ThaiPublica > คอลัมน์ > ทัวร์จักรยานกับการท่องเที่ยวไปหาชุมชน (ตอน1)

ทัวร์จักรยานกับการท่องเที่ยวไปหาชุมชน (ตอน1)

21 กุมภาพันธ์ 2022


วีระศักดิ์ โควสุรัตน์
สมาชิกวุฒิสภาประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการกีฬา รองประธานกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้รับเชิญไปร่วมกิจกรรมปั่นจักรยานเที่ยวเยี่ยมชมชุมชนและสถานที่น่าสนใจในเส้นทางชายฝั่งของสมุทรสาคร จากศาลพันท้ายนรสิงห์ อดีตนายท้ายเรือพระที่นั่งผู้รักษาหน้าที่ด้วยคำปฏิญาณที่มั่นคงยิ่งกว่ารักษาชีวิต

เป็นการปั่นจักรยานลัดเลาะไปตามถนนเส้นในซอยที่ลึกเข้าไปใกล้แนวชายฝั่งจนถึงวัดโกรกกรากแล้วทุกคนยกจักรยานลงเรือข้ามฟากไปปั่นต่อที่ฝั่งท่าฉลอมจนสุดสายทางรางรถไฟสายแม่กลองครับ

เป็นทริปความยาว 6 ชั่วโมง เริ่มปั่นราว 8 โมงเช้าวันอาทิตย์

ปั่นไปแวะไป ได้เติมความรู้ จากปราชญ์ชาวบ้าน ได้เติมความอร่อยจากฝีมือคนท้องถิ่น ได้จับจ่ายให้ประโยชน์กับร้านรวงในชุมชนที่แวะถึง และได้ออกเหงื่อตามตั้งใจ กับได้เทคนิคการปั่น ตลอดทั้งได้ช่วยกันดูแลผู้ร่วมทางไปจนจบการปั่นที่บ่าย 2 โมง จบเส้นทาง

อ้อ และได้รู้ว่าแดดเมืองไทยกับนักปั่นจักรยานเพื่อเที่ยวชุมชนนั้น คงต้องเป็นของคู่กันโดยแท้ทรูตลอดไป!!

ต่างจากการปั่นจักรยานซ้อมของนักกีฬา เพราะนั่นไม่เน้นจอดแวะ ดังนั้นนักกีฬาชมรมจักรยานจึงเลือกออกปั่นยามเช้าๆมากๆได้ แต่การปั่นจักรยานเที่ยวแบบเยี่ยมชุมชนนั้น มักต้องไปถึงสายหน่อย แดดออกแล้ว เรียงสินค้าเสร็จแล้ว เรียงอุปกรณ์ที่จะพาทำแล้ว

แม้แดดทริปนี้ของผมจะแรงหน่อย แต่ก็เพลินและให้ประโยชน์เกินคาดทีเดียวครับ

ทริปนี้จัดโดยผู้มีประสบการณ์ในการประกอบการด้านนี้มาก่อน เรียกตัวเองว่า กลุ่มจักรยานหรรษา โดยนัดพาสมาชิกในกลุ่ม บ้างก็มีชั่วโมงบินสูงกับจักรยานมาแล้ว บ้างก็มีประสบการณ์พอประมาณกับการปั่นจักรยาน และบ้างก็ยังไม่ค่อยมีประสบการณ์กับการปั่นจักรยานเที่ยวเลยอย่างผมเป็นต้น!!

ผมเคยปั่นจักรยานบ่อยก็จริง แต่การปั่นแทบทุกครั้งก็ทำไปเพราะเป็นส่วนหนึ่งของงานอีเว้นท์ในภารกิจรัฐมนตรี คือไปจากจุด A ให้ถึงจุด B ผ่านวิวสวยแต่ไม่ได้หยุดให้ชม เพราะปั่นคณะแบบนั้นจะวีไอพีเพียบ คนปั่นร่วมหลายร้อยคัน ส่วนถ้าจะเป็นการปั่นที่ไม่ใช่การทำงาน ก็จะเป็นการปั่นไปซื้อของปากซอยมาเข้าบ้านบ้าง หรือปั่นไปลองสำรวจซอยแถว ๆ ที่พักอาศัยด้วยตนเองบ้าง ซึ่งถ้าไม่ใช่ปั่นคนเดียวก็ไปกับลูกชายเท่านั้น แต่ยังไม่เคยปั่นโดยซื้อแพคเกจ มีผู้นำกำหนด ว่าจะจอดชมอะไรที่ไหน จะเลี้ยวที่ไหน และจะทานอะไร เลยเป็นประสบการณ์ที่แม้ไม่ใหม่สำหรับหลาย ๆ ท่าน แต่กับผม นับว่าใหม่ทีเดียว

