอและไม่น้อยกว่าเงินงวดที่ธนาคารกำหนดทุกเดือน
  2. กลุ่มที่ 2 :  สำหรับลูกค้าที่เคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ที่ปัจจุบันมีสถานะบัญชีปกติ และมีประวัติการผ่อนชำระหนี้ย้อนหลัง 6 เดือน (นับถึงงวดเดือนพฤศจิกายน 2565) สม่ำเสมอและไม่น้อยกว่าเงินงวดที่ธนาคารกำหนดทุกเดือน

ออมสินจัด 2 มาตรการ “วินัยดี มีเงิน” – “มีออม มีลุ้น”

ส่วนธนาคารออมสินได้จัดมาตรการของขวัญปีใหม่ 2566 ประกอบด้วย 2 โครงการ ดังนี้

  1. “โครงการวินัยดี มีเงิน” มอบเงินรายละ 500 บาท ให้แก่ลูกค้าสินเชื่อที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 200,000 บาท มีประวัติชำระหนี้ดีติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 ปี ไม่เคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้/ไม่มีประวัติการตัดหนี้สูญ และมีสถานะหนี้ปกติ (ค้างชำระไม่เกิน 30 วัน) โดยธนาคารจะส่งข้อความให้กดรับสิทธิ์ผ่านแอป MyMo ภายในวันที่ 15 มกราคม 2566
  2. “โครงการมีออม มีลุ้น” กับสลากออมสิน 2 ปี เพิ่มรางวัลพิเศษ จำนวน 24 รางวัล รางวัลละ 1 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 24 ล้านบาท ให้ผู้ฝากสลากออมสินพิเศษ 2 ปี ทั้งแบบใบสลากหรือสลากดิจิทัล ในวันที่ 2 ธ.ค.65 – 31 ม.ค.66 ทำการออกรางวัล 2 ครั้ง ในวันที่ 30 ธ.ค.65 จำนวน 12 รางวัล และ วันที่ 1 ก.พ.66 อีก 12 รางวัล โดยสลากแบบใบ หน่วยละ 100 บาท ฝากได้ตั้งแต่ 1 หน่วยขึ้นไป สำหรับบุคคลธรรมดาอายุ 7 ปี ขึ้นไป และนิติบุคคลทุกประเภท สลากดิจิทัล (ฝากผ่านแอป MyMo) หน่วยละ 100 บาท ฝากขั้นต่ำ 10 หน่วย รับฝากเฉพาะบุคคลธรรมดาอายุ 15 ปี ขึ้นไป ทั้ง 2 แบบนี้ ไม่จำกัดวงเงินรับฝากสูงสุด ทั้งนี้ ในช่วง 2 ปีที่ฝาก จะได้รับสิทธิ์ลุ้นถูกเลขสลากทุกเดือน ทำการออกรางวัลทุกวันที่ 1 ของเดือน รวม 24 ครั้ง มีเงินรางวัลที่ 1 จำนวน 10 ล้านบาท และเมื่อฝากครบ 2 ปี จะได้รับเงินต้นคืนทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ย กำหนดดอกเบี้ย 0.15 บาท/หน่วย

ธ.ก.ส.ลดดอกเบี้ยแก้หนี้ครัวเรือน

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มีของขวัญปีใหม่ 4 โครงการ ได้แก่

  1. “โครงการชำระดีมีคืน ปีบัญชี 2565” สำหรับลูกค้าเกษตรกรที่เป็นหนี้ปกติ ณ ปีบัญชี 2565 จำนวน 3 ล้านราย โดยเมื่อชำระดอกเบี้ยตามสัญญาที่มีสิทธิ์จะได้รับการคืนดอกเบี้ยเงินกู้เข้าบัญชีเงินฝากตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ ธ.ก.ส. กำหนด ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 และสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566 หรือเมื่อครบกำหนดวงเงินที่ ธ.ก.ส. กำหนด
  2. “โครงการลดดอกเบี้ยแก้หนี้ภาคครัวเรือน ปีบัญชี 2565” สำหรับลูกค้าสินเชื่อที่มีสถานะเป็นหนี้ NPL หรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ทั้งนี้ การลดอัตราดอกเบี้ยให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ ธ.ก.ส. กำหนด ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566
  3. “มาตรการเสริมสภาพคล่องและฟื้นฟูลูกค้า ปีบัญชี 2565″ โดยลูกค้าเกษตรกรที่เป็นหนี้ปกติ ณ ปีบัญชี 2565 สามารถขอยื่นกู้สินเชื่อเพิ่มเติมได้
  4. “มาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจ” (สินเชื่อเพื่อการปรับตัว) ปีบัญชี 2565 โดยลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่สามารถยื่นขอสินเชื่อ โดยได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ทั้งนี้ ต้องยื่นขอภายในวันที่ 9 เมษายน 2566

