ThaiPublica > เกาะกระแส > ถอดรายงานสถานการณ์เมียนมา จาก CNN สื่อต่างชาติเข้าประเทศรายแรก

ถอดรายงานสถานการณ์เมียนมา จาก CNN สื่อต่างชาติเข้าประเทศรายแรก

6 เมษายน 2021


ที่มาภาพ: แคปจากวิดีโอ https://edition.cnn.com/videos/world/2021/04/05/myanmar-protests-army-ward-intl-ldn-vpx.cnn/video/playlists/around-the-world/

หลังจากมีกระแสข่าวว่า สำนักข่าว CNN จากสหรัฐฯเป็นสื่อต่างชาติเพียงรายเดียวที่ได้รับอนุญาตจากกองทัพเมียนมาให้เข้าไปรายงานข่าวสถานการณ์พร้อมสัมภาษณ์ผู้นำกองทัพและบุคคลสำคัญในสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อวานนี้(5 เมษายน 2564) Chief International Correspondent Clarissa Ward ได้รายงานสดจากเมียนมา ผ่าน CNN Exclusive

สำนักข่าว CNN เกริ่นก่อนเข้ารายการ CNN Live from Myanmar as Millitary crackdown intensifies ว่า คลาริสสา วอร์ด หัวหน้าข่าวต่างประเทศ (Chief International Correspondent) จะรายงานเกี่ยวกับการประท้วงที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศเมียนมา ทั้งนี้ CNN เข้า
เมียนมาด้วยการอนุญาตของกองทัพ และทีมข่าวมีผู้ติดตามตลอดการทำงาน

ที่มาภาพ: แคปจากวิดีโอ https://edition.cnn.com/videos/world/2021/04/05/myanmar-protests-army-ward-intl-ldn-vpx.cnn/video/playlists/around-the-world/

ผู้ประกาศ: ทำไมคุณต้องไปที่นั่น
วอร์ด: ตอบคำถามด้วยการนำย้อนกลับไปว่า เมื่อ 2 เดือนก่อนกองทัพได้ยึดอำนาจและจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย หลังจากพ่ายแพ้การเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนแบบเสียหน้า การยึดอำนาจได้ทำให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่และขยายวงกว้างไปทั่วประเทศ พูดกันง่ายๆก็คือ กองทัพไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชน และการประท้วงลุกลามมากขึ้น ประชาชนโกรธแค้นการยึดอำนาจครั้งนี้ ดังนั้นกองทัพจึงใช้กำลังเพื่อปราบปรามการประท้วงอย่างรุนแรง

ผู้คนหลายร้อยคนถูกสังหาร รวมทั้งเด็กอีกหลายสิบคน

“เราต้องการมาที่นี่เพื่อรายงานจากพื้นที่ เพราะไม่ผู้สื่อข่าวต่างชาติรายใดได้รับอนุญาตให้เข้าเมียนมานับตั้งแต่มีการรัฐประหาร เรามาที่นี่ด้วยการอนุญาตของกองทัพ และด้วยความซับซ้อนอย่างมาก เราเห็นว่า การมาเห็นสถานการณ์ด้วยตัวเองมีความสำคัญเพื่อที่จะมาดูว่า เกิดอะไรขึ้นและเพื่อเผชิญหน้ากับกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังความรุนแรง”

ผู้ประกาศ:คุณสามารถรายงานข่าวได้อย่างอิสระหรือไม่
วอร์ด: ก่อนที่เราจะมาเราได้รับการยืนยันว่าสามารถรายงานข่าว และไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ และเราต้องการที่จะพักในโรงแรมที่ย่างกุ้ง แต่เราไม่ได้รับอนุญาตและกลับต้องพักในสถานที่ของกองทัพ ที่ปิดกั้นอย่างมิดชิด เราไม่สามารถเข้าออก ได้อย่างอิสระ

ในวันแรกที่เรามาถึง เราเดินทางด้วยขบวนรถของกองทัพ 6 คนที่เต็มไปด้วยทหาร และยังมีผู้ติดตามคอยสังเกตการณ์ เมื่อเรามีโอกาสลงถนนซึ่งก็น้อยมาก ผู้ติดตามยังถ่ายภาพเราทุกฝีก้าว มีการจดบันทึก โทรศัพท์รายงาน บันทึกว่าเราพูดคุยกับใครบ้างและบันทึกทุกคน ทุกความเคลื่อนไหวของเรา มันเป็นการรายงานที่ท้าทาย