ทริปนี้จึงมีอะไรให้สังเกตเห็นหลายอย่าง เรานัดพบพร้อมจักรยานที่ลานจอดรถของศาลพันท้ายนรสิงห์ซึ่งก็อยู่ใกล้ชายฝั่งของสมุทรสาคร นับตัวคนได้คณะนี้ 32 คน 32 คัน รู้จักกันบ้าง ไม่รู้จักกันบ้าง บ้างมาแบบพ่อแม่ลูก บ้างมาแบบเพื่อนๆ บ้างมาแบบคนถิ่นนี้เองที่สงสัยใคร่แสวงความรู้ บ้างมาจากที่ไกลๆและไม่เคยรู้เรื่องราวของสมุทรสาคร ผมผ่านและมาสมุทรสาครหลายหน แม้แต่มาค้างคืนที่ริมทะเลที่สมุทรสาครก็เคยมาแล้ว

แต่การนั่งรถยนต์นั้น ประสาทสัมผัสของเราที่ได้รับย่อมจะต่างจากสัมผัสที่ได้จากการเดิน การวิ่ง หรือการปั่นจักรยานไปในหรือไปผ่านย่านนั้น ๆ ลมปะทะตัวเบาๆสม่ำเสมอตามจังหวะการปั่นให้ความรู้สึกที่ต่างจากการนั่งรถเปิดกระจกรับลม ซึ่งจะแรงและมีการหมุนวนในตัวรถ

การปั่นจักรยานผ่านตามชุมชนนาเกลือทำให้ได้กลิ่นเกลือ ปั่นผ่านย่านห้องแถวไม้เก่า ทำให้ได้กลิ่นความอร่อยของกับข้าวที่ผู้ใหญ่กำลังหุงหาไว้ให้สมาชิกในบ้านทาน ปั่นผ่านวัดก็จะได้กลิ่นธูปกับประทัดที่พึ่งจุดผ่านไปก่อนหน้า

หัวหน้าคณะการปั่นจักรยานได้พาพวกเราวอรม์อัพร่างกาย และยืดเส้นสายก่อนออกเดินทาง และได้แสดงการส่งสัญญานมือให้เข้าใจตรงกันว่าถ้าหัวหน้าคณะและทีมเจ้าหน้าที่ ๆ ปั่นประกบคณะยกมืออย่างไรแปลว่า ให้หยุดรถ ให้เลี้ยวซ้ายหรือขวา ให้หลบหลุมหรือสิ่งกีดขวาง โดยให้เบี่ยงซ้ายหรือขวา และตกลงกันไว้ว่าถ้าฝนตก เราทั้งคณะจะต้องหยุดกิจกรรมไว้จนกว่าสภาพทางที่จะไปต่อมีความปลอดภัยเหมาะสมเพียงพอ

กับประกาศให้ทราบว่าใครที่ปั่นต่อไปไม่ไหวหรือจักรยานมีเหตุขัดข้อง ผู้จัดมีรถตู้และรถกระบะตามท้ายคณะไปจนสิ้นสุดเส้นทางโปรแกรม ดังนั้นทั้งคนและรถจักรยานจะได้ไปถึงและเยี่ยมชมจุดพัก ได้เรียนรู้พร้อมคณะอยู่อย่างเท่าเทียม

ในคณะที่ออกมาปั่นตามโปรแกรมนี้ มีตั้งแต่คุณลุงคุณน้าที่น่าจะอาวุโสกว่าผม มีน้องวัยเยาว์ร่างสูงแต่เป็นนักเรียนประถมปลาย ดังนั้น เมื่อหลากหลายได้ที่ขนาดนี้ ทีมเจ้าหน้าที่จึงมีหลายท่านที่มาปั่นประกบเพื่อช่วยดูแลและเก็บตกหรือจอดจักรยานรอบอกทางให้กลุ่มที่ตามมาห่างๆไม่ต้องพะวงเรื่องจะหลงเส้นทาง

ทุกครั้งที่เราจอดจักรยานเข้าจุดพักเติมพลัง ก่อนออกตัวของขบวนจะมีการขานนับจำนวนของเราให้ทุกคนได้ยินดังๆ จนกว่าตัวเลขที่ถูกขานสุดท้ายจะบวกลบได้ 32 หัวหน้าคณะมองเห็นต้นเสียงของทุกหมายเลขแล้วจึงหันหน้าออกปั่นนำคณะต่อไป

