ThaiPublica > เกาะกระแส > ผู้เชี่ยวชาญโรคระบาดสหรัฐฯกว่า 700 คน คาดการณ์ “เมื่อไหร่ชีวิตจะกลับมาปกติ”

ผู้เชี่ยวชาญโรคระบาดสหรัฐฯกว่า 700 คน คาดการณ์ “เมื่อไหร่ชีวิตจะกลับมาปกติ”

16 พฤษภาคม 2021


รายงานโดย ปรีดี บุญซื่อ

ที่มาภาพ : asia.nikkei.com

หนังสือพิมพ์ New York Times รายงานผลการสำรวจความเห็นของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคระบาดของสหรัฐฯ (Epidemiologist) จำนวน 723 คน ที่ระบุว่า แม้จำนวนคนติดเชื้อโควิด-19 จะลดลง การสวมหน้ากากอนามัยอาจไม่จำเป็นในบางพื้นที่ แต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังไม่หมดสิ้นไป จนกว่าเด็กและเยาชนจะได้รับการฉีดวัคซีน

เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2021 ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาด (Centers for Disease Control and Prevention – CDC) ได้ออกแนวปฏิบัติว่า คนอเมริกันที่ได้รับการฉีดวัคซีนจนครบ สามารถกลับมาทำกิจกรรมเดิม ก่อนหน้าจะเกิดการแพร่ระบาด โดยไม่ต้องใส่หน้ากาก หรือการเว้นระยะห่างทางสังคม ยกเว้นบางกรณี เช่นในสำนักงานแพทย์ หรือขนส่งสาธารณะ หากเดินทางภายในสหรัฐฯ ก็ไม่จำเป็นต้องทำการตรวจเชื้อก่อนหรือหลังการเดินทาง หรือว่าไม่ต้องกักตัวเองหลังการเดินทาง

หน้ากากอนามัยยังจำเป็นอีก 1 ปี

แนวปฏิบัติของ CDC สร้างความประหลาดใจแก่บรรดาผู้เชี่ยวชาญโรคระบาดสหรัฐฯ จากการสำรวจของ New York Times 80% ของพวกเขาเห็นว่า คนอเมริกันยังต้องสวมหน้ากากอย่างน้อยอีก 1 ปี เมื่ออยู่ในพื้นที่ภายในอาคารสาธารณะ ส่วนในพื้นที่โล่งที่มีคนอยู่แออัด เช่น การแสดงคอนเสิร์ต หรือการชุมนุมประท้วง 88% ของผู้เชี่ยวชาญโรคระบาดบอกว่า ยังจำเป็นต้องสวมหน้ากาก แม้ว่าจะฉีดวัคซีนครบแล้วก็ตาม

แต่บรรดาแพทย์เชี่ยวชาญโรคระบาดก็ยอมรับว่า แนวทางปฏิบัติของ CDC ไปไกลกว่าความเห็นของผู้เชี่ยวชาญโรคระบาด เพราะความเห็นของ CDC อาจขึ้นอยู่กับเป้าหมายหลายอย่าง เช่น การกระตุ้นให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจ หรือการสร้างแรงจูงใจให้คนอเมริกันเข้ามารับการฉีดวัคซีน

ที่มาภาพ : https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/8/84/Pharmacy_vaccinations_%282021%29.jpg/1024px-Pharmacy_vaccinations_%282021%29.jpg

บรรดาแพทย์เชี่ยวชาญโรคระบาดกล่าวว่า ตราบใดที่โควิด-19 ยังมีการแพร่ระบาด การสวมหน้ากากยังเป็นสิ่งจำเป็น ทั้งนี้เพื่อปกป้องกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูง และกลุ่มคนที่ยังไม่สามารถฉีดวัคซีน เช่น เด็กและคนมีโรคประจำตัว หน้ากากจึงจะยังจำเป็นจนว่าการติดเชื้อในชุมชนจะอยู่ในระดับที่ต่ำ

Julia Raifman จากมหาวิทยาลัย Boston กล่าวว่า “หน้ากากอนามัยเป็นมาตรการป้องดีที่สุดอันดับ 2 รองจากวัคซีน”

เมื่อไหร่ชีวิตจะกลับมาปกติ

รายงานของ New York Times ระบุว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะสิ้นสุดอย่างแท้จริง คนทุกคนสามารถกลับมาทำกิจกรรมได้ตามปกติ โดยไม่ต้องมีมาตรการป้องกัน ก็เมื่ออย่างน้อย 70% ของคนอเมริกันในทุกช่วงอายุ ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ขณะนี้ เยาวชนเริ่มได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว แต่เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ยังไม่ได้รับการอนุมัติเรื่องการฉีดวัคซีน

David Celentano หัวหน้าฝ่ายโรคระบาดวิทยา มหาวิทยาลัย John Hopkins กล่าวว่า เด็กคือกุญแจสำคัญที่จะยุติการแพร่ระบาด ผู้เชี่ยวชาญโรคระบาดมีทัศนะในด้านบวกที่เห็นว่า ในที่สุดแล้ว การสิ้นสุดลงของการแพร่ระบาดจะเกิดขึ้น แต่อาจไม่รวดเร็วเหมือนกับที่คนอเมริกันตั้งความหวังไว้

