
วารสารรายเดือน EXIM E-NEWS ปีที่ 16 ฉบับที่ 12 ประจำเดือนธันวาคม 2564 รายงาน กฎหมายการลงทุนฉบับใหม่ของกัมพูชา เพิ่มแม่เหล็กดึงการลงทุนจากต่างประเทศ
รัฐบาลกัมพูชาประกาศใช้กฎหมายการลงทุนฉบับใหม่เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2564 โดยมุ่งหวังให้เป็นกลไกในการเสริมสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการลงทุนเพื่อเป็นแม่เหล็กดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment : FDI) เข้าประเทศเพิ่มขึ้นท่ามกลางกระแสเศรษฐกิจและการลงทุนโลกที่กำลังฟื้นตัวจากวิกฤต COVID-19 เช่นเดียวกับเศรษฐกิจกัมพูชาที่มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง สอดคล้องกับที่ IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจกัมพูชาจะขยายตัวได้เฉลี่ยกว่า 6% ต่อปีในช่วงปี2565-2569 จากที่ขยายตัวราว 1.9% ในปี 2564 จึงนับเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการไทยที่สนใจขยายการลงทุนไปกัมพูชาในการทำความเข้าใจสาระสำคัญของกฎหมายการลงทุนฉบับใหม่เพื่อให้การลงทุนเป็นไปอย่างราบรื่นและสามารถใช้สิทธิประโยชน์จากกฎหมายฉบับใหม่ได้อย่างเต็มที่
กฎหมายการลงทุนฉบับใหม่…เอื้อประโยชน์แก่นักลงทุนมากขึ้น
กฎหมายการลงทุนฉบับใหม่มุ่งตอบโจทย์การเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุนและดึงดูด FDI ให้เพิ่มขึ้น ด้วยการลดระยะเวลาในการขออนุมัติส่งเสริมการลงทุน ตลอดจนการให้สิทธิประโยชน์ที่มากขึ้นสำหรับโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจ ดังนี้
ลดขั้นตอนและเวลาการอนุมัติส่งเสริมการลงทุน
เพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีด้านการลงทุน
กฎหมายใหม่กำหนดสิทธิประโยชน์ทางภาษีด้านการลงทุนแก่โครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุน (Qualified Investment Projects : QIPs) ดังนี้
1) Basic Incentive : สิทธิประโยชน์ทางภาษีพื้นฐานที่โครงการ QIPs จะได้รับ โดยสามารถเลือกรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่สำคัญได้จาก 2 ทางเลือก ดังนี้

2) Additional Incentive : สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการใช้ปัจจัยการผลิตและวัตถุดิบในประเทศ การส่งเสริม R&D การพัฒนาขีดความสามารถของแรงงาน และการส่งเสริมสวัสดิภาพของแรงงาน ดังนี้
3) Special Incentive : สิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับโครงการลงทุนที่มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศโดยจะมีการกำหนดรายละเอียดประเภทของโครงการและสิทธิประโยชน์เฉพาะสำหรับโครงการดังกล่าวในกฎหมายลูกในระยะถัดไป
เพิ่มสาขาธุรกิจ/อุตสาหกรรมที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน
กฎหมายใหม่เพิ่มสาขาธุรกิจ/อุตสาหกรรมที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนเพื่อให้สอดคล้องกับกระแสการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์โลกและนโยบายสนับสนุน SMEs ของรัฐบาล ได้แก่ ธุรกิจพลังงานสะอาดและโครงการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับการลดภาวะโลกร้อน อุตสาหกรรมดิจิทัล ตลอดจนโครงการลงทุนที่มีส่วนสนับสนุนการเติบโตและพัฒนาธุรกิจ SMEs และโครงการลงทุนที่มีส่วนสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมด้วยการใช้นวัตกรรมและ R&D เป็นต้น ซึ่งเพิ่มขึ้นจากกฎหมายฉบับเดิมที่เน้นการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมพื้นฐานของกัมพูชา ได้แก่ เกษตรกรรม อุตสาหกรรมเกษตร อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม และอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก
เพิ่มหลักประกันและการคุ้มครองการลงทุน
กฎหมายใหม่กำหนดให้มีการชดเชยตามกฎหมายและการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาเพิ่มเติมจากข้อบทของกฎหมายเดิม เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน ดังนี้
กฎหมายการลงทุนใหม่…ส่งผลบวกต่อภาคอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจกัมพูชา
การประกาศใช้กฎหมายการลงทุนฉบับใหม่จะส่งผลบวกต่อทิศทางการลงทุน ภาคอุตสาหกรรม และเศรษฐกิจของกัมพูชาอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งเป็นจังหวะที่ดีสำหรับผู้ประกอบการไทยในการใช้โอกาสนี้ขยายธุรกิจไปกัมพูชา
EBA คือสิทธิพิเศษทางภาษีที่ EU ให้กับประเทศพัฒนาน้อยที่สุด (Least Developed Country) ซึ่งรวมถึงกัมพูชา ทำให้กัมพูชาส่งออกไป EU ได้โดยไม่เสียภาษีและไม่มีโควตา ยกเว้นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอาวุธยุทโธปกรณ์
การประกาศใช้ฎหมายการลงทุนฉบับใหม่นับเป็นการเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุนให้ดียิ่งขึ้น และถือเป็นจังหวะที่ดีสำหรับผู้ประกอบการที่กำลังเตรียมพร้อมขยายการลงทุนไปกัมพูชา โดยเฉพาะการใช้กัมพูชาเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกในอุตสาหกรรมที่ผู้ประกอบการไทยมีความเชี่ยวชาญ อาทิ เกษตรแปรรูป อาหารแปรรูป อิเล็กทรอนิกส์ และพลังงานทดแทน เมื่อประกอบกับนโยบายเร่งจัดทำ FTA เพื่อเปิดตลาดใหม่ของกัมพูชาก็จะยิ่งช่วยสนับสนุนศักยภาพในการเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกของกัมพูชา นอกจากนี้ ผู้ประกอบการไทยยังมีโอกาสขยายการลงทุนเพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและความต้องการสินค้าและบริการในกัมพูชาที่กำลังเติบโต อาทิ ก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโลจิสติกส์ เป็นต้น