ThaiPublica > Native Ad > ออมสิน จับมือ SAWAD รุกสินเชื่อจำนำรถ ตั้งเป้าดึงดบ.ทั้งตลาดเหลือ 18% ช่วยรากหญ้า

ออมสิน จับมือ SAWAD รุกสินเชื่อจำนำรถ ตั้งเป้าดึงดบ.ทั้งตลาดเหลือ 18% ช่วยรากหญ้า

24 พฤศจิกายน 2020


ออมสิน ร่วมทุน SAWAD รุกสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ตั้งเป้าปี 2564 ปล่อยกู้ 20,000 ล้านบาท ดึงดอกเบี้ยทั้งตลาดลดลงเหลือ 18% ช่วยคนรากหญ้าเข้าถึงบริการทางการเงิน-ลดภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย

ที่มาของโครงการนี้เกิดขึ้นในช่วงที่เกิดจากแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 “ออมสิน” ในฐานะธนาคารเพื่อสังคม (Social Banking) ได้รับมอบนโนบายจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้เข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ฯ ทุกกลุ่ม โดยเฉพาะประชาชนในระดับฐานรากตามนโยบายของรัฐบาล ผ่านโครงการสินเชื่อหลากหลายรูปแบบ อาทิ โครงการสินเชื่อฉุกเฉินเสริมพลังฐานราก และร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จัดทำโครงการสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ หรือ “Soft Loan” ปล่อยกู้ผ่านธนาคารพาณิชย์ เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือธุรกิจ SMEs

นอกจากนี้ทางธนาคารออมสินยังจัดสินเชื่อ Soft Loan วงเงิน 60,000 ล้านบาท ปล่อยกู้โดยตรงแก่ผู้ประกอบธุรกิจการเงินที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน หรือ “Non-Bank” ในอัตราดอกเบี้ย 2% โดยมีเป้าหมายเพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กับประชาชนในระดับฐานรากที่เป็นหนี้บัตรเครดิต , สินเชื่อส่วนบุคคล , ลิซซิ่ง , เช่าซื้อ และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ เป็นต้น โดยคาดหวังว่ามาตรการดังกล่าวนี้จะทำให้ โครงสร้างอัตราดอกเบี้ยของตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถปรับตัวลดลงมาให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และเป็นธรรม

ผลปรากฏว่าการดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นไปตามที่ธนาคารออมสินคาดหวังไว้ ลูกหนี้รายย่อยที่ไปกู้ Non-Bank ยังคงจ่ายดอกเบี้ยในอัตรา 28% ต่อปีเหมือนเดิม แม้ธปท.จะปรับเพดานการคิดอัตราดอกเบี้ยสูงสุดของธุรกิจ Non-Bank ลงมาอยู่ที่ระดับ 24% ก็ถือว่ายังอยู่ระดับสูง

หลังจากนายวิทัย รัตนากร เข้ามารับตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารออมสินได้ไม่นาน ช่วงเดือนกรกฎาคม 2563 นายวิทัยได้ประกาศแผนขับเคลื่อนออมสินสู่การเป็นธนาคารเพื่อสังคมเต็มรูปแบบ (Social Bank) โดยจะให้ออมสินเข้าไปทำธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และใช้เป็นกลไกในการแทรกแซงตลาด Non-Bank ดึงดอกเบี้ยเงินกู้สินเชื่อจำนำทะเบียนรถให้ลงมาอยู่ที่อัตรา 18% ต่อปี ภายใน 6 เดือน นับจากวันที่ประกาศ

  • ออมสินบุกตลาดสินเชื่อ Non-Bank ตั้งเป้าช่วยลูกค้าลดภาระ ดบ. 8-10%
  • แต่เนื่องจากธนาคารออมสินไม่เคยทำธุรกิจประเภทนี้มาก่อน การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อจำนำทะเบียนรถให้ลูกค้าใช้เวลาพิจารณาเพียง 30 นาที จึงจำเป็นต้องเริ่มกระบวนการสรรหาพันธมิตรที่มีประสบการณ์และความชำนาญในธุรกิจประเภทนี้เข้ามาร่วมลงทุนกับธนาคาร

    ปัจจุบันผู้ประกอบธุรกิจ Non-Bank มีทั้งหมด 44 ราย แต่ที่มีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์และวัตถประสงค์ของธนาคารออมสินมี 24 ราย ธนาคารจึงส่งจดหมายเชิญชวนผู้ประกอบการเหล่านี้มายื่นข้อเสนอตามกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของทางราชการอย่างโปร่งใส โดยมีผู้มายื่นข้อเสนอทั้งหมด 8 ราย คณะกรรมการคัดเลือกของธนาคารได้ส่งข้อเสนอทั้งหมดส่งให้คณะทำงานที่ธนาคารแต่งตั้งขึ้น อันประกอบไปด้วยที่ปรึกษาทางการเงิน , ที่ปรึกษาด้านการบัญชี และที่ปรึกษากฎหมาย ร่วมกันพิจารณาข้อเสนอด้านการลงทุน โดยมีเงื่อนไขสำคัญผู้ยื่นข้อเสนอต้องแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการประกอบธุรกิจจำนำทะเบียนรถภายใต้เงื่อนไขคิดอัตราดอกเบี้ยได้ไม่เกิน 18% ต่อปี

