ThaiPublica > เกาะกระแส > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์: “ตร. แถลง ฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุม 8 พ.ย. ไม่ได้ผิดพลาด ‘เป็นไปตามกม.'” และ “รัฐบาลเยอรมนีแจง ไม่พบหลักฐานว่ากษัตริย์ไทยทรงทำผิด”

ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์: “ตร. แถลง ฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุม 8 พ.ย. ไม่ได้ผิดพลาด ‘เป็นไปตามกม.'” และ “รัฐบาลเยอรมนีแจง ไม่พบหลักฐานว่ากษัตริย์ไทยทรงทำผิด”

14 พฤศจิกายน 2020


ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 7-13 พ.ย. 2563

  • ตร. แถลง ฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุม 8 พ.ย. ไม่ได้ผิดพลาด ยืนยัน “เป็นไปตามกฎหมาย”
  • ครม. แต่งตั้งคู่สมรส ร.อ. ธรรมนัส เป็น ขรก.การเมือง
  • สมช. ชี้ “ม็อบเริ่มแผ่ว” เสนอปล่อยให้ชุมนุมแล้วเอาผิดทีหลัง
  • เนชั่นดึง ผบห.เก่า ฟื้นศรัทธา รับ “ทำหน้าที่บิดเบี้ยวระยะหนึ่ง” — สันติสุข–อัญชะลีโต้ ไม่เคยบิดเบี้ยว
  • รัฐบาลเยอรมนีชี้แจง ไม่พบหลักฐานว่ากษัตริย์ไทยทรงทำผิดกฎหมายใดๆ ระหว่างทรงประทับในเยอรมนี

  • ตร. แถลง ฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุม 8 พ.ย. ไม่ได้ผิดพลาด ยืนยัน “เป็นไปตามกฎหมาย”

    วันที่ 8 พ.ย. 2563 กลุ่มราษฎรรวมตัวชุมนุมกันที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนจะเคลื่อนขบวนด้วยความตั้งใจจะไปยังสำนักพระราชวัง ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณพระบรมมหาราชวัง เพื่อนำจดหมายที่กลุ่มผู้ร่วมชุมนุมต่างเขียนขึ้นเองไปใส่ในตู้ไปรษณีย์จำลอง 4 ตู้ที่ทางกลุ่มราษฎรเตรียมมา โดยแสดงเจตจำนงว่าต้องการส่งถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    แต่เมื่อมาถึงบริเวณศาลหลักเมือง ตำรวจได้นำรถประจำทางอย่างน้อยสามคันมาปิดเส้นทางไว้ รวมทั้งมีรถฉีดน้ำแรงดันสูง และเกิดการการฉีดน้ำแรงดันสูงใส่ฝูงชนเป็นช่วงเวลาสั้นๆ จากนั้น พล.ต.ท. ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงต่อผู้ชุมนุมชี้แจงเหตุการณ์ที่มีการฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุมว่า เป็นการสั่งการของ พล.ต.ต. เมธี รักพันธุ์ ผบก.น.6 ในฐานะผู้บัญชาการควบคุมสถานการณ์

    ที่มาภาพ: เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์

    “เจตนาของท่าน ท่านไม่อยากให้เหตุการณ์ลุกลาม ก็เกรงว่าพี่น้องจะมีกระทบกระทั่งกันและเกิดอันตราย ผมในฐานะผู้บังคับบัญชา สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้พี่น้องเข้าใจผิดและเกิดเหตุรุนแรง ก็ขอโทษด้วยนะครับ” ผบช.น. กล่าว

    อย่างไรก็ดี หลังจากผู้ชุมนุมยุติการชุมนุมกันไปในช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า การฉีดน้ำดังกล่าวนั้นเป็นไปจามขั้นตอนของกฎหมาย เพราะได้เจรจาแจ้งเตือนกับผู้ชุมนุมไปแล้ว แต่ก็ยังฝ่าฝืนด้วยการพยายามเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม พร้อมทั้งยืนยันว่าน้ำที่ใช้เป็นน้ำเปล่า ไม่ได้ผสมสารเคมีใดๆ

    น้ำอะไร ทำไมเหม็น และคัน
    ในฐานะสื่อมวลชนที่อยู่ใจกลาง
    อยากรู้เหมือนกัน ว่าน้ำอะไรที่นำมาฉีด
    เราก็เตรียมอุปกรณ์ไปครบแหละ
    แต่ไม่ทันตั้งตัวจริงๆ
    บันทึกไว้ 8 พ.ย.63.