ธพว.แจกบัตรกำนัล-บัตรเติมน้ำมัน

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) จำนวน 3 โครงการ ได้แก่

  1. “โครงการผ่อนดี มีคืน” ช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยของ ธพว. ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 500,000 บาท และมีประวัติการชำระดี โดยได้รับบัตรกำนัล ฟรีมูลค่าสุงสุด 300 บาท ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566
  2. “มาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs” สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 50 ล้านบาท โดยได้รับบัตรเติมน้ำมันมูลค่าสูงสุด 5,000 บาท เมื่อได้รับอนุมัติสินเชื่อ ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566
  3. ส่งเสริมช่องทางการตลาดให้แก่ผู้ประกอบ SMEs โดยลูกค้าสามารถซื้อสินค้าราคาพิเศษ จาก SME D Market (ส่วนลดสูงสุดร้อยละ 20 มากกว่า 300 รายการสินค้า) ภายในเดือนธันวาคม 2565

EXIM คืนดอกเบี้ย 2% ลูกค้าที่ปรับปรุงโครงสร้างหนี้

ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือ EXIM Bank จำนวน 2 มาตรการ ได้แก่

  1. “มาตรการจ่าย All in 1” โดยลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ที่เข้าร่วม 1 ใน 3 มาตรการ ดังนี้ 1) มาตรการสินเชื่อ EXIM Personal Biz 2) มาตรการสินเชื่อเพื่อผู้ส่งออกป้ายแดง และ 3) มาตรการสินเชื่อ EXIM Shield Financing จะได้รับอัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกินร้อยละ 6.60 ต่อปีระยะเวลา 6 เดือน
  2. “มาตรการรับเงินคืน” ร้อยละ 2 ของดอกเบี้ยจ่ายสะสม โดยลูกค้าที่เข้าร่วมมาตรการปรับปรุงโครงสร้างหนี้อย่างยั่งยืนของ EXIM BANK จะได้รับเงินคืนร้อยละ 2 ของดอกเบี้ยจ่ายสะสม เป็นระยะเวลา 2 เดือน

บสย.เว้นค่าธรรมเนียมค้ำหนี้

บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จำนวน 2 มาตรการ ได้แก่

  1. “มาตรการยกเว้นค่าดำเนินการค้ำประกันสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการ SMEs” โดยผู้ประกอบการ SMEs ที่ส่งคำขอให้ บสย. ค้ำประกันภายใต้โครงการดังนี้ 1) Bilateral Phase 7 (BI7) 2) Portfolio Guarantee Scheme (PGS) ระยะพิเศษ Soft Loan Extra และ 3) Thai Credit Guarantee Corporation Risk Based Pricing (TCG RBP) จะได้รับการยกเว้นค่าดำเนินการค้ำประกันสินเชื่อ ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2566
  2. “มาตรการสำหรับลูกหนี้ บสย.” สำหรับลูกหนี้ที่ประนอมหนี้กับ บสย. แล้ว และค้างชำระไม่เกิน 3 งวด จะได้รับการลดค่างวด ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 30 มีนาคม 2566

ก.ล.ต.เดินสายให้ความรู้ทางการเงิน

โครงการสนับสนุนตลาดทุนและเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนลดภาระแก่ผู้ประกอบธุรกิจเพื่อความสุขที่มั่นคงของทุกภาคส่วน โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ดำเนินโครงการสนับสนุนตลาดทุนและเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโต อย่างยั่งยืน รวมทั้งลดภาระแก่ผู้ประกอบธุรกิจ รวมถึงโครงการที่จะช่วยลดภาระต้นทุน ที่เกินความจำเป็นให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจในสภาพแวดล้อมการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น และเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปัจจุบัน เพื่อให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน ดังนี้