ผู้ประกาศ: พวกเขาถ่ายภาพและจดชื่อ ขอให้คุณเล่าเพิ่มเติมเกี่ยวกับคนที่พูดคุยกับคุณถูกจับกุมตัวไปหลังจากนั้น
วอร์ด: มันเป็นสถานการณ์ที่ตึงเครียดสำหรับเรา มีอยู่วันหนึ่งที่เราได้รับอนุญาตให้ไปในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นตลาดนัด ฉันขอย้ำว่าเราไม่ได้ติดต่อกับนักเคลื่อนไหว หรือกับใครที่มีส่วนในการประท้วง เพราะเรารู้ว่า มันจะเป็นอันตราย แต่เมื่อเราหยิบกล้องออกมาที่ตลาด แล้วเริ่มถ่ายวิดีโอ ประชาชนเริ่มเข้ามาหาเรา มีคนชูสามนิ้ว สัญลักษณ์ในเรื่อง The Hunger Games ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านรัฐประหาร

พวกเขาเข้ามาเราและเล่าเรื่องให้ฟัง พวกเขาบอกเราว่าพวกเขากลัว พวกเขาบอกเราว่า ที่นี่ไม่มีสันติภาพ และเราก็ปล่อยให้พวกเขาบอกเล่าเรื่องต่างๆ เพราะมองว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ให้โอกาสพวกเขาได้พูดจากฝั่งของพวกเขา แต่ไม่นานหลังจากนั้น เราพบว่า หลายคนที่พูดคุยกับเราถูกจับกุมตัว มีผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งมาหาเราอย่างเนื้อตัวสั่น ขณะที่เรายังอยู่ที่ตลาดว่า มีคน 3 คนที่พูดคุยกับเราถูกจับกุมตัวไปแล้ว

อย่างไรก็ตามเราได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้นำอาวุโสรายหนึ่งของกองทัพ ซึ่งเป็นโฆษกรัฐบาลด้วย และเราถามเขาว่า มีเหตุผลอะไรที่จับกุมตัวประชาชนกลุ่มนี้ไปและขอให้เขาปล่อยตัวออกมา

ที่มาภาพ: แคปจากวิดีโอ https://edition.cnn.com/videos/world/2021/04/05/myanmar-protests-army-ward-intl-ldn-vpx.cnn/video/playlists/around-the-world/

รายการได้ตัดภาพไปที่วีดีโอการสัมภาษณ์พลตรี ซอว์ มิน ตุน โฆษกกองทัพเมียนมา โดยในวิดีโอวอร์ดได้ตั้งคำถามว่า เราได้ไปตลาดมา และมีคนจำนวนหนึ่งเข้ามาหาเราเพราะพวกเขาต้องการที่จะพูดคุยกับเรา พวกเขาต้องการที่จะเล่าเรื่องจากฝั่งของพวกเขา แต่เราได้รู้ภายหลังว่า อย่างน้อยมีคน 5 คนถูกจับตัวไปและจากการตรวจสอบของเราอย่างอิสระ เราได้เห็นหลักฐานจากรูปถ่ายในบางกรณี คุณชี้แจงได้ไหมว่า ทำไมคุณถึงจับกุมตัวคนที่เราพุดคุยด้วยไป พวกเขาทำผิดอะไร

พลตรี ซอว์ มิน ตุน ตอบคำถามเป็นภาษาเมียนมา ซึ่ง CNN ได้ให้เสียงภาษาอังกฤษกำกับไว้ว่า “ผมเห็นข่าวเมื่อวานนี้ ผมถามเจ้าหน้าที่ว่ามีคนถูกจับกี่คน มีคนถูกจับ 11 คน กองกำลังรักษาความมั่นคงกังวลว่า พวกเขาจะปลุกปั่นคนอื่นให้เริ่มประท้วงในตลาด นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาถูกจับ แต่รัฐบาลกำลังดำเนินการเพื่อปล่อยตัวพวกเขาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

ที่มาภาพ: แคปจากวิดีโอ https://edition.cnn.com/videos/world/2021/04/05/myanmar-protests-army-ward-intl-ldn-vpx.cnn/video/playlists/around-the-world/

