ThaiPublica > เกาะกระแส > นายกฯเตรียมออกจดหมายเปิดผนึกถึง 20 มหาเศรษฐีไทยสัปดาห์หน้า ร่วมพลังสู้โควิดฯ

นายกฯเตรียมออกจดหมายเปิดผนึกถึง 20 มหาเศรษฐีไทยสัปดาห์หน้า ร่วมพลังสู้โควิดฯ

17 เมษายน 2020


พล.อ.ประยุทธฺ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

นายกฯเตรียมส่งจดหมายเปิดผนึกถึง 20 มหาเศรษฐีไทย – เดินสายพบ SMEs สัปดาห์หน้า รวมพลังสู้วิกฤตโควิด-19

เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงความคืบหน้าของสถานการณ์ไวรัส โควิด-19 ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยว่า….

พี่น้องประชาชนที่เคารพรักทุกท่านครับ วันนี้ผมต้องการจะรายงานให้ทุกท่านทราบถึงงานที่ผมกำลังจะทำ และบทบาทสำคัญของพวกเราทุกคนซึ่งเป็นคนไทยในช่วงสัปดาห์ข้างหน้านี้ ก่อนอื่นผมขอถือโอกาสเนื่องในวันปีใหม่ไทยที่เพิ่งผ่านพ้นไป กล่าว สวัสดีนะครับ วันปีใหม่ของไทยกับคนไทยทั้งประเทศ ผมขอให้ทุกท่านได้มีสุขภาพกายสุขภาพใจที่สมบูรณ์แข็งแรง และผมหวังว่าทุกท่านจะมีความสุขในวันสำคัญอีกวันหนึ่งของคนไทยนั่นก็คือวันครอบครัว สำคัญเป็นอย่างยิ่ง

ถึงแม้ว่าวันนี้นั้นจะแตกต่างไปจากทุกปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังเป็นวันสงกรานต์ และวันครอบครัวที่มีความหมาย เพราะเป็นช่วงเวลาที่จะทำให้เห็นว่าสิ่งที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตเรานั้นคือครอบครัว เราจะต้องเจอกับปัญหาใดๆก็ตามคนที่อยู่เคียงข้างเรา ก็คือพ่อแม่พี่น้องและลูกหลานของเรา ปีนี้ครอบครัวของพวกเราใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมากกว่าเพียงแค่ญาติพี่น้องทางสายเลือด และครอบครัวของเรานั้นคือเป็นคนไทยทั้งประเทศ ที่อยู่รอบข้างเรา 70 ล้านคนนะครับ

ในช่วงวิกฤตินี้ก็คงมีแค่พวกเรากันเองในครอบครัวไทยเท่านั้นที่จะอาศัยพึ่งพากันได้ที่ช่วยกันบรรเทาความทุกข์ร้อน และความยากลำบากที่ทุกคนต้องเผชิญร่วมกันอย่างเช่นคนแปลกหน้าที่ซื้ออาหารมาแบ่งปันให้เราได้อิ่มท้องแบ่งเบาภาระให้เราอยู่รอดต่อไปได้นี่ คือ ความหมายของการเป็นครอบครัวเดียวกันนะครับ ปัจจุบันประเทศไทยของเรากำลังอยู่ในภาวะการณ์ที่เป็นเครียดที่สุดกำลังทำลายชีวิต และการดำรงชีวิตของคนไทยจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เวลามองไปทั่วโลกเราก็เห็นได้ว่าวิกฤตโควิดฯ ได้ก่อให้เกิดความเสียหายมากมาย โดยไม่สนใจว่าจะเป็นประเทศร่ำรวย ประเทศยากจนหรือประเทศมหาอำนาจ

ปัจจุบันหลายประเทศในภูมิภาคตะวันตกยุโรปและอื่นๆ รวมถึงประเทศที่มีการพัฒนาสูงสุดและผู้เสียชีวิตเป็นหลักหมื่น โดยผู้เชี่ยวชาญยังคาดการณ์ว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจพุ่งสูงไม่ถึงหลักแสนต่อไปในอนาคต ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นนี้ไม่เพียงเกิดขึ้นกับชีวิตของผู้คนเท่านั้น แต่ยังเกิดความเสียหายไปถึงการทำงาน การค้าขายและการทำมาหากินที่เกือบจะหยุดทั้งหมด ถือเป็นภาวะวิกฤตครั้งใหญ่ที่ทุกรัฐบาลต้องพยายามแก้ไขให้ที่ดีที่สุด