    สุดท้ายได้ผู้ชนะ และผ่านการเจรจาต่อรองเงื่อนไขต่าง ฯ 1 ราย คือ บริษัท เงินสดทันใจ จำกัด ซึ่งในเครือของบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “SAWAD” โดยธนาคารออมสินจะเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทเงินสดทันใจไม่เกิน 49% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ภายใต้วงเงิน 1,500 ล้านบาท

    โครงการนี้ใช้เวลาประมาณ 5 เดือน ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และนางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้ถือหุ้น บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD แถลงข่าวการร่วมลงทุนในบริษัท เงินสดทันใจ จำกัด ณ ธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่

    นายวิทัยเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารออมสินได้อนุมัติการร่วมลงทุนกับบริษัท เงินสดทันใจ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในเครือบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD โดยการร่วมทุนครั้งนี้มีเป้าหมาย เพื่อนำไปสู่การปรับโครงสร้างอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถให้ลดต่ำลงมาอยู่ที่ระดับ 18% ต่อปี เมื่อเทียบกับปัจจุบันคิดอัตราดอกเบี้ยสูงสุดถึง 24%

    “หลังจากคณะกรรมการของธนาคารออมสิน ได้ผ่านความเห็นชอบในหลักการ การเข้าร่วมทุนกับ SAWAD เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะเป็นกระบวนการด้านเอกสาร โดยจะมีการลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกัน (MOU) ในช่วงต้นปี 2564 จากนั้นทาง SAWAD จะส่งเรื่องให้ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติ เป็นขั้นตอนสุดท้าย และนัดหมายวันลงนามสัญญาร่วมลงทุนในบริษัทเงินสดทันใจ เริ่มเปิดดำเนินการได้ภายในไตรมาสแรกของปี 2564 คาดว่าภายในสิ้นปี 2564 จะสามารถปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถได้ประมาณ 20,000 ล้านบาทนายวิทัย กล่าว

    สำหรับโอกาสในการทำธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ จากการวิเคราะห์ของฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจ ธุรกิจ และเศรษฐกิจฐานราก ธนาคารออมสิน พบว่า ณ เดือนเมษายน 2563 สินเชื่อ Non-Bank ทั้งระบบมียอดคงค้างอยู่ที่ 481,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้นี้แบ่งเป็น สินเชื่อส่วนบุคคล หรือ บัตรกดเงินสด ประมาณ 233,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 48% ของยอดสินเชื่อคงค้างทั้งหมด , สินเชื่อบัตรเครดิตมียอดคงค้าง 148,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 31% ของยอดสินเชื่อคงค้างทั้งหมด และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถมียอดคงค้าง 100,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 21% ของยอดสินเชื่อคงค้างทั้งหมด

    เฉพาะสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ถือเป็นธุรกิจที่กำไรดีมาก ปัจจุบันคิดอัตราดอกเบี้ยกับลูกค้าที่ 24% มีส่วนต่างรายได้ของอัตราดอกเบี้ย (Net Interest Margin : NIM) ประมาณ 15-20% ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบมีรายได้จากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3-3.5% ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPLs ของธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ก็อยู่ในระดับต่ำเฉลี่ยอยู่ที่ 2.6%

    การร่วมทุนกับ SAWAD ครั้งนี้ นายวิทัยคาดหวังว่า จะนำไปสู่การปรับโครงสร้างอัตราดอกเบี้ยของธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถทั้งตลาด และเชื่อว่าจะมีผลกระทบผลต่อเนื่องไปถึงสินเชื่อตัวอื่น ๆ ของธุรกิจ Non-Bank ซึ่งจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยให้กับลูกหนี้รายย่อย หลังจากที่บริษัท เงินสดทันใจ เปิดดำเนินการ คาดว่าจะมีลูกหนี้ Non-Bank จำนวนหนึ่ง รีไฟแนนซ์หนี้ดอกเบี้ย 24% มาใช้บริการสินเชื่อของบริษัท เงินสดทันใจ ซึ่งคิดอัตราดอกเบี้ยแค่ 18% ต่อปี

    และจากการวิเคราะห์ข้อมูลของบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) พบว่าในช่วงเดือนธันวาคม 2562 – เดือนสิงหาคม 2563 มีประชาชนจำนวน 3.1 ล้านคน ไปขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน แต่ไม่ผ่านการพิจารณาอนุมัติ เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ที่ธนาคารออมสินตัดสินใจเข้ามาทำธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ เพื่อช่วยประชาชนฐานรากให้สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินผ่านสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ โดยไม่ต้องตรวจ Credit Bureau ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม

    “การร่วมทุนกับ SAWAD ครั้งนี้ ไม่ได้ทำเพื่อ PR ภาพลักษณ์ขององค์กร แต่ต้องการช่วยคนจริง ๆ เรามุ่งหวังว่าความร่วมมือนี้จะเกิด Impact ต่อสังคมได้จริง ดอกเบี้ยในตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ น่าจะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 18% ทั้งนี้ เนื่องจาก SAWAD เป็นผู้ประกอบธุรกิจ Non-Bank ที่มีศักยภาพ และมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ และมอเตอร์ไซด์มานานกว่า 40 ปี มีสาขาทั่วประเทศเกือบ 5,000 แห่ง ขณะทีธนาคารออมสินเอง ก็มีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง และสาขา 1,060 แห่ง เชื่อว่าร่วมทุนกับ SAWAD ในครั้งนี้ จะทำให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในการปรับโครงสร้างอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยประชาชนกลุ่มฐานรากจะสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้มากยิ่งขึ้น” นายวิทัย กล่าวทิ้งท้าย