จากนั้นรายการได้ตัดกลับมาที่การรายงานสดของวอร์ด ที่รายงานว่า เราโล่งใจที่ได้รู้และได้รับการยืนยันว่าผู้ที่ถูกจับกุมอย่างน้อย 8 คนจาก 11 คนน้้น ได้รับการปล่อยตัวแล้ว ซึ่งเป็นข่าวดีมาก และนี่เป็นการฉายภาพให้เห็นถึงสถานการณ์ที่ประชาชนกำลังเผชิญ “พวกเขาพูดต่อหน้ากล้องไม่ได้ว่า พวกเขากำลังกลัว ว่าพวกเขาต้องการอนาคตที่ดีกว่า ว่าพวกเขาต้องการประชาธิปไตย โดยไม่ถูกจับกุม”

นี่คือสิ่งที่กองทัพเมียนมารู้สึกว่า กำลังถูกคุกคามจากประชาชนเมียนมา และจากการประท้วงใหญ่

ผู้ประกาศ: ทำไมกองทัพถึงต้องการให้คุณเข้าไป ทำไมถึงอนุญาตให้ CNN เข้าไปถ้าจะจับตัวคนที่คุณพูดคุยด้วยทุกคน
วอร์ด: กองทัพเมียนมาต้องการประชาสัมพันธ์ข้อมูลจากฝั่งของกองทัพ นั่นเป็นเรื่องสำคัญ และเราให้โอกาสกองทัพเมียนมาได้พูด พวกเขามองว่าการเคลื่อนไหวการประท้วงเป็นเรื่องรุนแรง อันตราย และทำให้เศรษฐกิจชะงัก พวกเขาบอกว่า ถ้าประชาชนยอมให้เป็นไปตามแผนของกองทัพ ก็จะมีการเลือกตั้งใน 2 ปีข้างหน้า กองทัพพาเหยื่อจำนวนมากมาให้เราดู และเล่าว่าถูกผู้ประท้วงข่มขู่อย่างไร ถูกลบหลู่อย่างไร ตลอดจนพาเราไปอาคารที่กองทัพอ้างว่า ได้รับความเสียหายจากผู้ประท้วง

แต่เมื่อคิดถึงกระบวนการ 2 ปีก่อนจะมีการเลือกตั้ง คุณจะเข้าใจว่าทำไมมีคนจำนวนน้อยมากที่เชื่อมั่นในคำมั่นของกองทัพ เพราะการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว มีผู้สังเกตการณ์อิสระที่เฝ้าสังเกตการณ์ด้วย พวกเขาก็ไม่ระบุว่า มีการทุจริตเลือกตั้งเกิดขึ้น กองทัพไม่ยอมรับผลเลือกตั้งและก่อการรัฐประหาร ดังนั้นจึงมีคนน้อยมากที่เชื่อเมื่อกองทัพบอกว่าจะจัดให้มีการเลือกตั้ง

หลังจากที่อยู่ภายใต้การกดขี่ของรัฐบาลทหารมากว่าครึ่งศตวรรษ ประชาชนจะไม่ยอมแพ้ ประชาชนจะไม่ยอมให้เสรีภาพที่ได้มาอย่างยากลำบาก ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาหลุดมือไป

ที่มาภาพ: แคปจากวิดีโอ https://edition.cnn.com/videos/world/2021/04/05/myanmar-protests-army-ward-intl-ldn-vpx.cnn/video/playlists/around-the-world/

ผู้ประกาศ:คุณคิดว่าอำนาจของกองทัพเมียนมาจะเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงไร หรืออยู่บนเส้นทางที่จะมีการเลือกตั้งในอีก 2 ปีข้างหน้า
วอร์ด: จากสิ่งที่เห็นในพื้นที่ กองทัพไม่มีอะไรเลย ไม่มีการสนับสนุนอย่างเข้มแข็งจากประชาชน ไม่ว่าทางไหน สิ่งที่กองทัพมี คืออาวุธสงคราม กองกำลังขนาดใหญ่ มันเปรียบเทียบกันไม่ได้เลย ระหว่างสิ่งที่เราได้เห็นจากผู้ประท้วงกับสิ่งที่เราเห็นจากกองทัพ ที่มีอาวุธมากมาย มีเงินทุน กองทัพมีพลังที่จะชนะในตอนนี้ แต่สิ่งที่หลายคน รวมถึงสหประชาชาติกำลังวิตก คือ สถานการณ์จะกลายเป็นการนองเลือด หากผู้ประท้วง ประท้วงรุนแรงขึ้น เมียนมาอาจเผชิญกับสงครามกลางเมืองได้ ซึ่งไม่มีใครอยากเห็นเช่นนั้น