วันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 นางนวอร เดชสุวรรณ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ นายวิครัม คูมาร์ หัวหน้าสำนักงานประจำประเทศไทย บรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ International Finance Corporation (IFC) ซึ่งเป็นสมาชิกของธนาคารโลก (World Bank) ร่วมลงนาม บันทึกความเข้าใจเพื่อส่งเสริมการเงินเพื่อความยั่งยืน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันผู้ให้บริการทางการเงินผนวกแนวคิดเรื่องการเงินเพื่อความยั่งยืนทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ให้เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำธุรกิจโดยคำนึงถึงผลกระทบอย่างรอบด้าน
ความร่วมมือระหว่าง ธปท. และ IFC ครอบคลุมการได้รับการสนับสนุนจาก IFC ในการจัดทำกรอบนโยบายและแผนงานด้านการเงินเพื่อความยั่งยืนในประเทศไทย โดย IFC เป็นองค์กรระหว่างประเทศที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านดังกล่าว ธปท. และ IFC มุ่งหวังว่าความร่วมมือนี้จะช่วยผลักดันให้ภาคการเงินสามารถนำแนวคิดเรื่องการเงินเพื่อความยั่งยืนไปปรับใช้ในทางปฏิบัติ และทำหน้าที่เป็นตัวกลางทางการเงินซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนให้การดำเนินธุรกิจในประเทศไทยคำนึงถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืน
ในเอกสารข่าวของ IFC ระบุว่า บันทึกข้อตกลงความร่วมมือกำหนดแนวทางการดำเนินกิจการธนาคารอย่างยั่งยืนในด้านการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ (Sustainable Banking Guidelines – Responsible Lending) ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทยและธนาคารพาณิชย์สมาชิกรวม 15 แห่ง ได้ร่วมลงนามเมื่อเร็วๆนี้ นับว่าเป็นแบบอย่าง ที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการธนาคารที่ยั่งยืนที่มีส่วนต่อการปฏิรูปประเทศไปสู่ภาคการเงินที่แข่งขันและมีความยืดหยุ่น
“ประเทศไทยตระหนักถึงความสำคัญของการใช้แนวทางปฏิบัติ ESG ในภาคการเงินและเมื่อเร็วๆนี้มีความคืบหน้าที่สำคัญรวมถึงการเปิดตัวแนวทางการธนาคารยั่งยืนของสมาคมธนาคารไทย อย่างไรก็ตามยังอีกหลายด้านที่สามารถดำเนินการต่อได้และจำเป็นที่จะต้องดำเนินการมากกว่าเดิมเพื่อนำพาภาคการเงินของไทยไปสู่การปฏิบัติที่ยั่งยืนมากขึ้น“นางนวอรกล่าวและว่า ธปท.และภาคการเงินจะได้ประโยชน์อย่างมากจาก IFC ที่มีประสบการณ์เข้มข้น ที่จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาการเงินที่ยั่งยืนของไทย
ภายใต้ข้อตกลงนี้ IFC จะสนับสนุน ธปท. ในการพัฒนากรอบนโยบายการเงินที่ยั่งยืนซึ่งรวมถึงแผนงานและเครื่องมือเพื่อความยั่งยืนเพื่อช่วยภาคธนาคารในการปรับปรุงแนวทางการบริหารความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมภิบาล(ESG) ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนทางเงินทุนโดยตรงมากขึ้นให้กับภาคส่วนและโครงการที่มีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
IFC ด้วยการสนับสนุนของรัฐบาลออสเตรเลียจะสนับสนุน ธปท.และสถาบันการเงินในประเทศให้เสริมความสามารถด้านการเงินยั่งยืน รวมไปถึงการเป็นพันธมิตรครั้งนี้จะเอื้อต่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างธนาคารกลางในภูมิภาคอาเซียนและสมาชิกอื่นในเครือข่ายการธนาคารยั่งยืน
นายวิครัมกล่าวว่า ภาคการเงินของไทยมีบทบาทหลักในการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาค แนวทางการดำเนินกิจการธนาคารอย่างยั่งยืนของสมาคมธนาคารไทยไม่เพียงจะมีผลต่อภายในประเทศเท่านั้น แต่มีผลต่อประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย
“IFC และธปท.จะร่วมกันสนับสนุนภาคธนาคารของไทยให้เป็นผู้นำด้านการเงินยั่งยืนในภูมิภาค ด้วยการสนับสนุนด้านเงินทุนและแบ่งปันความเชี่ยวชาญให้กับประเทศเพื่อนบ้าน” นายวิครัมกล่าว