
คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ National Health Commission (NHC) รายงานข้อมูลว่า ณ วันที่ 19 มิถุนายน 2564 จีนฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ไปแล้วกว่า 1,000 ล้านโดส และถือเป็นการฉีดวัคซีนให้ประชาชนในวงกว้างมากที่สุดในประวัติศาสตร์
นับตั้งแต่เดือนมีนาคม การขับเคลื่อนการฉีดวัคซีนมีความคืบหน้าอย่างรวดเร็ว โดยสามารถฉีดได้ 100 ล้านโดสภายใน 5 วัน และภายใน 25 วันฉีดวัคซีนเพิ่มเป็น 200 ล้านโดส จากนั้นอีก 16 วันการฉีดวัคซีนได้เพิ่มขึ้นจาก 200 ล้านโดสเป็น 300 ล้านโดส และใช้เวลาเพียง 6 วันฉีดวัคซีนได้เพิ่มจาก 800 ล้านโดสเป็น 900 ล้านโดส
เจิง อี้ซิน รองประธาน NHC กล่าวว่า การที่ฉีดวัคซีนได้จำนวนมากทั่วประเทศ แสดงให้เห็นว่าวัคซีนของจีนมีความปลอดภัย และชี้ว่า การเกิดผลข้างเคียงและอาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของการฉีดวัคซีนหลายประเภทในการฉีดวัคซีนตามปกติในปี 2019
นอกจากนี้ยังคาดว่า 70% ของประชากรส่วนใหญ่จะได้รับการฉีดวัคซีนภายในสิ้นปีนี้
ในปีที่แล้ว จีนมีการทดลองทางคลีนิคของวัคซีนโควิด-19 จำนวน 21 ยี่ห้อ แต่มี 4 ยี่ห้อที่ได้รับการอนุมัติอย่างมีเงื่อนไข และ 3 ยี่ห้อได้รับอนุมัติให้ใช้แบบฉุกเฉินในประเทศ

ในเมืองไห่จู ที่กว่างโจว เมืองหลวงมณฑลกวางตุ้ง มีศูนย์ฉีดวัคซีนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง โดยมีโต๊ะฉีด 21 โต๊ะ และมีประชาชนเข้ามารับการฉีดวัคซีนเฉลี่ยวันละ 8,000 คน และสามารถรองรับการฉีดวัคซีนได้มากถึง 10,000 คนภายในหนึ่งวัน
หยาง ฮุยเหยียน หัวหน้าพยาบาลที่รับผิดชอบศูนย์นี้กล่าวว่า ได้มีการดำเนินการร่วมกันเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ เพราะวัคซีนมีประโยชน์กับทุกคนจึงต้องร่วมกัน โดยมีโรงพยาบาล 9 แห่งในเมืองได้ส่งเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์มาช่วยเหลือในการฉีดวัคซีน
เจิง ซิ่วหมิง พนักงานการตลาดบริษัทในเมืองแห่งหนึ่ง ซึ่งเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในบ่ายวันเสาร์ กล่าวว่า งานที่ทำต้องมีการพบปะผู้คนจำนวนมาก การฉีดวัคซีนทำให้สบายใจมากขึ้น
ณ วันเสาร์ มณฑลกวางตุ้งได้ฉีดวัคซีนให้ประชาชนไปแล้วราว 66.7 ล้านคนจากการแจกจ่ายวัคซีนรวม 99.23 ล้านโดส ซึ่งหลายคนได้รับเข็มที่ 2 ไปแล้ว
การฉีดวัคซีนทั่วประเทศของจีนเป็นการฉีดให้ประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยคนสูงวัยที่มีอายุมากที่สุดที่ได้รับวัคซีน คือ มากว่า 100 ปี
ส่วนศูนย์ฉีดวัคซีนที่เสิ่นหยาง เมืองหลวงของมณฑลเหลียวหนิง ส่วนใหญ่ผู้ที่มาฉีดวัคซีนเป็นคนสูงวัย
จีนยังอนุมัติให้ใช้วัคซีนเชื้อตายที่ผลิตในประเทศเป็นกรณีฉุกเฉินกับเด็กวัย 3-17 ปี ภายใต้สถานการณ์พิเศษ โดยมีกรอบแนวปฏิบัติอย่างละเอียด

ปัจจุบันวัคซีนของจีนที่ได้รับอนุมัติให้ใช้แบบฉุกเฉินจากองค์การอนามัยโลก (World Health Organization) มี 2 ยี่ห้อด้วยกัน และจีนได้แจกจ่ายวัคซีนไปแล้วทั่วโลกกว่า 350 ล้านโดส โดยเป็นการบริจาคให้กว่า 80 ประเทศและส่งออกไปกว่า 40 ประเทศ
เหมา จวิ้นเฟิง เจ้าหน้าที่จากกระทรวงอุตสาหกรรมและไอที กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทของจีน 3 รายได้ร่วมกันผลิตวัคซีนกับ 8 ประเทศ และกำลังหารือกับอีก 10 ประเทศ
นพ.ซ่ง หนานชาน นักระบาดวิทยาที่มีชื่อเสียงของจีนกล่าวว่า “วัคซีนของจีนมีบทบาทมากขึ้น เพราะจีนมีเป้าหมายที่จะทำให้วัคซีนเป็นสินค้าสาธารณะของโลก”