ThaiPublica > Native Ad > “สวีเดน-อังกฤษ” ล่วงหน้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

“สวีเดน-อังกฤษ” ล่วงหน้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

18 กรกฎาคม 2022


ที่มาภาพ: https://smartcitysweden.com/

เราจะก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำได้อย่างไร ใครบ้างที่ก้าวล้ำไปแล้ว

เรามีเวลาไม่มากและต้องออกแรงกันมากมายเพื่อการเปลี่ยนสังคมของเราให้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับที่ธรรมชาติจะดูดซับได้และอยู่ในขอบเขตที่โลกรับได้

หลายประเทศได้เริ่มและเร่งปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต การผลิต การพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำแล้ว มาดูตัวอย่างของประเทศที่มุ่งมั่นจริงจังในเรื่องนี้กัน

สวีเดนตั้งเป้ารัฐปลอดฟอสซิลแห่งแรกของโลกด้วย Smart City

สวีเดน ประกาศเป้าหมายจะเป็นรัฐสวัสดิการปลอดฟอสซิลแห่งแรกของโลก จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจนเป็นศูนย์ภายในปี 2588
แนวทางของสวีเดนคือ มุ่งสู่ Smart City รัฐบาลสวีเดนริเริ่มพร้อมพัฒนาแพลตฟอร์ม Smart City Sweden ที่ปัจจุบันมี 120 แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดที่สรุปจากประสบการณ์ และยังมีข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทประมาณ 700 แห่งที่มีส่วนร่วม

Smart City Sweden ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานของรัฐ และภาคอุตสาหกรรม เพราะเชื่อว่าความร่วมมือจะนำไปสู่ความยั่งยืนได้ ขณะเดียวกันเศรษฐกิจและธุรกิจยังเติบโตไปพร้อมกัน

Smart City ของสวีเดน ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการสร้างเมืองที่มีการสื่อสารที่ดี ให้ผู้คนมีอาหารที่เพียงพอ มีคนดูแลจัดการขยะ มีน้ำคุณภาพดี ระบบบำบัดน้ำเสีย มีไฟฟ้าที่เข้าถึงทุกคน อีกทั้งยังมีการยกระดับความมีระเบียบวินัยของคน

Smart City แบ่งการดำเนินงานออกเป็น ด้านพลังงาน (Energy), สภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม (Climate and Environment), การสัญจร (Mobility) ,การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ (Digitalisation),การออกแบบชุมชนเมือง(Urban Planning) และความยั่งยืนของสังคม(Social Sustainability)

  • ด้านพลังงาน
      1)การผลิตพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คือไฟฟ้าพลังน้ำ พลังงานนิวเคลียร์ โดยมีชีวมวลเป็นแหล่งพลังงานอันดับหนึ่ง อีกทั้งมีการลงทุนอย่างมากในกังหันลม เพื่อรองรับความต้องการไฟฟ้าที่คาดว่าจะเพิ่มเป็นสองเท่าในปี 2050
      2) ประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน มีการใช้ระบบ Smart Grid หรือ ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ เพราะพลังงงานจากหลายแหล่ง ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา พลังงานจากกังหันลมขนาดเล็ก รวมทั้งแปลงขยะกลับไปเป็นพลังงานด้วยนวัตกรรม
      3) ระบบทำความร้อนและความเย็นตามเขตพื้นที่ ที่บูรณาการและพัฒนามากที่สุด จนอยู่แถวหน้าของโลก ด้วยการแปลงความร้อนเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรม ใต้ดิน หรือที่อยู่อาศัย พลังงานที่ใช้แล้ว นำกลับมาใช้ใหม่ได้ เพื่อตอบสนองความต้องการความร้อนและความเย็นในแต่ละเขตในเมือง,มีการนำก๊าซชีวมวลที่ได้จากการโรงบำบัดน้ำเสียมาใช้เพื่อลดการปล่อยคาร์บอน และมีการผลิตก๊าซชีวมวลเพื่อนำมาใช้ในการย่อยขยะอาการจากโรงงาน ครัวเรือนและร้านอาหาร
      4) ปัจจุบัน Smart City แปลงขยะไปเป็นพลังงาน มีกฎหมายว่าด้วยการกำจัดขยะโดยเฉพาะ และมุ่งสร้างการตระหนักและรับรู้ในหมู่ประชาชน เพราะเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะบรรลุเป้าหมายการกำจัดขยะ

    ส่วนด้านน้ำ
    สวีเดนทุ่มเทให้กับการวิจัยเรื่องน้ำอย่างมากใน 2 ด้านหลัก คือน้ำเสียและน้ำสำหรับการบริโภค จึงเน้นการจัดการน้ำให้น้ำบาดาลที่มีคุณภาพดี รักษาแหล่งน้ำในทะเลสาปและลำธาร ฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำ ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมทางทะเลและพื้นที่ชายฝั่ง

  • ด้านการสัญจร

    สวีเดนมุ่งมั่นนำเสนอโซลูชั่นที่ทันสมัยในทุกรูปแบบการสัญจร นอกจากเชื้อเพลิงชีวภาพแล้ว ยังทุ่มเททรัพยากรให้กับการพัฒนาและการนำเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าและขับเคลื่อนอัตโนมัติ แบตเตอรี่ โครงสร้างพื้นฐานการชาร์จ และเซลล์เชื้อเพลิงไปใช้ ทุกวันนี้สวีเดนมีรถบรรทุกที่ไม่ใช้ฟอสซิลวิ่งบนถนนแล้ว