ตอนนี้งานที่ผมมุ่งเน้นเป็นสำคัญแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มงานหลักด้วยกันนะครับ ก็คือ งานที่เกี่ยวกับสุขภาพ หมายถึงสิ่งที่เราต้องทำเพื่อลดการแพร่กระจายของโรคโควิด- 19 และเพื่อเพิ่มความสามารถในการรักษาผู้ติดเชื้อ กลุ่มงานที่ 2 คืองานเกี่ยวกับการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้มีเงินเพียงพอต่อการดำรงชีวิตผ่านมาตรการช่วยเหลือต่างๆ ซึ่งผมได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลักในการคิดและปฏิบัติมาตรการต่างๆให้มีประสิทธิภาพ หน้าที่ของผมก็คือการบัญชาการและควบคุมการทำงานทั้งหมดของรัฐบาลแทนพี่น้องประชาชน

ผมต้องเป็นผู้นำให้ทุกกระทรวงทุกหน่วยงานที่ทำหน้าที่อย่างถูกต้องอย่างเหมาะสม และมีประสิทธิภาพ ผมทราบดีถึงความกังวลของพี่น้องประชาชนเกี่ยวกับมาตราการการเยียวยา 5,000 บาท และมาตรการอื่นๆของกระทรวงการคลังและกระทรวงอื่นๆ ผมไม่ได้นิ่งนอนใจ วันนี้ผมได้สั่งการ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาพบผม เพื่ออธิบายถึงที่มาที่ไปและเหตุการณ์ทั้งหมดให้ผมทราบว่าปัญหาเกิดจากอะไร และจะแก้ไขอย่างไร ก็คงจะฝากไว้ให้ติดตามนอกจากเงิน 5,000 บาทแล้ว ช่วยติดตามงานของหลายกระทรวงด้วยกันที่มีมาตรการช่วยเหลือออกมาเกือบทุกกระทรวง เรียกว่าทุกกระทรวงช่วยกันเต็มที่ โดยภาครัฐจะเข้าไปดูแลในกลุ่มเป้าหมายของตัวเองครับ

นอกเหนือจาก 2 งานหลักที่กล่าวไปแล้ว ผมขอพูดถึงอีก 1 หน้าที่ที่ผมถือว่าสำคัญที่สุดและเป็นหน้าที่ที่คนไทยทุกคนจะต้องมีบทบาทร่วมกันกับผมหน้าที่สำคัญนี้ก็คือ เราจะสร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้นให้มากกว่าที่ผ่านมาหลายเท่าได้อย่างไร เป็นหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับวิธีการทำงานของเรา ถ้าเราต้องการจะเอาชนะสงครามกับไวรัส โควิด-19 ให้ได้หน้าที่นี้ ต้องเริ่มมาจากการยอมรับความจริง เราต้องยอมรับจุดแข็งจุดอ่อน ข้อจำกัดของตัวเองความคิดที่แตกต่างด้วยนะครับ เราต้องยอมรับว่าปัญหาความเสียหายที่เกิดจากไวรัส โควิด-19 นั้น จะแก้ไขได้ก็ด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกับภาคส่วนต่าง ๆ และและเราคงต้องยอมรับว่ารัฐบาลเพียงฝ่ายเดียว คงไม่สามารถหาคำตอบให้กับทุกปัญหาได้คนกลุ่มอื่น และภาคส่วนอื่นๆก็อาจจะมีคำตอบที่ดี และมีความคิดที่ดีได้ด้วยเช่นเดียวกัน