    ฐปณีย์ เอียดศรีไชย
    ผู้ก่อตั้งสำนักข่าว The Reporters
    ที่มา: เฟซบุ๊ก Thapanee Eadsrichai

    ด้าน พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงเช่นกันว่าเป็นการทำตามกฎหมาย และเป็นการเตือนผู้ชุมนุมที่พยายามฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่เข้ามา และเป็นการฉีดขึ้นฟ้าให้เป็นละอองน้ำ ไม่ได้จงใจให้เกิดความเสียหายต่อร่างกายและทรัพย์สิน ส่วนที่ตำรวจออกมาขอโทษกลุ่มผู้ชุมนุมหลังจากใช้รถฉีดน้ำไปนั้น ก็เป็นเพราะไม่อยากให้สถานการณ์บานปลายขึ้นไปกว่านี้

    อ่านเพิ่มเติม
    เว็บไซต์บีบีซีไทย — ชุมนุม 8 พ.ย.: กลุ่มราษฎรตั้งตู้ไปรษณีย์จำลองใกล้พระบรมมหาราชวัง ส่ง “ราษฎรสาส์น” ถึงรัชกาลที่ 10
    เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ — ตำรวจประกาศขอโทษกลุ่มผู้ชุมนุม ผิดพลาดฉีดน้ำ สั่งห้ามยิงเลเซอร์
    เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ — ตำรวจใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงเป็นไปตามกฎหมาย เตรียมเอาผิดม็อบ 8 พฤศจิกา
    เว็บไซต์บีบีซีไทย — ชุมนุม 8 พ.ย.: กลุ่มราษฎรตั้งตู้ไปรษณีย์จำลองใกล้พระบรมมหาราชวัง ส่ง “ราษฎรสาส์น” ถึงรัชกาลที่ 10

    ครม. แต่งตั้งคู่สมรส ร.อ. ธรรมนัส เป็น ขรก.การเมือง

    ธนพร ศรีวิราช “คู่สมรสที่อยู่กินฉันสามีภรรยา” กับ ร.อ. ธรรมนัส

    วันที่ 10 พ.ย. 2563 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติแต่งตั้งให้ น.ส. ธนพร ศรีวิราช เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) เสนอ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย. 2563 เป็นต้นไป

    ธนพรเป็นนางสาวไทยปี 2559 ทำหน้าที่เลขานุการส่วนตัวให้ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหรณ์ และยังเป็น “คู่สมรสที่อยู่กินฉันสามีภรรยา” กับ ร.อ. ธรรมนัส อีกทั้งยังเป็นมารดาของบุตรนอกสมรสวัย 1 ปีที่ ร.อ. ธรรมนัส รับรองเป็นบุตรแล้ว

    อย่างไรก็ดี การตั้งคนใกล้ชิดที่มีฐานะเป็น “คู่สมรสที่อยู่กินฉันสามีภรรยา” กับรัฐมนตรีให้ดำรงตำแหน่งเป็นข้าราชการการเมือง ได้นำมาซึ่งคำถามถึงความเหมาะสม “อีกครั้ง” ต่อรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา

    นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นผู้เสนอชื่อให้มีการแต่งตั้งนี้ แต่ยืนยันว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ เพราะกรณีนี้เป็นการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ในตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จำนวน 20 อัตรา เงินเดือนไม่เกิน 20,000 บาท เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีในการเสนอแต่งตั้งและนำเข้า ครม.

    ส่วนเรื่องความเหมาะสม หรือจะผิดกฎหมายหรือไม่นั้น นายวิษณุตอบว่า ก็ไม่ได้ผิดอะไร จะเหมาะสม หรือสมควรหรือไม่ ก็แล้วแต่ เพราะไม่ได้เข้าไปทำงานที่กระทรวงเกษตรฯ แต่มานั่งทำงานที่ทำเนียบรัฐบาล ตามที่นายกฯ มอบหมาย และไม่ได้กำหนดคุณสมบัติมากมาย เข้าง่าย ออกง่าย ออกเมื่อไหร่ก็ได้ บำนาญก็ไม่มี แต่มีงานให้ทำที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็มีมา 40-50 ปี แล้ว เหมือนของตนที่มีคนถูกแต่งตั้งมาทำงานอยู่หน้าห้อง

