ThaiPublica > Sustainability > CSR Movement > GC เปิดเส้นทางแห่งความสุข สู่ “ระยอง” อีกโมเดลสร้างชุมชนยั่งยืน

GC เปิดเส้นทางแห่งความสุข สู่ “ระยอง” อีกโมเดลสร้างชุมชนยั่งยืน

16 ธันวาคม 2021


เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC นำโดยอาจารย์เผ่าทอง ทองเจือ ที่ปรึกษาโครงการเส้นทางความสุข ของ GC ได้พาไปเปิดมุมมองใหม่ในจังหวัดระยองที่เหนือความคาดหมาย และเป็นผลจากความพยายามในการสร้างความสัมพันธ์อันดีของ GC กับชุมชนจังหวัดระยองนับสิบปี จนทำให้ GC ได้ค้นพบว่า แต่ละซอกละมุมของจังหวัดระยอง มีขุมทรัพย์มีค่านอกเหนือจากทะเล ผลไม้ เกาะเสม็ด เพราะเต็มไปด้วยวิถีชาวบ้าน งานหัตถกรรม อาหารการกิน โบราณสถาน ตลอดจนศิลปวัฒนธรรมที่ย้อนรอยไปถึงเส้นทางเดินทัพของพระเจ้าตากสิน และยังเป็นแหล่งต่อเรือสำคัญในยุคจักรพรรดิเฉียงหลง โดยยุคนั้นเรือที่ต่อจากสยามจะได้รับการลดภาษีเป็นพิเศษ เพราะเป็นเรือที่ต่อด้วยไม้สักที่หาไม่ได้ในจีน

นอกจากนี้ ยังมีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รัชกาลที่ 9 ที่ทรงพัฒนาอ่างเก็บน้ำดอกกราย ในพื้นที่อำเภอปลวกแดง เพื่อส่งน้ำให้ประชาชนในพื้นที่ทำการเกษตร และปัจจุบันกลายเป็นแหล่งน้ำวัตถุดิบสำคัญในการผลิตน้ำประปาป้อนเขตโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่บริเวณโดยรอบ โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง ได้ทำการต่อยอดโครงการพระราชดำริดังกล่าว จนกลายเป็นศูนย์กลางอาชีพการเกษตรให้กับชุมชน

อาจารย์เผ่าทองได้เรียงร้อยขุมทรัพย์ของจังหวัดระยองทั้งหมดนี้ เป็น “เส้นทางแห่งความสุข” เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยว และแหล่งเรียนรู้ใหม่ ๆ สำหรับนักเดินทางจากทุกแห่งทั้งในไทยและต่างประเทศ

เส้นทางความสุขสายแรก ต้องบอกว่าที่น่าทึ่งที่สุดในทริปนี้ คือ “วิสาหกิจชุมชนกลุ่มลุฟฟาลา” ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและน้ำมันหอมระเหย แบรนด์ LUFFALA ที่ได้รับรางวัล OTOP ระดับ 4 ดาว คือ นอกจากเป็นสินค้าคุณภาพแล้ว ยังมีศักยภาพพร้อมส่งออกต่างประเทศ และเคยถูกนำไปใช้ในชั้นบิสสิเนสคลาสของการบินไทย โดยพื้นที่ตั้งอยู่ในวัดหนองแฟบ ผ่านประตูวัดไปไม่ถึง 50 เมตร จะพบอาคารชั้นเดียวที่ภายในจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ LUFFALA ด้วยการจัดวางพื้นที่ในรูปแบบโมเดิร์น เข้ากับคอนเซปต์ของผลิตภัณฑ์

ผลิตภัณฑ์ของ LUFFALA

สาเหตุที่วิสาหกิจนี้ตั้งอยู่ในวัด เพราะจุดเริ่มต้นมาจากเจ้าอาวาสวัดที่ริเริ่มให้หญิงชาวบ้านมารวมตัวกันสร้างอาชีพ และต่อมา GC ได้นำคณาจารย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต รวมถึงนักวิจัยของ GC มาให้ความรู้ด้านการผลิตและบรรจุภัณฑ์ โดยใช้สารสกัดจากธรรมชาติเป็นวัตถุดิบหลัก เช่น มะขาม ผักบุ้งทะเล มังคุด เร่ว ที่ส่วนใหญ่ได้มาจากพื้นที่ป่าห้วยมะหาด ที่ GC เข้าไปฟื้นฟูสภาพภูเขาที่เดิมมีแต่หินจนกลายเป็นป่าต้นน้ำขึ้นมาเหมือนในอดีต โดยสารสกัดจากธรรมชาติตัวล่าสุดที่นำมาต่อยอดผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมิคัล ของ GC คือ Green Solvent ที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตน้ำหอมที่ช่วยให้กลิ่นกระจายตัวได้นาน ซึ่ง LUFFALA นำมาผลิตผลิตภัณฑ์หอมระเหย เหมาะสำหรับยุคโควิด-19 ที่ต้องทำงานที่บ้าน