  1. การยกเว้นค่าธรรมเนียมเพื่อส่งเสริมการจัดตั้งและบริหารจัดการกองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน (SRI Fund) โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมการจัดตั้งกองทุนรวม 100,000 บาทต่อกองทุนรวม และยกเว้นค่าธรรมเนียมการแก้ไขโครงการจัดการกองทุนรวม ไม่เกิน 5,000 บาท ต่อกองทุนรวม โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566
  2. การยกเว้นค่าธรรมเนียมการประกอบธุรกิจสำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่แจ้งยุติการประกอบธุรกิจ 50,000 บาทต่อราย โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566
  3. การยกเว้นค่าธรรมเนียมเพื่อสนับสนุนการออกตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืน โดยจะขยายเวลาเพิ่มเติม 3 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2568
  4. การยกเว้นค่าธรรมเนียมเพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้ทวนสอบ/ผู้ให้การรับรองข้อมูลก๊าซเรือนกระจก ตามที่ชำระจริงแต่ไม่เกิน 50,000 บาท ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่อง มีผลจนถึงสิ้นปี 2566 และอยู่ระหว่างเตรียมขยายระยะเวลาต่อไปอีก 3 ปี

นอกจากนี้ สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ความสำคัญและมีการดำเนินการเพื่อส่งเสริมความรู้ด้านการเงิน (Financial Literacy) ไม่ว่าจะเป็น

  1. การเดินสายติดอาวุธคนไทย ระวังภัยกลโกง โดยจัดให้ปี 2566 เป็นปีแห่งการรณรงค์ให้ความรู้ผู้ลงทุนในการระวังภัยกลโกงการลงทุน โดยเริ่มจากการจัดทำศูนย์รวมความรู้ภัยกลโกงการลงทุนบนเว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ภายใต้ชื่อโครงการ “SCAM CENTER รู้ทันภัยกลโกง” (จะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป)
  2. โครงการหลักสูตรเรียนรู้ออนไลน์ e-learning “ก.ล.ต. Crypto Academy” (www.seccryptoacademy.com) เพื่อเป็นแหล่งความรู้เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงความเสี่ยงและข้อควรระวังที่เกี่ยวข้องแบบครบวงจร โดยจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป
  3. โครงการเครื่องมือเปรียบเทียบกองทุนรวม “SEC Fund Check” เพื่อให้ประชาชนมีเครื่องมือที่สามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนรวมได้อย่างครบถ้วนเป็นกลางพร้อมคุณสมบัติที่ง่ายต่อการใช้งาน สามารถเปรียบเทียบกองทุนในหลายมิติ โดยจะเริ่มให้บริการในเดือนพฤศจิกายน 2565
  4. โครงการ “แนวทางวางแผนการเงินและการจัดการเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพหลังเกษียณ” โดยจะจัดทำเป็นการเสวนาผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับแนวทางวางแผนการเงินและการจัดการเงินทุนสำรองเลี้ยงชีพหลังเกษียณ รวมถึงเรื่องภาษีที่เกี่ยวข้อง โดยมีระยะเวลาดำเนินการช่วงประมาณปลายเดือนพฤศจิกายนถึงช่วงครึ่งแรกของเดือนธันวาคม 2565

ธนารักษ์เปิดให้ ปชช.ชมพิพิธพัณฑ์ฟรี

โครงการเที่ยวปีใหม่สุขใจไปกับพิพิธภัณฑ์ธนารักษ์ โดยกรมธนารักษ์ เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์ พิพิธบางลำพู พิพิธภัณฑ์ธนารักษ์ จังหวัดเชียงใหม่ พิพิธภัณฑ์ธนารักษ์ จังหวัดสงขลา และพิพิธภัณฑ์ธนารักษ์ จังหวัดขอนแก่น โดยไม่เก็บค่าเข้าชม ระหว่างวันที่ 3 ถึงวันที่ 15 มกราคม 2566

คปภ.ไฟเขียวประกันภัย 10 บาท

โครงการกรมธรรม์ประกันภัยรายย่อย (ไมโครอินชัวรันส์) สำหรับเทศกาลปีใหม่ 2566 โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ได้จัดทำกรมธรรม์ประกันภัยรายย่อย (ไมโครอินชัวรันส์) สำหรับเทศกาลปีใหม่ 2566 เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนใช้ระบบประกันภัยเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยง และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนได้อย่างทั่วถึงโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ด้วยเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสมกับความเสี่ยงของผู้เอาประกันภัย ในการเดินทางท่องเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสำคัญที่มีวันหยุดต่อเนื่อง เช่น เทศกาลปีใหม่ สงกรานต์ เป็นต้น จึงได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ให้การคุ้มครองในระยะเวลาสั้น 30 วัน ด้วยเบี้ยประกันภัย 10 บาท