    อ่านเพิ่มเติม
    เฟซบุ๊กแฟนเพจบีบีซีไทย — ครม. ตั้ง “คู่สมรสที่อยู่กินฉันสามีภรรยา” ของ ร.อ.ธรรมนัส เป็น ขรก.การเมือง
    เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ — “วิษณุ” ไม่รู้ ใครชงตั้ง “จุ๊บจิ๊บ” ภรรยา “ธรรมนัส” เป็นข้าราชการการเมือง

    สมช. ชี้ “ม็อบเริ่มแผ่ว” เสนอปล่อยให้ชุมนุมแล้วเอาผิดทีหลัง

    พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์
    ที่มาภาพ: เว็บไซต์มติชนออนไลน์

    วันที่ 10 พ.ย. 2563 พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้รายงานสถานการณ์การชุมนุมแก่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมประเมินการชุมนุมเมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยระบุว่ามวลชนกลุ่มราษฎรอ่อนแรงลงมาก จำนวนของผู้มาร่วมชุมนุมที่ลดลงเยอะเมื่อเปรียบเทียบกับการชุมนุมบริเวณแยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2563 ก่อนที่ตำรวจจะฉีดน้ำสลายการชุมนุม

    ส่วนการจัดม็อบดาวกระจายไปต่างจังหวัดที่ดูเหมือนจะเกิดทั่วประเทศ แต่ประเมินแล้วมีผู้มาร่วมเพียงหลักร้อยถึงหลักพัน ขณะที่ใน กทม. ยอดสูงสุดอยู่ที่ 1.5 หมื่นคน รวมทั่วประเทศแล้วไม่เกิน 2 หมื่นคน

    ทาง สมช.จึงเสนอให้ปล่อยให้มีการชุมนุมแล้วใช้มาตรการทางกฎหมาย ดำเนินการในภายหลัง ซึ่งการใช้วิธีนี้เชื่อว่าผู้ชุมนุมจะอ่อนแรงลงไปเอง

    อ่านเพิ่มเติม
    เว็บไซต์ข่าวสดออนไลน์ — วอร์รูมนายกฯ ประเมินม็อบทั่วไทย ไม่เกิน 2 หมื่น รอแผ่วลง หวดกลับแน่!

    เนชั่นดึง ผบห.เก่า ฟื้นศรัทธา รับ “ทำหน้าที่บิดเบี้ยวระยะหนึ่ง” — สันติสุขโต้ ไม่เคยบิดเบี้ยว

    วันที่ 10 พ.ย. 2563 กลุ่มผู้บริหารสื่อในเครือเนชั่น ได้ออกมาแถลงข่าวเรื่องทิศทางในการทำหน้าที่สื่อต่อไป หลังจากผู้สื่อข่าวระดับแม่เหล็กของเครืออย่าง นายกนก รัตน์วงศ์สกุล, นายธีระ ธัญไพบูลย์, นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก และนายสันติสุข มะโรงศรี ต่างพากันลาออกจากช่อง

    โดยประเด็นหลักที่ผู้บริหารเปิดเผยก็คือ การสร้างความเชื่อมั่นอีกครั้งเพื่อให้เครือเนชั่นกลับมาเป็นสถาบันสื่อเหมือนเดิมโดยการนำแนวปฏิบัติด้านจริยธรรมที่เรียกว่า “เนชั่น เวย์” กลับมา หลังจากที่ผ่านมาถูกโจมตีในเรื่องจุดยืนทางการเมืองหลายครั้ง โดยเฉพาะบนเวทีการชุมนุมของกลุ่มนักเรียนนักศึกษาและประชาชนตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา

    นอกจากนี้ จะมีการเสนอชื่อนายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือเนชั่นทีวี กลับมานั่งเป็นผู้บริหารอีกครั้งด้วย

    นายวีระศักดิ์ พงศ์อักษร หนึ่ง 3 บรรณาธิการเครือเนชั่นที่ถูกสั่งให้ยุติออกอากาศรายการ “เนชั่นสุดสัปดาห์” ทางสถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวีเนื่องจากขัดนโยบายสถานีช่วงปลายเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ปัจจุบันดำรงตำแหน่งบรรณาธิการอาวุโสเครือเนชั่น กล่าวยอมรับการทำงานที่ผ่านมาของสถานี “บิดเบี้ยว”

