สตาร์บัคส์และคอสตา กำลังเจอคู่แข่งรายใหม่ที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นในประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้ให้บริการไปรษณีย์ของรัฐ นั่นคือ ไชนาโพสต์(China Post)
ไชนาโพสต์ เปิดร้านกาแฟแห่งแรกที่ชื่อ โพสต์ คอฟฟี(Post Coffee) ในสัปดาห์ที่แล้วในเมืองริมทะเล เซี่ยเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน ทางตะวันออกของจีน หลังจากทำการทดสอบตลาดในปีที่แล้ว และเมื่อเดือนกันยายนได้เปิดร้านกาแฟในที่ทำการไปรษณีย์บนถนน เทียนผิง ในเขตสวีฮุ่ยที่คึกคักของเซี่ยงไฮ้
โจว ซื่ออวี้ เจ้าหน้าที่อาวุโสของ Shanghai Join Buy หนึ่งในผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์รายใหญ่ที่สุดของเมืองกล่าวว่า “ไชนาโพสต์มีสาขาจำนวนมาก มีความได้เปรียบในการสร้างเครือข่ายร้านกาแฟขนาดใหญ่” “แต่การบริหารร้านกาแฟไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องใช้ความเชี่ยวชาญในการสร้างแบรนด์ การตลาด และการขนส่ง”
ไชนาโพสต์มีเครือข่ายที่ทำการไปรษณีย์ 54,000 แห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่ย่านใจกลางเมืองในเมืองชั้นนำของประเทศไปจนถึงหมู่บ้านในชนบทที่ห่างไกล และสามารถเบียดคู่แข่งได้ง่ายในแง่ของเครือข่ายการขาย
พนักงานที่ร้านกาแฟในเขตสวีฮุ่ย ซึ่งไชนาโพสต์ก่อตั้งร่วมกับเฉียว เจีย ซาน แบรนด์ร้านอาหารที่มีชื่อเสียงในเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า เป็นการทดลองร่วมกันของทั้งสองฝ่ายเพื่อประเมินความต้องการของผู้บริโภค
ร้านขายกาแฟที่ราคาเริ่มต้น 20 หยวน (3.15 เหรียญสหรัฐ) ถึง 30 หยวนต่อแก้วได้ประมาณ 20 ถ้วย ในเวลาเพียง20 นาทีในบ่ายวันอังคาร
อวี้ เจียฉี ลูกค้าที่ซื้อลาเต้จากร้านกล่าวว่า “ที่ตั้งเยี่ยมและตกแต่งดี” “รู้สึกว่ามันคุ้มค่าที่จะลองกาแฟของไชนาโพสต์ และรสชาติก็อร่อย”
แบรนด์กาแฟนานาชาติได้สร้างเสริมวัฒนธรรมการดื่มกาแฟในเชิงสัญลักษณ์สถานะให้กับลูกค้าชาวจีน และเป็นผู้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากความนิยมกาแฟที่เพิ่มขึ้นในหมู่ชนชั้นกลาง
สตาร์บัคส์ซึ่งเปิดสาขาแรกในจีนในกรุงปักกิ่งในปี 1999 ปัจจุบันมีสาขา 5,400 แห่งทั่วจีนแผ่นดินใหญ่ บริษัทกล่าวในปี 2018ว่า จีนแผ่นดินใหญ่จะกลายเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดภายในหนึ่งทศวรรษ
การวิจัยที่จัดทำขึ้นเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาโดย Jiemian News สื่อการเงินและธุรกิจ พบว่า ตลาดกาแฟทั้งหมดของจีนมีมูลค่า 3 แสนล้านหยวนในปี 2020 และจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1 ล้านล้านหยวนในปี 2025 การวิจัยระบุว่า สตาร์บัคส์และ คอสตา ยังคงเป็นผู้นำตลาด แต่แบรนด์จีนที่กำลังจะเปิดตัวบางแบรนด์เป็นความท้าทายของทั้งสองรายนี้
