จากการเปิดเผยของสำนักงานการคลัง (Bureau of the Treasury: BTr) รัฐบาลฟิลิปปินส์กู้เงินจำนวน 1.5 ล้านล้านเปโซ ในช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคมของปีนี้ ทั้งการกู้ยืมเงินจากแหล่งเงินในและต่างประเทศ เพื่อรับมือกับการระบาดของโควิด-19
สำนักการคลังให้ข้อมูลล่าสุดว่า การกู้ยืมของรัฐบาลเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจาก 787.13 พันล้านเปโซในช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับภาระหนี้ทั้งปีของปี 2019 ที่มีจำนวนรวม 1.02 ล้านล้านเปโซ เพราะเฉพาะเดือนพฤษภาคมเดือนเดียวภาระหนี้ของรัฐบาลเพิ่มขึ้นถึง 289.82 พันล้านเปโซ หรือ 130.73% จาก 125.61 พันล้านเปโซในเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว
รัฐบาลฟิลิปปินส์เร่งกู้เงินเพื่ออุดการขาดดุลงบประมาณ ที่คาดว่าจะขาดดุลเพิ่มขึ้นเป็น 1.613 ล้านล้านเปโซหรือ 8.4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) อันเป็นผลจากการระบาดของโควิด-19
ในช่วง 5 เดือนแรกของปี เงินกู้ส่วนใหญ่มาจากแหล่งเงินในประเทศราว 76% ของเงินกู้โดยรวม ส่วนที่เหลือ 24% เป็นแหล่งเงินกู้ต่างประเทศ โดยภาระหนี้ในประเทศมีจำนวน 1.15 ล้านล้านเปโซ หรือเพิ่มขึ้น 2 เท่าจาก 576.02 พันล้านเปโซในช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งยอดหนี้ 307.86 พันล้านเปโซเป็นการออกพันธบัตรอัตราดอกเบี้ยคงที่ ส่วนอีก 234.02 พันล้านเปโซเป็นตั๋วเงินคลัง นอกจากนี้อีก 130 พันล้านเปโซมาจากการออกพันธบัตรเพื่อรายย่อยเป็นครั้งแรกของสำนักการคลังเมื่อต้นปี และ 300 พันล้านเปโซมาจากการขยายเงินกู้ระยะสั้นของธนาคารกลาง (Bangko Sentral ng Pilipinas: BSP) ภายใต้ข้อตกลงซื้อคืน
ทางด้านการกู้ยืมจากต่างประเทศในช่วง 5 เดือนเพิ่มขึ้น 69% เป็น 356.64 พันล้านเปโซ จาก 211.11 พันล้านเปโซในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยจำนวน 162.79 พันล้านเป็นการกู้จากแหล่งเงินหลายแห่ง เช่น ธนาคารโลก ธนาคารพัฒนาเอเชีย ขณะที่ 7.79 พันล้านเป็นเงินกู้โครงการ อีกทั้งยังมีการระดมเงินด้วยการออกพันธบัตรสกุลเงินยูโร 67.33 พันล้านเปโซ ในเดือนกุมภาพันธ์
เฉพาะพฤษภาคมเดือนเดียว รัฐบาลกู้เงินผ่านการจำหน่ายพันธบัตรทั่วโลก 118.74 พันล้านเปโซ ซึ่งพันธบัตรทั้งหมดนี้มีอายุตั้งแต่ 10 ปีไปจนถึง 25 ปี และจำหน่ายในอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเท่าที่เคยกู้มา แม้จะมีความไม่แน่นอนจากวิกฤติสาธารณสุข
การกู้ยืมเงินเพื่อต่อสู้วิกฤติโควิด-19 ส่งผลให้ภาระหนี้รัฐบาลโดยรวมเพิ่มเป็น 8.89 ล้านล้านเปโซ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม
อย่างไรก็ตาม นายคาร์ลอส โดมิงเกซ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ความเชื่อมั่นต่อประชาชนว่า ภาระหนี้ของรัฐบาลอยู่ในระดับที่จัดการได้และชำระได้
รัฐบาลตั้งเป้ารักษาระดับหนึ้ต่อจีดีพีไว้ที่ราว 50% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยของภูมิภาค แต่ก็สูงกว่าระดับ 39.6% ณ สิ้นปี ที่คงมาไว้ได้เป็นเวลานาน
ณ วันที่ 19 กรกฎาคม ค่าเงินเปโซอยู่ที่ 49.4460 ต่อดอลลาร์สหรัฐ (จาก Bloomberg)
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