    “รู้สึกเศร้าใจ เมื่อเห็นน้องๆ ภาคสนาม เวลารายงานข่าวการชุมนุมต้องหลบๆ ซ่อนๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ดูแลสื่อทีวี โดยน้องบางคนต้องปิดไมค์ ต้องไม่มีไมค์เนชั่น หรืออยู่ห่างจากม็อบ มันเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ขณะที่ช่องอื่นๆ สามารถรายงานตรงกลางม็อบ กลางมวลชนได้” นายวีระศักดิ์กล่าวระหว่างการแถลงข่าว

    นายวีระศักดิ์กล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดคำถามว่า ถึงจุดนี้ได้อย่างไร เพราะฉะนั้น สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ การกลับไปสู่การทำหน้าที่สื่ออย่างแท้จริง เป็นสถาบันสื่อ ทุกคนก็มีภาคภูมิใจได้มากที่สุด

    “การที่เราดึงกลับ แม้ว่าจะบิดเบี้ยวไปบ้างระยะหนึ่งเป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้ถ้าทุกคนช่วยกัน” นายวีระศักดิ์กล่าว

    การแถลงดังกล่าว ทำให้เกิดการตอบโต้จากนายสันติสุข มะโรงศรี โดยในวันที่ 11 พ.ย. 2563นายสันติสุ-ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยยืนยนัว่าตนทำหน้าที่จนนาทีสุดท้ายโดยไม่ได้บิดเบือนหรือใส่ร้ายใคร และยืนยันจะใช้ข้อมูลจริงตอบโต้การโกหกต่างๆ ต่อไป โดยเฉพาะการโกหกให้ร้ายในหลวง

    อ่านเพิ่มเติม
    เว็บไซต์บีบีซีไทย — เนชั่น นำผู้บริหารเก่ากลับมาฟื้นศรัทธาผู้ชม หลังกระแส #แบนเนชั่น สะเทือนองค์กร
    เว็บไซต์มติชนสุดสัปดาห์ — ฉาย แถลงปม ‘กนก-ธีระ-ลักขณา’ ลาออก ย้ำ ‘กนก-ธีระ’ ตำนานเนชั่น พร้อมต้อนรับกลับ
    เว็บไซต์มติชออนไลน์ — ‘กนก’ อำลา ‘เนชั่น’ หลังทำงานมา 24 ปี รับลำบากใจแต่ต้องไป หากอยู่ต่อคงไม่ใช่คนเดิม
    เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ — จากกันด้วยไม่ดี! “สันติสุข มะโรงศรี” โต้ “วีระศักดิ์” แก๊ง 3 บก.เนชั่น ป้ายสี “บิดเบี้ยว”

    รัฐบาลเยอรมนีชี้แจง ไม่พบหลักฐานว่ากษัตริย์ไทยทรงทำผิดกฎหมายใดๆ

    สำนักข่าวดีพีเอของเยอรมนีรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศของเยอรมนีได้ตอบคำถามของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จากพรรคกรีนส์ เป็นลายลักษณ์อักษรว่า ทางกระทรวงคาดว่า พระมหากษัตริย์ของไทยไม่ได้ทรงตัดสินพระราชหฤทัยที่ “เป็นการแทรกแซงระบบกฎหมายของเยอรมนี กฎหมายระหว่างประเทศ หรือ หลักสิทธิมนุษยชนที่ได้รับการรับรองระหว่างประเทศ” ขณะทรงประทับอยู่บนแผ่นดินเยอรมนี

    และยังระบุอีกว่า “รัฐบาลเยอรมนีไม่มีหลักฐานอันน่าเชื่อถือว่า พระมหากษัตริย์ของไทยทรงตัดสินพระราชหฤทัยในการใดๆ ระหว่างทรงประทับในเยอรมนี”

    อนึ่ง ก่อนหน้านี้ ฟริตยอฟ ชมิดต์ ส.ส. พรรคกรีนส์ ของเยอรมนี ตั้งกระทู้ในสภาต่อนายไฮโก มาส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยถามถึงการเสด็จพำนักในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 โดยชมิดต์เห็นว่า “เป็นเรื่องผิดกฎหมาย ที่ประมุขของประเทศอื่นดำเนินงานการเมืองบนแผ่นดินเยอรมนี”

    อ่านเพิ่มเติม
    เว็บไซต์บีบีซีไทย — ส.ส.พรรคกรีนส์เผยทำไมต้องถามเรื่องกษัตริย์ไทยในสภาเยอรมนี
    เว็บไซต์บีบีซีไทย — รมว.ต่างประเทศเยอรมนีตอบกระทู้ส.ส.ในสภาฯ สถานะกษัตริย์ไทยในแคว้นบาวาเรีย