เป็นอย่างนี้ทุกจุดพัก

หัวหน้าคณะแนะนำด้วย ว่าการดื่มน้ำให้ดื่มให้เป็นจังหวะ อย่ารอให้หิวน้ำแล้วค่อยเริ่มดื่ม เพราะการปั่นจักรยานกลางแจ้งนั้นร่างกายจะเสียเหงื่อและเกลือแร่รวดเร็ว จึงควรดื่มแบบจิบๆไปเป็นช่วงเสมอ

เราได้รับการแนะนำว่าไม่พึงขี่จักรยานตีคู่กันตลอดทาง แต่ให้พยายามเรียงแนวกันเท่าที่จะปลอดภัย เรากำลังมาใช้ทางร่วมกับรถยนต์ต่างๆ และนี่ไม่ใช่การปิดถนนปั่น ดังนั้นจึงต้องเปิดเส้นทางให้รถอื่นแล่นแซงได้และสวนได้โดยปลอดภัย

เราหลายคนจึงมีบทบาทช่วยส่งเสียงบ้าง ผายมือบ้าง ยกมือโบกบ้างเมื่อจะมีรถแล่นแซงขึ้นมา รวมทั้งจะส่งเสียงบอกเป็นทอดให้รู้จุดระวังเวลาที่ต้องแล่นลงทางลาดถนนที่มีทางแยกทางร่วมตัดขวางว่าให้ชะลอและหยุดรอดูรถอื่นก่อนจะไปต่อได้

อุบัติภัยบนท้องถนนนั่น ประมาทไม่ได้เลย

เราอาจระวังได้ แต่เราต้องเข้าใจว่าคนอื่น ๆ อาจยังระวังไม่พอ บางเรื่องเป็นสภาพทางยังมีจุดอ่อน บางเรื่องตัวพาหนะก็อาจก่อปัญหาได้

แม้เส้นทางกำหนดของโปรแกรมจะเลือกที่จะแล่นในถนนรอง ๆ ซึ่งจะมีรถยนต์ใช้ทางน้อย ๆ แล้ว แต่การมีระบบสื่อสารและสัญญานกลุ่มให้รู้ว่ามีกันและกันก็ช่วยให้สมาชิกทุกคนอุ่นใจและช่วยกันส่งเสริมความปลอดภัยแก่การใช้ทาง

การเที่ยวไปเยี่ยมตามชุมชนในครั้งนี้รวมๆแล้วได้ระยะทางราว 30 กิโลเมตร ซึ่งสำหรับนักปั่นจักรยานที่หมั่นซ้อมออกกำลังกายเสมอจะบอกว่าจิ้บ ๆ

แต่เนื่องเป้าประสงค์ของการจัดทริปไม่ใช่เพื่อการลดน้ำหนักหรือจะสร้างกล้ามเนื้ออะไร

ทริปนี้เน้นการไปเยี่ยมและรับความรู้จากชุมชนชาวบ้านต่างๆต่างหาก เพียงแต่วิธีเดินทางเป็นกิจกรรมที่ได้ใช้ทักษะปั่นและใช้พลังงานของแต่ละคนมาประกอบ เรียกว่าเป็นทริปท่องเที่ยวแบบโลว์คาร์บอน ดีต่อสิ่งแวดล้อม ดีต่อสุขภาพ ดีต่อชุมชน เป็นกิจกรรมของธุรกิจแนวสร้างสรรค์ และเต็มไปด้วยการฝึกสำนึกรับผิดชอบตลอดทริปแน่นอนครับ

ในทริปนี้ผู้ร่วมคณะไม่ทันสังเกตรู้ว่าผมเป็นใคร เพราะเราทุกคนสวมอุปกรณ์กันครบสูตรตามแบบ New Normal ของยุคโควิด จนตอนจบปิดกิจกรรมโน่นแหละที่หัวหน้าคณะท่านเดินมาขออนุญาตเชิญให้ผมช่วยกล่าวปัจฉิมนิเทศก่อนแยกย้ายอำลา

ถึงตอนนั้นสมาชิกในคณะจึงได้แปลกใจว่า อ้าว ปั่น อยู่ดูแลนั่นนี่ด้วยกันมาทั้งวันไม่ยักทราบ นับว่าได้ความคิกคักทักทายและอำลาไปในเวลาเดียวกันอย่างน่ารักอบอุ่น

เรื่องเล่าตอนที่ 1 นี้ ผมขอเก็บประเด็นเรื่องการปั่นจักรยานเที่ยวเสียก่อน ตอนต่อ ๆ ไปจะได้เล่าเรื่องสิ่งที่ได้ไปเห็นไปเรียนรู้ที่สมุทรสาครมาบอกต่อนะครับ