เส้นทางความสุขต่อมา คือ วัดบ้านแลง โดยโบสถ์จะมีชายตาพาไลพาดเฉียงออกมา ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของวัดสมัยอยุธยาตอนปลาย หน้าบันด้านหน้าและด้านหลังและเหนือช่องหน้าต่างประดับด้วยเครื่องปั้นดินเผาทั้งที่เป็นเครื่องลายคราม จากจีน บางชิ้นเป็นเครื่องเบญจรงค์ รวมทั้งมีร่องรอยการซ่อมแซมสมัยรัตนโกสินทร์ แสดงว่าเป็นวัดที่มีการดูแลซ่อมแซมโดยตลอด

จุดเด่นอีกอย่างคือ เป็นวัดที่สีมา 2 แบบ คือ พัทธสีมา หรือสีมาบนบก และยังมีการขุดสระล้อมรอบโบสถ์ เรียก นทีสีมา หรือ อุทกสีมา นอกจากนี้ ตัวโบสถ์เป็นผนังทึบตัน มีช่องทางเข้าออกเฉพาะประตูด้านหน้าแห่งเดียว แบบที่เรียกว่า โบสถ์มหาอุด ที่มีความเชื่อว่าเหมาะสำหรับพิธีสร้างเครื่องลางของขลัง ที่สำคัญ คือเป็นวัดที่คงรูปแบบวัดดั้งเดิมตั้งแต่สมัยอยุธยา คือการสร้างหอไตรกลางน้ำ ที่เดิมไม่มีสะพานเชื่อม เพื่อป้องกันมดปลวกมาทำลายพระไตรปิฏก ปัจจุบันมีการซ่อมแซมและสร้างสะพานเชื่อมขึ้น

เส้นทางความสุขอีกสาย ถือเป็น unseen ของจังหวัดระยองจริง ๆ คือ สวนพฤกษศาสตร์ระยอง แหล่งอนุรักษ์พันธ์พืชในพื้นที่ชุ่มน้ำและพรรณไม้ท้องถิ่น มีความแตกต่างจากสวนพฤกษศาสตร์จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีสะพานไม้เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติเหนือเรือนยอดไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยระยะทางกว่า 500 เมตร ขณะที่สวนพฤกษศาสตร์ระยอง เป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่พื้นที่กว่า 1,000 ไร่ ต้องนั่งเรือไปชมพื้นที่ ที่เต็มไปด้วยพืชน้ำหลากชนิดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน อย่าง สาหร่ายบัวบา สาหร่ายข้าวเหนียว ต้นกระจูดที่ใช้จักสานภาชนะ ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง แนวดอกบัวยาว 200 เมตร เป็นต้น โดยสวนแห่งนี้จะมีความแตกต่างไปในแต่ละฤดู ที่น่าสนุกที่สุด คือหน้าฝน ที่น้ำจะท่วมพื้นที่ไปหมด แต่ก็ยังเดินท่องน้ำเที่ยวได้ในระดับน้ำสูงประมาณหัวเข่า หรือจะพายเรือคยัคเที่ยวชมได้

ดอกสีขาวคือสาหร่ายบัวบา
ดอกสีเหลืองคือสาหร่ายข้าวเหนียว
แพหญ้าหนังหมา
สวนเสม็ดขาวโบราณ

โดยจุดที่เป็นไฮไลท์ของสวนนี้ จะมี 2 จุด จุดแรก คือ แพหญ้าหนังหมา เป็นหญ้าที่ขึ้นเฉพาะที่นี่และทับถมมานานจนสูงกว่า 80 เซ็นติเมตร ถึง 1 เมตรเศษ กลายเป็นแพหญ้าเหนือพื้นน้ำที่แน่น หยุ่น จนลงไปเดินเล่นได้ อีกจุดคือ ป่าเสม็ดขาวโบราณ เป็นแหล่งพันธ์เสม็ดขาดที่เหลือเพียงแห่งเดียว ที่อื่นรวมถึงบนเกาะเสม็ดจะเป็นเสม็ดแดงหมด โดยเปลือกเสม็ดขาวจะบางราวกระดาษ โบราณนำมาเป็นส่วนผสมในการทำคบไฟ ใบเสม็ดขาวนำมาทำน้ำมันหอมระเหยที่มีกลิ่นหอมอ่อน สดชื่น

พื้นที่นี้ยังเปิดให้ชาวบ้านโดยรอบเข้ามาจับสัตว์น้ำในรูปของประมงชาวบ้าน เก็บต้นกระจูด หรือพืชอื่น ๆ เพื่อใช้เลี้ยงชีพได้ ส่งผลให้ชาวบ้านรักและสงวนพื้นที่แห่งนี้มาก โดยเฉพาะกลุ่มจักสานกระจูดที่ได้วัตถุดิบหลักจากพื้นที่นี้ นำไปจักสานผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ และกลายเป็นอีกเส้นทางความสุขอีกเส้นหนึ่ง คือ กลุ่มจักสานกระจูดมาบเหลาชะโอน (www.bankawee.com) ที่สร้างรายได้ให้สมาชิกได้เดือนละหลายพันบาทไปจนถึง 2-3 หมื่นบาท