โพสต์ คอฟฟี สื่อผ่านแพลตฟอร์มเว่ยปั๋ว ที่คล้ายกับ Twitter ว่า มีเป้าหมายที่จะ สร้างแบรนด์กาแฟในประเทศให้กลายเป็นแบรนด์ที่ใหม่และทันสมัย การรวมบริการไปรษณีย์เข้ากับธุรกิจกาแฟเข้าด้วยกัน เพราะบริษัทต้องการส่งมอบกาแฟในราคาไม่แพงให้กับผู้บริโภคและมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้น
“ที่ทำการไปรษณีย์จะไม่ใช่สถานที่ที่ให้บริการไปรษณียแบบธรรมดาอีกต่อไป แต่เป็นที่ใหม่ที่สามารถพบปะสังสรรค์ ลิ้มรสกาแฟระดับพรีเมียม และสัมผัสวัฒนธรรมไปรษณีย์ได้ เราต้องการสร้างภาพลักษณ์ที่ทำการไปรษณีย์ใหม่ที่มีความสนุกสนาน ทันสมัย และหลากหลาย” โพสต์ คอฟฟี ระบุในแถลงการณ์บนบัญชีเว่ยปั๋ว ที่เป็นทางการ
ทันทีที่เปิดร้าน โพสต์ คอฟฟี ก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ชาวเน็ตจากหลายเมือง ถามว่า “จะเป็นเจ้าของร้านอย่างไร” ในท้ายโพสต์ของเว่ยปั๋ว ซึ่งโพสต์ คอฟฟีตอบกลับว่า ขณะนี้รูปแบบธุรกิจยังไม่ครอบคลุมการขยายแฟรนไชส์เชิงพาณิชย์
นอกจากนี้ โพสต์ คอฟฟี ได้เปิดตัวมินิโปรแกรม WeChat และบริหารโดย Shanghai Zhongyu Kaye Management Consulting Co Ltd. ที่ก่อตั้งขึ้นในเดือนกันยายน และไม่มีความสัมพันธ์ในเชิงการถือหุ้นกับไชนา โพสต์
จากข้อมูลของ Yinshi Finance การโพสต์รับสมัครงานก่อนหน้านี้โดยบริษัทแสดงให้เห็นว่า Shanghai Zhongyu Kaye Management Consulting Co., Ltd. เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการจัดการเกี่ยวกับการดำเนินงานด้านแบรนด์กาแฟและการบริหารสาขา สำนักงานใหญ่ของบริษัทตั้งอยู่ในย่านลู่เจียซุย เซี่ยงไฮ้ ซึ่งเต็มไปด้วยวัฒนธรรมกาแฟ บริษัทนี้รับผิดชอบการลงทุนก่อนเปิดร้านและดำเนินงานไปรษณีย์ของโพสต์ คอฟฟี
ในเดือนมกราคม Shanghai Zhongyu Kaye ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 1 ล้านหยวน (158,000 ดอลลาร์) เป็น 20 ล้านหยวน ตามข้อมูลของเทียนเหยี่ยนฉา แพล็ตฟอร์ผู้ให้บริการฐานข้อมูลทางธุรกิจ
ในช่วงปลายปี 2020 ไชนา โพสต์ ดรักสโตร์( China Post Drugstore) ในเครือของไชนา โพสต์ เฮงไถ่ ฟาร์มาซูติคอล ซึ่งเป็นบริษัทลูกของไชนา โพสต์ด้วยนั้น ได้เปิดร้านชานมชื่อ Post Oxygen of Tea ในเมืองฝูโจว ฝูเจี้ยน บริษัทมั่นใจในศักยภาพในการเติบโตของกลุ่มชานมและได้ขยายธุรกิจ
เสพติดการก้าวข้ามขอบเขต
มีการมองว่าการเปิดร้านกาแฟของไชนาโพสต์ เป็นการแสดงให้เห็นว่า บริษัทซึ่งถือว่าเป็นทีมชาติเอาจริงแล้ว
สื่อมองว่า ในฐานะตัวบุกของทีมบริษัทของรัฐ ไชนาโพสต์ ได้ก้าวข้ามขอบเขตธุรกิจไปอีกขั้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และยังได้รับความสนใจจากสาธารณชนนอกจาก “Post-Oxygen Tea” แล้ว ชาวเน็ตหลายคนยังบอกว่าเคยเห็นร้านขายยา ร้านค้าวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ และบาร์ที่เปิดโดยไชนา โพสต์ด้วย อีกทั้งชาวเน็ตบางคนก็เริ่ม “เคลื่อนไหว” “ให้ไชนา โพสต์ก้าวข้ามขอบเขตมาเปิดยิมใน ชื่อ “Post-Oxygen Movement”
