
“เสธฯหนุน” เสนอบอร์ดสลากฯตัดโควตาหวยเบื้องต้น 4.5 ล้านใบ จัดสรรให้ ‘คนขายตัวจริง’ ประเดิมขายผ่าน “จุดตรึงราคา 80 บาท – แพลตฟอร์ม Lottery Market Place” เริ่ม 2 มิ.ย.นี้ “แรมโบ้” ยืนยันไม่จัดโควตาหวยให้แพลตฟอร์มออนไลน์เอกชน-ตัวแทนจำหน่ายสลากรายเก่าเพิ่มเติม
เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2565 เวลา 15.00 น. นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการเสนอขาย หรือ ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล และประธานคณะทำงานเฉพาะกิจตรวจสอบผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลฯ แถลงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาขายสลากเกินราคา ณ ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงาน ก.พ. (เดิม) โดยนายเสกสกล กล่าวว่าการประชุมในวันนี้มีวาระที่สำคัญ คือ การพิจารณาโครงการ ‘สลาก 80’ ซึ่งเป็นมาตรการที่คณะกรรมการสลากฯ ได้วางแนวทางให้สำนักงานสลากฯดำเนินการ โดยจำหน่ายสลากผ่านแอป “เป๋าตัง” ซึ่งจะเริ่มจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศภายในงวด 16 มิถุนายน 2565 ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และผู้กำกับการสถานีตำรวจในพื้นที่จะร่วมเป็นผู้ตรวจสอบตัวแทนจำหน่ายต่อไปด้วย
นายเสกสกล กล่าวว่า ในส่วนของการจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์นั้น สำนักงานสลากฯ ได้พัฒนาช่องทางร่วมกับธนาคารกรุงไทย ผ่านแอปเป๋าตัง ซึ่งมีประชาชนใช้งานกว่า 40 ล้านคน เป็นระบบที่ได้มาตรฐาน มีความมั่นคงปลอดภัยทางเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าฯ สามารถนำมาฝากขายได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ในขณะเดียวกันก็สามารถขายเองได้บางส่วนด้วย ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ค้าสลากรายย่อยขายสลากได้มากขึ้น และการควบคุมราคา รวมถึงการตรวจสอบก็สามารถดำเนินการได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ แพลตฟอร์มจำหน่ายสลากจะเริ่มทดสอบระบบภายในเดือนเมษายน และพฤษภาคม 2565 และจะเริ่มดำเนินการขายจริงได้เร็วที่สุดในงวดประจำวันที่ 16 มิถุนายน 2565 ซึ่งจะเริ่มขายสลากให้กับประชาชนได้ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป สำหรับคนพิการ และกลุ่มเปราะบาง ทางสำำนักงานสลากฯจะมีการพัฒนาแอปพลิเคชั่น เพื่อเพิ่มความสะดวกให้เป็นกรณีพิเศษด้วย
นายเสกสกล กล่าวต่อว่า ส่วนโครงการลงทะเบียนผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าฯนั้น ในเบื้องต้นสำนักงานสลากฯ ได้มีหนังสือขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัดสำรวจผู้จำหน่ายสลากจริงที่จำหน่ายสลากในพื้นที่ของจังหวัด เพื่อนำข้อมูลมาตรวจสอบเปรียบเทียบกับรายชื่อผู้ลงทะเบียนผู้ซื้อ – จองล่วงหน้า ฯ ที่ชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อให้คนที่ขายสลากจริง ซึ่งยังไม่เคยได้รับโควตา หรือไม่ได้รับสิทธิ โดยเฉพาะคนกลุ่มเปราะบางที่ต้องได้รับการดูแลให้เข้ามาสู่ระบบสลาก ทั้งนี้ การคัดกรองจะต้องเป็นไปด้วยความชัดเจน มีความแม่นยำ ให้ได้ผู้ที่ทำอาชีพขายสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวจริงที่กำลังขายสลากอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งต้องเป็นผู้ขายให้กับผู้บริโภคโดยตรงไม่ใช่ขายส่ง หรือ ลักษณะพ่อค้าคนกลาง
ประธานคณะอนุกรรมการฯ กล่าวต่อไปอีกว่า นอกจากนี้ จะมีการปรับปรุงแก้ไขเนื้อหาสาระในสัญญารับสลากไปจำหน่าย เพื่อเพิ่มสภาพบังคับให้มีความเข้มข้นและเกิดความเกรงกลัวมากขึ้น และหลังจากที่เริ่มจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มของสำนักงานสลากฯประกอบกับการแก้ไขปัญหาในส่วนต่าง ๆ จะส่งผลให้การบริหารจัดการของสำนักงานสลากฯ เป็นไปด้วยความคล่องตัวมากขึ้น ทั้งในส่วนของค่าใช้จ่ายในการบริหาร และการแก้ไขปัญหาในระยะยาวต่อไป