ต้นกระจูด
การสานกระจูด
ผลิตภัณฑ์จักสานจากต้นกระจูด

เดินทางจนเหนื่อย เป้าหมายต่อไปคือร้านอาหาร เส้นทางความสุขครั้งนี้ พาไปร้านใบชะมวง ตั้งอยู่ภายในวิทยาลัยเทคนิคระยอง ที่นี่ GC ได้นำวัตถุดิบสำหรับการปรุงอาหาร ไม่ว่าจะเป็น กุ้ง หอย ปู ปลา ใบชะมวง ฯลฯ มาให้เชฟ ชุมพล แจ้งไพร เชฟที่ได้ชื่อว่าสามารถดึงรสชาติเฉพาะตัวของวัตถุดิบและสมุนไพรไทยชนิดต่างๆ นำมารังสรรค์เป็นอาหาร เพื่อสร้างเมนูพื้นถิ่นของระยองขึ้น จนได้ เส้นแกลงผัดทะเล สังเกตุว่า ที่นี่ไม่ใช่เส้นจันทน์ ของจังหวัดจันทบุรี เพราะระยองมี เส้นแกลง ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่เมื่อได้ลิ้มลองแล้วจะรู้ถึงความแตกต่างจากเส้นจันทน์ ยังมีน้ำพริกไข่ปูกุ้งสะเออะ ที่แนมผักสดนานาชนิด อร่อยจนหยุดไม่ได้ หรือทะเลผักพริกขี้หนูสวน ปลาทอดน้ำปลา ที่พอเข้าปากแล้ว จะรู้สึกถึงความสด ใหม่ ไร้กลิ่นสาบ หรือคาว ที่เด็ดสุด คือ หมูชะมวง ที่เคี่ยวหมูจนเปื่อยได้ที่ น้ำแกงเข้มข้นรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบทุกรส ตามด้วยน้ำข้าวกล้องคั่ว ที่นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคระยองลงมือคั่วข้าวกล้องเอง ทำให้น้ำมีความหอมละมุน แต่ขอบอกก่อนว่า ใครที่อยากลิ้มลองอาหารร้านนี้จะต้องรอไปหลังปีใหม่ เพราะช่วงนี้ปิดเพื่อป้องกันโควิด

นอกจากนี้ ถ้าใครชอบอาหารทะเล อาจารย์เผ่าทอง ผู้ชอบตระเวนกิน ได้แนะนำ ร้านครัวประมง ที่เสิร์ฟอาหารซีฟู้ดพื้นบ้าน แต่อร่อยระดับชาติ ด้วยวัตถุดิบสดใหม่ รวมทั้งที่ตั้งร้านจะลึกลับหน่อย เพราะอยู่ในซอยข้างโรงแรมหินสวยน้ำใส บนถนนเส้น 3145 ก่อนจะเข้าร้านดูชื่อร้านให้แน่ใจก่อนว่า เป็น ครัวประมง เพราะถ้าเข้าร้านผิดที่อยู่ใกล้เคียง อาจไม่ได้ทานของอร่อยก็ได้

ทั้งหมดนี้เป็นเส้นทางความสุขในจังหวัดระยอง ที่ยังมีอีกมากมายหลายแห่งจนเล่าได้ไม่หมด ทาง GC และอาจารย์เผ่าทอง เลยใช้วิธีอัดคลิป 52 คลิป นำมาออกช่อง YOUTUBE และเฟซบุ๊ก เปิดตำนานกับเผ่าทอง ทองเจือ ออกอากาศทุกวันศุกร์ ที่มีทั้งการเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ ๆ รวมทั้งแนะนำร้านค้าต่าง ๆ ที่เข้าไม่ถึงการค้าออนไลน์ เป็นการร่วมสร้างความสุขให้กับคนต่างพื้นที่ที่เข้ามาเที่ยวระยอง รวมทั้งสร้างความสุขให้คนในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน

“เราทำเต็มที่ แม้จะไม่กล้าจะพูดว่าเราสร้างระยองโมเดล แต่ก็อดภูมิใจลึก ๆ ไม่ได้ว่า สิ่งที่เราทำเป็นระยองโมเดลจริง ๆ ถ้าเอกชนรายใดสามารถลงพื้นที่ลึก ๆ ได้ในจังหวัดที่ตั้งกิจการอยู่ แล้วเอากำไรมาช่วย ทำแบบกระจายไปทั่วประเทศ เศรษฐกิจสังคมในพื้นที่นั้นก็น่าจะดีขึ้น” อาจารย์เผ่าทอง กล่าว