วิกฤตโควิดฯ ในครั้งนี้ใหญ่และซับซ้อนมาก หน้าที่ของเราจึงต้องต่อสู้ไปด้วยกัน และเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งประเทศเราทุกคนจะต้องเป็นทีมประเทศไทยด้วยกัน เราจะต้องหาความร่วมมือดึงทุกภาคส่วนของสังคม รวมถึงกลุ่มธุรกิจทุกกลุ่มทุกคนที่มีความรู้ความสามารถ และพร้อมที่จะช่วยเหลือประเทศ เราต้องการคนเก่งที่มีอยู่มากมายในประเทศของเราให้มาร่วมมือกัน นี่คือคำว่า “ทีมประเทศไทย” ไม่ว่าจะมาจากภาครัฐจากมหาวิทยาลัย ศูนย์วิจัยต่างๆ หรือมาจากภาคเอกชน พวกมหาเศรษฐีหรือพี่น้องประชาชนที่ยอมเสียสละตัวเองเข้ามาร่วมกันต่อสู้เหมือนกับที่ทำกันอยู่ทุกวันนี้ ร่วมกับกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์สาธารณสุขและอาสาสมัครมากมายได้เสียสละตัวเองอย่างกล้าหาญ เผชิญความเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอยู่ทุกวัน เพื่อช่วยรักษาชีวิตของผู้อื่น ผมทราบดีว่าหลายภาคส่วนในทีมประเทศไทยได้เริ่มลงมือทำอะไรที่สำคัญและมีประโยชน์ไปแล้วหลายอย่าง แต่วันนี้ผมต้องการเพิ่มความร่วมมือกับท่านทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้นโดยเริ่มที่ภาคเอกชนก่อน สิ่งที่ผมจะทำในช่วงสัปดาห์ข้างหน้านั้น

ประการแรก ผมจะออกจดหมายเปิดผนึกถึงมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย 20 ท่าน ขอให้ท่านเหล่านั้นได้บอกผมว่าในฐานะที่ท่านเป็นผู้อาวุโสของสังคมท่านจะร่วมมือกันกับเราได้อย่างไร และท่านจะลงมือช่วยเหลือประเทศไทยของเราให้มากขึ้นได้อย่างไรต่อไป มหาเศรษฐีของประเทศไทยทั้งหลายล้วนมีอิทธิพลอย่างมากต่อเศรษฐกิจของประเทศ และถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ผมขอให้ท่านได้มีบทบาทสำคัญในการร่วมกันช่วยเหลือประเทศ และร่วมเป็นทีมประเทศไทยด้วยกันกับเราด้วยนะครับ

ผมเข้าใจและซาบซึ้งที่หลายท่านได้ร่วมมือทำไปแล้วหลายเรื่อง แต่ผมต้องการให้ทุกท่านทำเพิ่มเติมมากกว่าที่ท่านได้ทำไปแล้ว ผมรู้ว่าทุกท่านต่างก็เต็มใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ประเทศต้องการความช่วยเหลืออย่างมากที่สุด เพราะผมรู้ว่าความเดือดร้อนของคนไทยก็คือความเจ็บปวดของท่านด้วย

ผมขอให้ทุกท่านได้แบ่งปันความสามารถ และความฉลาดหลักแหลม รวมทั้งมุมมองอันมีวิสัยทัศน์ของพวกท่านพร้อมกับใช้องค์กรที่มีศักยภาพสูงของพวกท่านมาช่วยกันจัดการกับวิกฤตที่เรากำลังเผชิญอยู่เหล่านี้ นอกเหนือจากกลุ่มมหาเศรษฐีของประเทศไทยผมยังอยากจะรับฟัง และใช้ความรู้ความสามารถของภาคเอกชนทั้งหมดด้วย ดังนั้นสิ่งที่ผมจะทำในช่วงสัปดาห์ข้างหน้า

