ครม.เคาะ “ทัวร์เที่ยวไทย” แจกเงินเที่ยวคนละ 5,000 บาท 1 ล้านสิทธิ์ – เดินหน้า “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 3 ต่ออีก 2 ล้านสิทธิ์ รวมวงเงินกระตุ้นท่องเที่ยว 10,700 ล้านบาท เริ่ม พ.ค.นี้
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2564 ที่ประชุม ครม.ได้มีมติอนุมัติ 2 โครงการ คือ 1.โครงการทัวร์เที่ยวไทย วงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท โครงการนี้เป็นโครงการใหม่ โดยรัฐจะให้การสนับสนุนค่าเดินทางในลักษณะร่วมจ่าย หรือ “Co-Payment” ประมาณ 40% แต่ไม่เกิน 5,000 บาทต่อราย สำหรับเงื่อนไขของบริษัทที่ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว หรือ บริษัททัวร์ที่สนใจเข้าร่วมโครงการจะต้องมาลงทะเบียนกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยจัดทำโปรแกรมการท่องเที่ยวอย่างน้อย 3 วัน 2 คืน และในโปรแกรมการท่องเที่ยวจะระบุสถานที่ตั้งของโรงแรม หรือ ร้านอาหารไว่อย่างชัดเจน เพื่อให้คณะทำงานของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเข้าไปตรวจสอบได้ โดยเฉพาะราคาของโปรแกรมท่องเที่ยวที่จะขายให้กับประชาชนมีความเหมาะสมมากน้อยเพียงใด ในเบื้องต้นได้กำหนดราคาโปรแกรมทัวร์เอาไว้ที่ 12,500 บาทต่อโปรแกรม โดยรัฐบาลจะให้การสนับสนุน 40% แต่ไม่เกิน 5,000 บาท รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 1 ล้านสิทธิ์ และบริษัททัวร์แต่ละแห่งจะรับลูกค้าได้ไม่เกิน 1,000 ราย เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤษภาคม- เดือนสิงหาคม 2564
นายดนุชา กล่าวต่อว่า สำหรับประชาชนที่สนใจที่จะเข้าร่วมโครงการนี้ สามารถเข้าเลือกโปรแกรมท่องเที่ยวได้ที่เว็บไซต์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หลังจากที่เลือกโปรแกรมท่องเที่ยวเสร็จเรียบร้อยให้ติดต่อบริษัททัวร์ เพื่อชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เพียงช่องทางเดียวเท่านั้น ทาง ททท.ไม่ได้เปิดให้มีการชำระเงินรูปแบบอื่น ซึ่งบริษัททัวร์ก็จะต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันถุงเงินด้วย
“ส่วนการใช้งานก็จะมีการสแกนทั้ง QR Code และใบหน้าของผู้ใช้บริการด้วย และเมื่อผู้ใช้บริการเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆที่กำหนดไว้ในโปรแกรมทัวร์ ไม่ว่าจะเป็นที่โรงแรม หรือ ร้านอาหารต่างๆ ทางบริษัททัวร์จะต้องสแกนสถานที่ด้วย เพื่อเป็นการยืนยันว่ามีการเดินทางไปท่องเที่ยวสถานที่แห่งนั้นจริงๆ ซึ่งตรงนี้ก็คือระบบตรวจสอบที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและธนาคารกรุงไทยร่วมกันจัดทำขึ้นมา เพื่อป้องกันการทุจริต”นายดนุชา กล่าว
2.ปรับปรุงรายละเอียดของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟสที่ 3 วงเงิน 5,700 ล้านบาท ซึ่งเป็นวงเงินที่เหลืออยู่มาใช้ดำเนินโครงการต่อไป โดยจะมีการขยายสิทธิ์เพิ่มเติมอีก 2 ล้านสิทธิ์ คาดว่าจะเริ่มใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป ส่วนวิธีการใช้งานนั้นจะมีการเพิ่มขั้นตอนขึ้นมาอีกเล็กน้อย คือ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกันเดิมจะต้องให้ความยินยอมอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเข้าไปตรวจสอบข้อมูลห้องพักต่าง ๆที่จดทะเบียนกับกระทรวงมหาดไทย อาทิ การตรวจสอบข้องมูลโรงแรมแต่ละแห่งมีจำนวนห้อง และราคาที่พักต่ำสุด-สูงสุดเท่าไหร่ เป็นต้น
สำหรับประชาชนที่สนใจสามารถมาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ที่เว็บไซด์เราเที่ยวด้วยกัน ส่วนการจองห้องพักต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน ทั้งนี้ เพื่อให้ทางธนาคารกรุงไทยจัดส่งข้อมูลมาให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยตรวจสอบการจองห้องพักมีความผิดปกติหรือไม่ จากนั้นเมื่อผู้ที่ได้รับสิทธิ์เข้าไปใช้บริการในสถานที่ต่าง ๆก็จะมีการสแกนใบหน้าและมีข้อมูล GPS ติดมาด้วย ส่วนการเดินทางท่องเที่ยวจะต้องเป็นการเดินทางข้ามจังหวัดเท่านั้น ไม่อนุญาตให้พักค้างแรมในจังหวัดเดียวกัน ส่วน e-Voucher ลดเหลืออัตราเดียว 600 บาทต่อวัน จากเดิมกำหนดไว้ 900 บาท สำหรับวันธรรมดา และ 600 บาท เฉพาะเสาร์-อาทิตย์ ทั้งหมดนี้คือเงื่อนไขของการใช้งานที่เพิ่มขึ้นมา ทั้ง 2 โครงการจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2564