กยศ.ขยายเวลาลดหย่อนหนี้ถึงกลางปีหน้า

มาตรการช่วยเหลือผู้กู้ยืมเงินเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2566 โดยกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้จัดเตรียมมาตรการของขวัญปีใหม่ปี 2566 ให้กับผู้กู้ยืมเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ดังนี้

  1. ขยายระยะเวลามาตรการลดหย่อนหนี้ จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 เป็นสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2566 รวมระยะเวลา 6 เดือน ดังนี้ (1) ลดเงินเพิ่มร้อยละ 100 กรณีผู้กู้ยืมเงินทุกกลุ่มชำระหนี้ปิดบัญชีในคราวเดียว (2) ลดเงินเพิ่มร้อยละ 80 กรณีผู้กู้ยืมเงินกลุ่มก่อนฟ้องคดีมาชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ (ไม่ค้างชำระ) (3) ลดหย่อนเงินต้น ร้อยละ 5 กรณีชำระหนี้ปิดบัญชีในคราวเดียว สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกองทุนและมิได้เป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้หรือเคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้ (4) ลดอัตราดอกเบี้ย จากเดิมร้อยละ 1 ต่อปี เป็นร้อยละ 0.01 ต่อปี ให้กับผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกองทุนและมิได้เป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้หรือเคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้ และ (5) ลดเบี้ยปรับเหลือร้อยละ 0.5 ต่อปี กรณีผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีและไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด
  2. ชะลอการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้กู้ยืมเงินและผู้ค้ำประกันที่ผิดนัดชำระหนี้ ประจำปี 2563 ปี 2564 และปี 2565 จากเดิมภายในวันที่ 31 มีนาคม 2566 เป็นภายในวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 เว้นแต่คดีที่จะขาดอายุความ
  3. ชะลอการบังคับคดีสำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ผิดนัดไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษาไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 เว้นแต่คดีที่ใกล้สิ้นสุดระยะเวลาการบังคับคดี
  4. งดการขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้กู้ยืมเงิน และผู้ค้ำประกันที่กองทุนได้ยึดทรัพย์ไว้ จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 โดยผู้กู้ยืมเงินและผู้ค้ำประกันจะต้องร่วมกับกองทุนของดการขายทอดตลาดต่อกรมบังคับคดี
  5. มาตรการลดอัตราดอกเบี้ยให้ผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกองทุนกลุ่มก่อนฟ้องคดี ที่มีสถานะปัจจุบันไม่เป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้ โดยลดอัตราดอกเบี้ยจากเดิมร้อยละ 1 ต่อปี เป็นร้อยละ 0.5 ต่อปี เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566

ไอแบงก์ลดเบี้ยปรับช่วยลูกค้าปลดหนี้

ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด (ธอท.) จัดทำมาตรการของขวัญปีใหม่ปี 2566 ให้กับลูกค้ารายย่อยที่ไม่มีหลักประกัน/ผู้ค้ำประกัน เพื่อช่วยเหลือลูกค้าและผู้ค้ำประกันให้ปลดหนี้ได้ ดังนี้

  1. ลดเบี้ยปรับ ร้อยละ 100 ชำระเพียงเงินต้น กรณีปิดบัญชี
  2. ลดเบี้ยปรับ ร้อยละ 100 ชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย 3 เดือน กรณีผ่อนชำระไม่เกิน 6 เดือน
  3. พิจารณาผ่อนปรนตามความสามารถของลูกค้า/ผู้ค้ำประกัน กรณีผ่อนชำระเกิน 6 เดือน

ยาสูบฯจัด “ชม ชิม ช็อป”

โครงการ “ชม ชิม ช็อป ยาสูบเชียงราย” โดยการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) จัดทำโครงการ “ชม ชิม ช็อป ยาสูบเชียงราย” เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนชาวเชียงรายได้มีพื้นที่ค้าขายสินค้า/พืชผลทางการเกษตร และกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงราย ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 29 มกราคม 2566 ณ สวนตุงและโคมนครเชียงราย จังหวัดเชียงราย