ThaiPublica > Sustainability > Headline > บจ.ไทยเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจยั่งยืน คะแนน CG สูงสุดรอบ 21 ปี

บจ.ไทยเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจยั่งยืน คะแนน CG สูงสุดรอบ 21 ปี

26 ตุลาคม 2021


บจ. ไทย ทำคะแนนประเมิน CG สูงสุดรอบ 21 ปี และเตรียมพร้อมเกณฑ์ใหม่ยกระดับ CG ไทย เพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน

26 ตุลาคม 2564 – สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) โดยการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เผยผลสำรวจคะแนน CGR ประจำปี 2564 ของบจ.ไทย 716 บริษัท โดยมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 84% ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่เริ่มทำการประเมินคะแนน CGR ในปี 2544 โดยเพิ่มขึ้นจากเฉลี่ย 83%ในปี 2563 (692 บริษัท) และพบว่า บจ. ไทยมีแนวโน้มให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยมีคะแนนเฉลี่ยสูงขึ้นในหมวดสิทธิของผู้ถือหุ้น การคำนึงถึงบทบาทของผู้มีส่วนได้เสีย และหมวดความรับผิดชอบของคณะกรรมการ อีกทั้งมีพัฒนาการที่ดีขึ้น อาทิ การฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพของพนักงาน การให้ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม และการเข้าประชุมของคณะกรรมการ ซึ่งเป็นไปตามหลักการใน CG Code และสอดคล้องกับความคาดหวังของนักลงทุน

หากพิจารณาคะแนนเฉลี่ยรายหมวดของผลสำรวจในปี 2564 พบว่าหมวดที่ได้รับคะแนนเฉลี่ยตั้งแต่ 80%ขึ้นไปมี 4 หมวด ได้แก่ หมวดสิทธิของผู้ถือหุ้น การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส และการคำนึงถึงบทบาทของผู้มีส่วนได้เสีย ซึ่งมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 95%, 93%, 87% และ 84% ตามลำดับ ส่วนหมวดความรับผิดชอบของคณะกรรมการ แม้จะยังได้รับคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 77% แต่มีพัฒนาการที่ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่ดี

จากผลการสำรวจ ยังพบว่ามีบริษัทจดทะเบียนที่มีคะแนนเฉลี่ยตั้งแต่ 80% หรือได้สี่ดาวขึ้นไปรวม 528 บริษัท โดยแบ่งเป็นบริษัทที่ได้รับคะแนน 80-89% (สี่ดาว) 260 บริษัท คิดเป็น 36% และบริษัทที่ได้รับคะแนน 90%ขึ้นไป (ห้าดาว) 268 บริษัท คิดเป็น 37%ของบริษัทที่ทำการสำรวจ ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนที่ได้ห้าดาว เพิ่มขึ้นจาก 240 บริษัท ในปี 2563 เป็น 268 บริษัท ในปี 2564 เพิ่มขึ้น 28 บริษัท คิดเป็น 11%

นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานกรรมการสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) และประธานคณะกรรมการแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย กล่าวว่า “บริษัทจดทะเบียนไทยมีพัฒนาที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในการประเมิน CGR โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในปีนี้ มีคะแนนเฉลี่ยสูงสุดในรอบ 21 ปี ซึ่งสะท้อนถึงความร่วมมือของบริษัทจดทะเบียนในการขับเคลื่อนการกำกับดูแลกิจการเพื่อยกระดับการพัฒนา CG ในประเทศ ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่ดีในการกำกับดูแลกิจการเพื่อช่วยให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืนและสอดคล้องกับความคาดหวังของนักลงทุน”

อีกทั้ง ในปีนี้ ได้มีการปรับปรุงเกณฑ์ CGRเพื่อยกระดับการกำกับดูแลกิจการ โดยหลักเกณฑ์ใหม่ยังคงสอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการของ OECD และสอดคล้องกับ SET CG Principle/ Guideline, CG Code, ASEAN CG Scorecard และ 56-1 One Report ซึ่งถือเป็น new benchmark ของการกำกับดูแลกิจการในประเทศไทย”

นางศิรินันท์ กิตติเวทางค์ รองกรรมการผู้อำนวยการ IOD กล่าวว่า “ตลอดปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าการดำเนินธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว องค์กรต้องปรับตัวให้ทันกับความท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเด็นในการกำกับดูแลกิจการในบริบทที่เปลี่ยนไป รวมถึงแนวโน้มของการให้ความสำคัญกับประเด็นความยั่งยืนที่มากขึ้น ทำให้บทบาทของการกำกับดูแลกิจการจำเป็นต้องครอบคลุมเรื่อง Environment, Social และ Governance (ESG) จึงเป็นที่มาในการปรับหลักเกณฑ์ CGR เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับและกำหนดทิศทางการปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนไทยให้ก้าวไปสู่การพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ จะเริ่มใช้หลักเกณฑ์ CGR ใหม่ในการประเมินปี 2566 ซึ่งเป็นการประเมินจากการเปิดเผยข้อมูลจากผลการดำเนินงานปี 2565 โดยจะมีการเตรียมความพร้อมและเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจของบริษัทจดทะเบียนสำหรับหลักเกณฑ์ใหม่ ซึ่งถือเป็นบทบาทของ IOD ในการสนับสนุนการพัฒนาองค์กรเพื่อความยั่งยืน”

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า “บริษัทจดทะเบียนไทยมีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้ผลการประเมิน CGR ตั้งแต่ระดับ 4 ดาวขึ้นไปมีจำนวน 528 บริษัท คิดเป็น 74% ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด สะท้อนถึงความเข้มแข็งและให้ความสำคัญในการกำกับดูแลกิจการในระดับที่สูง ซึ่งที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ยกระดับคุณภาพการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนผ่านโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทจดทะเบียนมีความพร้อมที่จะพัฒนาต่อยอดความยั่งยืนของธุรกิจในยุค ESG Disclosure”

ในอนาคตจะสามารถเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนทั้งในเชิงกว้างและเชิงลึกได้เพิ่มขึ้นผ่านมาตรฐานใหม่ใน 56-1 One Report ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ สำนักงาน ก.ล.ต. และ IOD จะร่วมออกแบบ New CGR ซึ่งเป็นการยกระดับการวัดความยั่งยืนของธุรกิจไปอีกขั้นหนึ่ง โดยจะเริ่มวัด New CGR ในปี 2566 ซึ่งจะเป็นพัฒนาการครั้งสำคัญอีกครั้งของตลาดทุนไทย

ทั้งนี้ การส่งเสริมบริษัทจดทะเบียนให้ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เป็นหนึ่งในภารกิจการพัฒนาตลาดทุนให้เป็นประโยชน์แก่ทุกภาคส่วน ตามวิสัยทัศน์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ “To Make the Capital Market ‘Work’ for Everyone”