ประการที่ 2 ก็คือผมจะไปพบกับสมาคมภาคธุรกิจไม่ว่าจะขนาดกลางหรือขนาดเล็ก เพื่อรับฟังพวกท่านด้วยตัวผมเองโดยตรง ไม่ต้องผ่านหน่วยงานใด เพื่อให้ผมได้รับทราบถึงสถานการณ์ที่แท้จริง ผมต้องการเข้าถึงความรู้ความสามารถและความสามารถของท่านและความเชี่ยววชาญอันหลากหลายของภาคเอกชน นอกจากนี้ผมต้องการรับฟังความคิดเห็นข้อเสนอแนะความต้องการและความท้าทายที่ทุกคนกำลังเผชิญอยู่ ผมต้องการรับฟังว่าพวกท่านต้องการที่จะร่วมมีบทบาทในการแก้ปัญหาครั้งนี้อย่างไร รวมทั้งสิ่งที่ท่านได้ทำไปแล้วและสิ่งที่ท่านจะช่วยเราทำต่อไป และที่สำคัญผมต้องการได้ยินความคิดเห็นของพวกท่านว่า มีจุดใดบ้างที่รัฐบาลควรจะทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม แน่นอนนะครับว่าเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของรัฐบาลที่ต้องช่วยเหลือคนไทยทั้งประเทศ แต่เราสามารถจะขยายแรง กำลังในการช่วยเหลือให้ใหญ่ขึ้นได้ด้วยความร่วมมือกับภาคเอกชนที่มีทรัพยากรมากมีวิธีการทำงาน และมีวิธีการเข้าถึงผู้เดือดร้อนได้อย่างรวดเร็ว และคล่องตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากรัฐบาลจะเข้าไปช่วยอำนวยความสะดวกให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมมีความคิดเห็นที่หลากหลาย แม้กระทั่งในกลุ่มผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้วยกันเอง ก็ยังมีมุมมองการแก้ไขปัญหาที่แตกต่างกันออกไป

ผมเห็นว่าเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์นะครับ ผมอยากจะรับฟังทุกท่าน เพื่อช่วยกันหาทางออกที่เหมาะสมที่สุด ผมเชื่อมั่นว่าความคิดเห็นของท่านทั้งหลาย แม้จะมีความแตกต่างกันอยู่บ้างแต่ล้วนเกิดจากความรักชาติ และความปรารถนาดีต่อประเทศทั้งสิ้น ในเมื่อเราเลือกที่จะปฏิบัติทางใดทางหนึ่งแล้ว ก็ขอให้ทุกคนได้ร่วมมือการสนับสนุน เพื่อช่วยกันผลักดันให้เกิดความสำเร็จตามที่เราต้องการ

ผมขอให้พวกเราทุกคนทำงานร่วมกันเป็นครอบครัวเดียวกัน ขอให้พวกเราใช้วิกฤตครั้งนี้ ให้เป็นโอกาสที่ช่วยสร้างประเทศไทยของเราให้แข็งแกร่งขึ้นมาอีกครั้งมีความเป็นปึกแผ่น และมีความเป็นหนึ่งเดียวกันของพี่น้องคนไทยในช่วงเวลาที่ประเทศของเรากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ขอให้พวกเราทุกคนได้ร่วมกันแสดงพลังของความเป็นไทยออกมาอีกครั้ง ให้โลกได้เห็นว่าพวกเราคนไทยได้ร่วมมือช่วยเหลือกันและต่อสู้ไปด้วยกัน โดยไม่มีสีเสื้อและไม่มีผักมีฝ่ายทางการเมืองในอนาคต

เมื่อเรามองย้อนกลับมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้จะเห็นว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความทุกข์ยาก และความเสียหายมากมาย แต่ในอีกด้านหนึ่ง เราจะเห็นว่านี่คือช่วงเวลาที่เราได้อะไรที่ยิ่งใหญ่กลับคืนมาด้วย นั่นคือเราได้ค้นพบตัวตนที่แท้จริงของคนไทยอีกครั้ง และเราได้ค้นพบความกลมเกลียวเป็นครอบครัวเดียวกันของพวกเราคนไทยทั้งประเทศ คงมีความหวังเช่นนั้นนะครับ และผมก็เชื่อว่าคนไทยทุกคนก็มีความหวังเช่นเดียวกันกับผม ผมขอให้ทุกคนมาร่วมมือกันทำให้ความหวังของพวกเราเป็นความจริง เราจะต้องชนะไปด้วยกันขอบคุณครับ…..