ถามว่าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะดำเนินการจัดสรรโควตาสลากที่ไปยึดคืนมาจากตัวแทนจำหน่ายที่นำสลากไปโพสต์ขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ของเอกชนอย่างไร
พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ตามที่สำนักงานสลากฯได้แถลงข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจขอหมายศาลเข้าตรวจค้นแพลตฟอร์มออนไลน์ 3 บริษัท อันได้แก่ บริษัท มังกรฟ้า ลอตเตอรี่ จํากัด , บริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด และบริษัท เสือแดงลอตเตอรี่ ออนไลน์ จำกัด พบตัวแทนจำหน่ายสลากทั้งระบบโควตาและระบบซื้อ-จองล่วงหน้าฯ นำสลากมาสแกนและโพสต์ขายเกินราคาพบแอปพลิเคชัน หรือ เว็บไซต์ของทั้ง 3 บริษัท ในส่วนของบริษัท มังกรฟ้านั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งข้อมูลสลากจำนวน 2,027,500 ใบ (ฉบับ) มาให้สำนักสลากฯตรวจสอบแล้ว พบตัวแทนจำหน่ายที่อยู่ในระบบของสำนักงานสลากฯนำสลากไปฝากขายบนแพลตฟอร์มของมังกรฟ้าเกินราคาจำนวน 8,964 ราย แม้ตัวแทนจำหน่ายสลากกลุ่มนี้จะนำสลากไปฝากขายเพียง 1 เล่ม หรือ 100 ใบ ไปฝากโพสต์ขาย ก็ถือว่าผิดสัญญา ทางสำนักงานสลากฯจำเป็นต้องยกเลิกโควตาที่ได้รับจัดสรรทั้งหมด รายละ 5 เล่ม รวมแล้วจะมีโควตาสลากที่ถูกตัดสิทธิการขาย หรือ ยึดคืนทั้งหมดประมาณ 4,482,000 ใบ (ฉบับ) ส่วนกรณีของกองสลากพลัส ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่งจะส่งข้อมูลสลากจำนวน 4,700,000 ใบ มาให้สำนักงานสลากฯ ตรวจสอบ ซึ่งเป็นข้อมูลขนาดใหญ่มาก ทางสำนักงานสลากฯคงต้องขอเวลาในการตรวจสอบสักระยะหนึ่ง
ผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ กล่าวต่อว่า สำหรับคำถามที่ว่าจะบริหารจัดการสลากทั้งหมดที่ถูกยึดคืนมาอย่างไร วันนี้ตนก็ได้หารือกับนายเสกสกลแล้ว ได้ข้อสรุปว่าตนจะต้องนำเรื่องนี้ขออนุมัติจากที่ประชุมบอร์ดสลากฯ เพื่อนำสลากที่ยึดคืนมาจำนวนหลายล้านฉบับไปจัดสรรให้กับผู้ค้าสลากตัวจริง 3 กลุ่ม คือ กลุ่มแรก เป็นผู้ค้าสลากที่เคยไปยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ขอให้สำนักงานสลากฯจัดสรรโควตาสลาก , กลุ่มที่ 2 เป็นข้อมูลที่ได้จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจตามแผงต่าง พบผู้ค้าสลากจริงที่ไม่ได้รับการจัดสรรโควตา หรือ ไม่ได้อยู่ในระบบของสำนักงานสลากฯประมาณ 2,500 ราย และกลุ่มที่ 3 สำนักงานสลากฯจะจัดสรรสลากส่วนที่เหลือให้กับตัวแทนจำหน่ายที่มาลงทะเบียนกับสำนักงานสลากฯนำไปขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่กำลังจะเปิดขายในวันที่ 2 มิถุนายน 2565
ส่วนนายเสกสกล ยืนยันว่า “โควตาสลากที่ถูกยึดคืนมา สำนักงานสลากฯไม่มีนโยบายที่จะนำไปจัดสรรให้กับตัวแทนจำหน่ายระบบโควตารายใดเพิ่มเติม และไม่นำไปจัดสรรให้กับแพลตฟอร์มออนไลน์ของเอกชนรายใดทั้งสิ้น ขอให้ประชาชนสบายใจผมจะนำไปจัดสรรให้คนขายสลากตัวจริง ที่ไม่เคยได้รับโควตาสลากเลยตามที่ผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯกล่าว ผมจะกันไว้ให้ชาวบ้านที่เคยทำหนังสือไปขอโควตาสลากกับผู้ว่าราชการจังหวัด และกันไว้ให้ผู้สมัครที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติการเป็นตัวแทนจำหน่ายในระบบซื้อ-จองล่วงหน้าสลาก ฯ ซึ่งเป็นชาวบ้านที่ต้องการขายสลากจริงๆจะได้รับการจัดสรรโควตารายละ 5 เล่ม ขอย้ำว่าสำนักงานสลากไม่มีนโยบายจัดสรรโควตาให้ตัวแทนจำหน่ายสลากรายใดเพิ่มเติม”