ThaiPublica > Sustainability > Global Issues > IFC เปิดตัวแพลตฟอร์มจัดหาเงินทุนรับมือวิกฤติอาหารโลก

IFC เปิดตัวแพลตฟอร์มจัดหาเงินทุนรับมือวิกฤติอาหารโลก

5 ตุลาคม 2022


บรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ หรือ IFC เปิดตัวแพลตฟอร์มการจัดหาเงินทุนเพื่อตอบสนองต่อวิกฤตการณ์อาหารโลกและสร้างระบบอาหารที่ยืดหยุ่น

IFC ได้เปิดตัวแหล่งเงินทุนใหม่มูลค่า 6 พันล้านดอลลาร์เพื่อเสริมสร้างความสามารถของภาคเอกชนในการรับมือกับวิกฤตการณ์และช่วยสนับสนุนการผลิตอาหารเพื่อตอบสนองต่อความไม่มั่นคงด้านอาหารที่เพิ่มขึ้น

สงครามในยูเครนและการฟื้นตัวอย่างไม่เท่าเทียมกันทั่วโลกจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ได้เพิ่มความหิวโหยและภาวะทุพโภชนาการที่เพิ่มสูงขึ้น จากที่ย่ำแย่ลงอยู่แล้วจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและเหตุการณ์สภาพอากาศที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับเก็บเกี่ยวและผลผลิตลดลง

การจัดหาเงินทุน ที่จะจัดหาผ่านแพลตฟอร์มใหม่ Global Food Security Platform มีเป้าหมายหลักจะสนับสนุนการผลิตอย่างยั่งยืนและการส่งมอบอาหารไปยังประเทศที่ได้รับผลกระทบจากความไม่มั่นคงด้านอาหาร การสนับสนุนจะมุ่งไปที่การอำนวยความสะดวกในการค้าสินค้าอาหาร การส่งมอบปัจจัยการผลิตให้กับเกษตรกร สนับสนุนการผลิตที่มีประสิทธิภาพในแหล่งกำเนิดสินค้าหลัก รวมถึงยูเครน และการกระจายผลิตภัณฑ์อาหารอย่างมีประสิทธิภาพในประเทศปลายทาง

การจัดหาเงินทุนจะมุ่งเน้นไปที่การดำเนินการระยะยาวเพื่อยกระดับความสามารถในการปรับตัวของระบบอาหารทั่วโลก และลดผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศและระบบนิเวศ ซึ่งรวมถึงการลงทุนในการเพิ่มผลผลิตพืชผลอย่างมีประสิทธิภาพ การยกระดับการเข้าถึงปุ๋ย การผลิตและการใช้ปุ๋ยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการสูญเสียพืชผลและเศษอาหาร ปรับปรุงประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทาน และลดปัญหาคอขวดของโครงสร้างพื้นฐาน

เงินจำนวน 6 พันล้านดอลลาร์จะนำไปใช้ ในการสนับสนุนบริษัทภาคเอกชนตลอดห่วงโซ่คุณค่าอาหาร โดยใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของ IFC ในด้านธุรกิจการเกษตร การผลิต โครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยี ตลอดจนภาคการเงินและการเงินการค้า

“ภาคเอกชนมีบทบาทสำคัญในการบรรเทาความไม่มั่นคงด้านอาหาร และในการสร้างแนวทางแก้ไขที่ยั่งยืน โดยการเสริมสร้างความเข้มแข็งของห่วงโซ่อุปทานและสร้างความมั่นใจว่าผู้คนจะสามารถเข้าถึงและสามารถปลูกอาหารราคาไม่แพงได้ ความคิดริเริ่มนี้จะมีส่วนช่วยในการสร้างระบบอาหารที่มีความยืดหยุ่นในภูมิภาคที่เปราะบางที่สุด” Makhtar Diop กรรมการผู้จัดการ IFC กล่าว

แพลตฟอร์มนี้จะเสริมความมุ่งมั่นของธนาคารโลกที่มีมูลค่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อตอบสนองต่อวิกฤตการณ์อาหาร นอกจากนี้ IFC ยังเพิ่มการมีส่วนร่วมกับพันธมิตรรายอื่นๆ รวมถึงสถาบันการเงินเพื่อการพัฒนา มูลนิธิ ธนาคาร และบริษัทเอกชนหลายแห่ง เพื่อระดมพลังในการดำเนินการร่วมกัน เพื่อจัดการกับความท้าทายด้านความมั่นคงด้านอาหารทั่วโลก