ผู้เชี่ยวชาญโรคระบาดคาดว่า ภายใน 5 ปี โควิด-19 จะเหมือนกับไข้หวัดใหญ่ คือแต่ละปีจะมีการแพร่ระบาดในระดับต่ำ และในบางกรณีจะมีการเสียชีวิต แต่จะไม่เป็นวิกฤติทางสาธารณสุข จนถึงกับทำให้ต้องมีการล็อกดาวน์

Gretchen Bandoli จากมหาวิทยาลัย California, San Diego กล่าวว่า “รู้สึกว่ามีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เรามีเครื่องมือที่จะไปสู่จุดนั้น และรู้สึกว่าสิ่งนี้เราสามารถเอื้อมมือไปถึง”

ผลการสำรวจ 85% ของผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ในวันชาติสหรัฐฯ 4 กรกฎาคมนี้ คนอเมริกันสามารถรวมตัวกันได้อย่างปลอดภัย ในฤดูใบไม้ผลินี้ โรงเรียนจะสามารถเปิดเรียนได้เต็มที่ และครอบครัวจะชุมนุมสังสรรค์อย่างปลอดภัย ในช่วงเทศกาลฤดูหนาว

ที่มาภาพ : https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/e/eb/Kamala_Harris_getting
_her_second_COVID-19_vaccination

ชีวิตจะคืนสู่ปกติได้อย่างไร

ผู้เชี่ยวชาญโรคระบาดส่วนใหญ่มีทัศนะว่า การรณรงค์ให้คนอเมริกันมาฉีดวัคซีน จะยังยุติลงไม่ได้ จนกว่าเด็กจะได้รับการปกป้องเช่นเดียวกัน แม้ว่าอาการที่รุนแรงจะมีโอกาสเกิดขึ้นในเด็กน้อยกว่าผู้ใหญ่ แต่ผู้เชี่ยวชาญโรคระบาดเห็นว่า

ภูมิคุ้มกันของเด็กมีความสำคัญ เพราะเด็กสามารถเป็นแหล่งพักของไวรัส ทำให้ไวรัสสามารถแพร่ระบาด หรือว่ากลายพันธุ์ขึ้นมาได้

ประเด็นเรื่องการประเมินว่า อะไรคือสิ่งที่จะบ่งชี้ว่า การแพร่ระบาดอย่างรุนแรงได้หมดสิ้นไปแล้ว ผู้เชี่ยวชาญโรคระบาดกล่าวว่า การฉีดวัคซีนมีความหมายมากกว่าตัวชี้วัดอื่นๆ เช่น จำนวนคนติดเชื้อใหม่ การเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล หรือการเสียชีวิต เพราะมาตรการฉีดวัคซีน จะทำให้ตัวชี้วัดดังกล่าวลดน้อยลงไป แต่ถึงวันนี้ มีคนอเมริกันแค่ 36% ที่ฉีดวัคซีนครบ

ส่วนปัจจัยที่เป็นอุปสรรคทำให้โควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดอยู่ต่อ 38% ของผู้เชี่ยวชาญโรคระบาดบอกว่า คือ การลังเลที่จะฉีดวัคซีน 24% เห็นว่าคือปัญหาการกลายพันธุ์ของไวรัส 22% คือเรื่องสาธารณสุขกลายเป็นประเด็นการเมือง และ 11% บอกว่าคือการกลับไปมีพฤติกรรมก่อนการแพร่ระบาดของไวรัส ที่รวดเร็วเกินไป

ผู้เชี่ยวชาญโรคระบาดกล่าวว่า แม้การระบาดของโควิด-19 ลดต่ำลงมาในระดับ ที่ทำให้กิจกรรมต่างๆ สามารถกลับมาดำเนินการได้ตามปกติมากขึ้น แต่ก็มีบางด้านของการใช้ชีวิตในช่วงการแพร่ระบาด ที่จะยังดำเนินต่อไปนานมากขึ้น โดยเฉพาะการสวมหน้ากากอนามัย จะเป็นแนวการปฏิบัติที่ยังดำเนินต่อไป แม้ทัศนะดังกล่าวจะขัดกับข้อแนะนำของ CDC

ผู้เชี่ยวชาญกว่า 80% เห็นว่า อย่างน้อยเป็นเวลาอีก 1 ปี ประชาชนควรจะสวมหน้ากาก เมื่ออยู่ในอาคารกับคนแปลกหน้า หรืออยู่ในที่โล่งกับฝูงชน

ที่มาภาพ : https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/c/c0/Covid-Vaccine-31_%2850752381423%29.jpg/1620px-Covid-Vaccine-31_%2850752381423%29.jpg

ผู้เชี่ยวชาญยังอยากเห็น แนวการปฏิบัติดีๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงกระทำกันต่อไป เช่น การเดินทางไปทำงานน้อยลง บริการส่งของจากร้านชำ บริการส่งอาหารของร้านอาหาร และการใช้บริการทางแพทย์ผ่านโทรศัพท์ สำหรับการนัดหมายสุขภาพปกติ หรือสิ่งที่คนทั่วไปปฏิบัติ เช่น ไม่ไปทำงานเมื่อป่วย หลีก เลี่ยงการจับมือ หรือเป่าเทียนเค้กวันเกิด เป็นต้น

เอกสารประกอบ
Hundreds of Epidemiologists Expected Mask-Wearing in Public for at least a Year, May 13, 2021, nytimes.com
723 Epidemiologists on When and How the US Can Fully Return to Normal, May 15, 2021, nytimes.com