ThaiPublica > เกาะกระแส > ศาล รธน.มีมติเอกฉันท์ “บิ๊กตู่” ไม่ผิด กรณีพักบ้านหลวง

ศาล รธน.มีมติเอกฉันท์ “บิ๊กตู่” ไม่ผิด กรณีพักบ้านหลวง

2 ธันวาคม 2020


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ “บิ๊กตู่” ไม่ผิด ชี้กรณีพักอาศัยบ้านหลวงเป็นไปตามระเบียบกองทัพบก-มาตรฐานจริยธรรม-ไม่มีผลทำให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลง

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2563 ศาลรัฐธรรมนูญ นัดฟังผลการวินิจฉัย กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้อยู่อาศัยในบ้านพักของทางราชการทหาร หลังจากที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว ถือเป็นการกระทำที่ขัดกันแห่งผลประโยชน์ และเป็นการฝ่าฝืน หรือ ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง อันเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์สิ้นสุดลง หรือไม่

ผลการพิจารณาในวันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ ได้วินิจฉัยว่า บ้านพักอาศัยของผู้ถูกร้องเปลี่ยนสถานะเป็นบ้านพักรับรองตามระเบียบกองทัพบกว่าด้วยการเข้าพักอาศัยในบ้านพักรับรองกองทัพบก พ.ศ. 2548 ซึ่งกำหนดให้อดีตผู้บังคับบัญชาชั้นสูงของกองทัพบก ซึ่งทำคุณประโยชน์ให้กับกองทัพบก และประเทศชาติ และเคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกมาแล้ว มีสิทธิเข้าพักอาศัยในบ้านพักรับรองกองทัพบกและกองทัพบกสามารถ พิจารณาความเหมาะสมในการสนับสนุนงบประมาณค่ากระแสไฟฟ้า และน้ำประปา ตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่น ๆที่จำเป็นต่อการพักอาศัยตามความจำเป็น และเหมาะสมในการใช้งาน

เมื่อผู้ถูกร้อง (พล.อ.ประยุทธ์) เคยเป็นผู้บัญชาการทหารบก จึงเป็นผู้มีสิทธิเข้าพักอาศัยในบ้านพักรับรองกองทัพบก และมีสิทธิได้รับการสนับสนุนค่ากระแสไฟฟ้า และน้ำประปาตามระเบียบดังกล่าวข้างต้น แม้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นพลเรือนก็ย่อมไม่มีสิทธิพักอาศัยในบ้านพักรับรองนั้น ประกอบกับการให้สิทธิดังกล่าวให้แก่ผู้มีคุณสมบัติตามระเบียบนั้น เป็นธุรกิจการงานปกติ โดยถือเป็นสิทธิของบุคคลอันเนื่องมาจากการดำรงตำแหน่งอดีตผู้บังคับบัญชาชั้นสูงของกองทัพบก

ศาลรัฐธรรมนูญ จึงมีมติเอกฉันท์ว่า “ความเป็นรัฐมนตรีขอ งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทวงกลาโหม ไม่สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (5) และมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 186 วรรคหนึ่ง และ มาตรา 84 วรรคหนึ่ง (3) และผู้ถูกร้องไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืน หรือ ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงแต่อย่างใด”