ในฐานะที่เป็นรัฐวิสาหกิจที่ให้บริการไปรษณีย์ โลจิสติกส์ด่วน การเงิน อีคอมเมิร์ซ ฯลฯ ไชนา โพสต์ได้ ก้าวข้ามขอบเขตธุกิจหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และได้รับความสนใจจากโลกภายนอกอย่างมาก ปีที่แล้ว ร้านชานมในเมืองฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน “Post-Oxygen Tea” ได้รับความสนใจอย่างมาก เคยติดอันดับการค้นหาแบบสุดปังมาแล้ว
นักข่าวได้สอบถามความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งพบว่าที่ทำการไปรษณีย์หงชุนได้กลายเป็นจุดเช็คอินออนไลน์ของคนดัง นอกจากซื้อของที่ระลึกและส่งไปรษณียบัตรแล้ว ที่ทำการไปรษณีย์ก็มีนักร้องประจำด้วย
จากข้อมูลของเทียนเหยี่ยนฉาในเดือนเมษายนปี 2021 ขอบเขตธุรกิจของไชนาโพสต์ กรุ๊ป ได้ขยายไปสู่การจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ เครื่องใช้ในครัวเรือน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เฟอร์นิเจอร์ รถยนต์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ และยังเพิ่มขายปลีกยา ยาสูบ ฯลฯ เ นอกจากนี้ไชนา โพสต์ยังจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าหลายชุด เช่น China Post Medicine, China Post Health และ China Post Pharmacy
การขยายธุรกิจข้ามขอบเขตของไชนา โพสต์ ซึ่งมีทั้งร้านขายยา ร้านชานม และร้านกาแฟ ไม่ใช่การเลือกสถานที่ใหม่ แต่เป็นการปรับเปลี่ยนที่ทำการไปรษณีย์เดิม ผู้ใช้สามารถสัมผัสกับบริการที่หลากหลาย เช่น การชิมกาแฟและชานม การซื้อของที่ระลึก การเขียนโปสการ์ด และใช้บริการไปรษณีย์ในฉากหลังใหม่
“การดำเนินงานที่หลากหลายของไชนา โพสต์ในภาคธุรกิจต่างๆ จะช่วยดึงดูดกระแสลูกค้าและส่งเสริมธุรกิจหลักของบริษัท เช่น บริการไปรษณีย์ รวมถึงการออมและบริการทางการเงิน กาแฟกำลังกลายเป็นเครื่องดื่มหลักที่เป็นลักษณะทางสังคมที่แข็งแกร่งของผู้บริโภคในจีน ในขณะเดียวกันก็เพิ่มการจ้างงานให้กับสังคมมากขึ้น การเสิมสร้างระบบนิเวศน์และผลประโยชน์ร่วมกันสามารถปรับให้เหมาะสมได้อย่างเหมาะสมตามสภาพท้องถิ่น” ซุน เว่ยนักวิจัยอาวุโสของมหาวิทยาลัยชิงหวา(Tsinghua) กล่าว
จาง เหว่ยหลิน นักวิเคราะห์จาก Lead-Leo Research Institute ซึ่งเป็นผู้ให้บริการวิจัยตลาดกล่าวว่า “การเปิดร้านกาแฟใช้ต้นทุนเริ่มต้นที่ค่อนข้างต่ำและสามารถสร้างผลกำไรขั้นต้นได้สูง ซึ่งช่วยบริษัทต่างๆ ในการสร้างรายได้เสริมได้ค่อนข้างเร็ว จากความต้องการกาแฟที่แข็งแกร่งในหมู่ผู้บริโภครุ่นใหม่ในจีน จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่บริษัทซึ่งไม่ใช่ธุรกิจเครื่องดื่มหลายแห่งขยายธุรกิจของตนเข้าสู่ธุรกิจเครื่องดื่ม”