    นอกจากนี้รัฐบาลยังส่งเสริมการใช้จักรยาน ใช้เทคโนโลยี Geofence ควบคุมรถให้อยู่ในพื้นที่เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ส่งเสริมการใช้รถโดยสารสาธารณะ

  • Digitalisation
    Digitalisation เป็นรากฐานของ smart city ที่ช่วยแก้ไขปัญหาในหลายด้าน เช่น การดูแลรักษาความปลอดภัยของเมือง การมีบทบาทในด้านการศึกษา การขนส่ง เป็นต้น

  • Social Sustainability
    Smart City คำนึงถึงความหนาแน่นของประชากร สถานที่ต่างๆ ระยะทางในการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ รวมทั้งการจัดให้มีพื้นที่สีเขียว พื้นที่ในการออกกำลังกาย เพื่อให้เป็นเมืองที่ผู้คนมีสุขภาพดี ความเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์สาธารณะ บริการจากภาครัฐ เป็นต้น

  • Urban Planning
    ความเป็นเมืองที่ขยายตัวมีผลบวกในหลายด้านเช่น เชื่อมโยงผู้คน ลดความยากจนและเสริมการพัฒนาของมนุษย์ แต่ในขณะเดียวกันก็มีแรงกดดันให้เมืองต้องพัฒนาอย่างยั่งยืน สวีเดนจึงมีการออกแบบชุมชนเมืองใหม่ โดยให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นเพื่อให้ได้เมืองอย่างที่ประชาชนต้องการ คือมีพื้นที่เขียวมากขึ้น มีพื้นที่สำหรับที่อยู่อาศัย ร้านอาหาร นำระบบทำความร้อนความเย็น อินเตอร์เน็ต สายไฟฟ้า ระบบกำจัดของเสียลงอยู่ใต้อาคารที่อยู่อาศัย เป็นการรวมศูนย์ระบบสาธารณูปโภคไว้ด้วยกันที่สะดวกต่อการซ่อมบำรุง โดยไม่สร้างความลำบากให้กับประชาชน ซึ่งส่งผลให้เมืองมีคุณภาพอากาศที่ดี สิ่งแวดล้อมไม่ถูกทำลาย เป็นสังคมเมืองที่ยั่งยืน

    ลอนดอนเลือกเส้นทาง Accelerated Green pathway

    ในปี 2562 สภาสามัญชนหรือสภาผู้แทนอังกฤษได้ลงมติเห็นชอบให้ ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือ Climate Change และด้านสิ่งแวดล้อม โดยที่ไม่ต้องลงคะแนน และถือเป็นประเทศแรกของโลกที่ประกาศภาวะฉุกเฉินด้าน Climate Change

    ในปี 2565 สหราชอาณาจักรตั้งเป้าหมายใหม่ในกฎหมายเพื่อลดการปล่อยมลพิษ 78% ภายในปี 2578 อีกทั้ง Carbon Budget ฉบับที่ 6 ซึ่งจะรวมสัดส่วนการปล่อยมลพิษการบินระหว่างประเทศและมลพิษจากการเดินเรือ ของสหราชอาณาจักรเป็นครั้งแรก และจำกัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในช่วงปี 2576 ถึง 2580 ทำให้สหราชอาณาจักรยังคงเดินหน้าตามแนวทางที่จะยุติการมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

    ขณะเดียวกันมหานครลอนดอน ตั้งเป้าที่จะบรรลุการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ป็นศูนย์ภายในปี 2573 โดยนายซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีลอนดอน เลือกแนวทางที่ได้จากการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาให้ทำการศึกษา

    แนวทางนี้เรียกว่า Accelerated Green pathway ซึ่งนายข่านชี้ว่า เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับลอนดอน และมีความสมดุลระหว่างเป้าหมายกับความสามารถในการดำเนินการ

  • ลดความต้องการความร้อนทั้งหมดของอาคารลงเกือบ 40% ส่งผลให้ต้องมีบ้านเรือนมากกว่า 2 ล้านหลัง และอาคารที่ไม่ใช่ของใช้ในครัวเรือนกว่า 1 ใน 4 ล้าน ต้องมีมีการติดตั้งฉนวนป้องกันอย่างเหมาะสม
  • มีปั๊มความร้อน(Heat Pump)ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายเทความร้อนอุณหภูมิต่ำจากแหล่งหนึ่ง (Heat Source) มาทำให้ร้อนขึ้น แล้วส่งไปยังแหล่งที่ต้องการซึ่งมีความร้อนสูง (Heat Sink) จำนวน 2.2 ล้านเครื่องใช้งานในลอนดอนภายในปี 2030
  • อาคาร 460,000 แห่ง เชื่อมต่อกับเครือข่ายระบบทำความร้อนภายในปี 2573
  • ลดลงระยะทางการเดินทางของรถยนต์ลง 27% ภายในปี 2573
  • ยุติการจำหน่ายรถยนต์เชื้อเพลิงฟอสซิลและรถแวนในปี 2573 และบังคับใช้ตามข้อผูกพันของรัฐบาลที่มีอยู่
  • ไม่ว่าเมืองใดใช้แนวทางอะไร ที่สำคัญเราต้องสร้างเสริมสังคมคาร์บอนต่ำนี้ให้กับครอบครัว เพื่อน ผู้ที่อยู่รอบตัวเรา ร่วมมือกันเพื่อจะได้อยู่ร่วมกับธรรมชาติ และโลกใบนี้อย่างยั่งยืน