เป่ยจิงทีอาร์ที กรุ๊ป(Beijing TRT Group) ซึ่งเป็นร้านขายยาจีนที่มีชื่อเสียงมายาวนาน ยังได้เปิดคาเฟ่ฟิวชั่นที่ให้บริการเครื่องดื่มและบริการด้านสุขภาพในกรุงปักกิ่งด้วย โดยมีเป้าหมายเพื่อก้าวทันการเปลี่ยนแปลง ร้านได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภควัยหนุ่มสาว
ธุรกิจกาแฟในประเทศจีนได้รับความนิยมจากนักลงทุนมากขึ้น ในปี 2021 ร้านกาแฟรายใหม่ในประเทศ Manner Coffee และ Nowwa Coffee ได้รับเงินทุนกว่า 100 ล้านหยวน นอกจากนี้ ร้านกาแฟในเครือ M Stand และร้าน กาแฟ Tim Hortons จากแคนาดาที่ดำเนินธุรกิจในจีน ได้รับเงินทุนหลายรอบในปีที่ผ่านมา
ในปี 2021 มีการระดมเงินเกือบ 30 รอบในภาคธุรกิจกาแฟในประเทศจีน และมูลค่าการจัดหาเงินทุนรวมเกิน 17 พันล้านหยวน ซึ่งเป็นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากข้อมูลของเทียนเหยี่ยนฉา
บริษัทยักษ์ใหญ่จำนวนมากได้ข้ามขอบเขตธุรกิจเข้ามาในสนามนี้ด้วย ในปี 2019 ซิโนเปคประกาศข่าวการเปิดร้านกาแฟข้ามพรมแดน ณ สิ้นปี 2020 ซิโนเปก อี้เจี๋ย(Sinopec Yijie) ประกาศจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับร้านอินเตอร์เน็ตคอฟฟี “Lian Coffee” เพื่อขยาย “Easy Coffee” ให้มากขึ้นผ่านช่องทางปั๊มน้ำมัน ในปี 2020 ถงเยิ๋นถัง(Tongrentang) ร้านขายยาอายุกว่าร้อยปีได้เปิดร้านกาแฟยาจีนโบราณ “Zhima Health” ซึ่งถือเป็นการพลิกโฉมค้าปลีกของ ถงเยิ๋นถัง
หลังจากประกาศการเข้าสู่สนามกาแฟอย่างเป็นทางการแล้ว ในปี 2022 ไชนาโพสต์ คอฟฟีจะเปิดร้านกาแฟในที่ทำการไปรษณีย์เฉพาะด้านหลายแห่งในเมืองชั้นนำและเมืองรอง เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว และเสิ่นเจิ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับยักษ์ใหญ่รุ่นเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายปีในการข้ามธุรกิจมาสู่ธุรกิจกาแฟ หลายคนเชื่อว่าบริษัทเหล่านี้เองมีสาขาแบบออฟไลน์ที่ครอบคลุมทุกส่วนของประเทศ และการที่จะก้าวไปธุรกิจบริการอาหารจึงไม่ยาก
ซุน เว่ยกล่าวว่า ไชนา โพสต์มีสาขาจำนวนมาก ขณะที่ค่าเช่าต่ำ และต้นทุนของกาแฟก็ต่ำเช่นกัน ทำให้ไชนา โพสต์ ได้เปรียบด้านต้นทุนตามธรรมชาติในฐานะร้านกาแฟที่มีเครือข่ายสาขา ในขณะเดียวกันก็มีข้อได้เปรียบด้านเงินทุนที่แข็งแกร่งและข้อได้เปรียบของแบรนด์ มีแบรนด์กาแฟของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม จากมุมมองในปัจจุบัน การเปิดร้านชานมและร้านกาแฟ โดยบริษัทที่จัดตั้งขึ้นนั้นถือเป็นกลไกสำคัญแต่หลังจากที่ความนิยมลดลง ร้านยังดึงดูดความสนใจของผู้ซื้อ และกลายเป็นแหล่งผลกำไรใหม่ได้หรือไม่ ยังคงเป็นคำถาม
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
