ThaiPublica > เกาะกระแส > “Wealth” ตลาดหุ้นวันเดียวหาย 1.4 ล้านล้านบาท

“Wealth” ตลาดหุ้นวันเดียวหาย 1.4 ล้านล้านบาท

12 มีนาคม 2020


การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่หรือโควิด-19 ที่อุบัติขึ้นพร้อมกับการรายงานผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสครั้งแรก 31 ธันวาคม 2019 ได้แพร่กระจายไปอย่างน้อย 114 ประเทศทั่วโลกสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจการเงิน โดยเฉพาะตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จากความกังวลของนักลงทุนว่า การระบาดของไวรัสซึ่งทำให้ห่วงโซ่การผลิตชะงักงันนั้น จะมีผลต่อเนื่องไปถึงผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทันทีตั้งแต่เดือนมกราคม TMB Analytics ธนาคารทหารไทยวิเคราะห์ผลกระทบจาก COVID-19 ว่าจะมีผลต่อการค้าและห่วงโซ่การผลิตไทยเสียหาย 2.4 แสนล้านบาท

ขณะที่สำนักวิจัยหลายแห่งทั้งของรัฐและเอกชนพากันปรับคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยล่าสุดวันนี้(12 มีนาคม 2563) บริษัทหลักทรัพย์ภัทร บริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ปรับประมาณการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยลงอีกครั้งจาก 1.4% เป็นติดลบ 0.4% หลังการที่การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่หรือโควิด-19 ที่ระบาดในภูมิภาคหนึ่ง ได้กลายเป็นการระบาดครั้งใหญ่ของโลกหรือ Pandemic

วันที่ 3 มกราคมได้มีประกาศการระบาดโคโรนาไวรัสในอู่ฮั่น ต่อมาวันที่ 24 มกราคม รัฐบาลจีนประกาศปิดเมืองอู่ฮั่น วันที่ 30 มกราคม องค์การอนามัยโลกหรือ World Health Organization(WHO) ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของโลก

ตลาดหลักทรัพย์ไทยได้รับผลกระทบจากการระบาดของโคโรน่าไวรัสต่อเนื่อง เช่นเดียวกับตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก โดยดัชนี SET Index ซึ่งปิดที่ระดับ 1,579.84 จุดในวันที่ 30 ธันวาคม 2562 ได้ลดลงมาที่ 1,514.14 จุดในเดือนมกราคม หรือลดลง 4.2% ในสกุลเงินบาท

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยภายในที่กระทบต่อตลาดอีก เช่น วันที่ 10 มกราคม มีกรณีสส.เสียบบัตรแทนกันในการลงคะแนนรับร่าง พรบ.งบประมาณปี 2563 ทำให้พรบ.ล่าช้า และวันที่ 29 มกราคม ศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยร่างพรบ.งบประมาณมิชอบหรือไม่

มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของ SET และ mai ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2562 อยู่ที่ 16.9 ล้านล้านบาท แต่ ณ สิ้นเดือนมกราคม 2563 มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของ SET และ mai อยู่ที่ 16.2 ล้านล้านบาท ลดลง 4.1%

ที่มาภาพ:สรุปภาวะตลาดหลักทรัพย์เดือนมกราคม 2563 โดย SET

เดือนกุมภาพันธ์ 2563 ตลาดหลักทรัพย์ไทยยังคงได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 โดยดัชนี SET Index ปิดที่ 1,340.52 จุด ลดลง 11.5% จากเดือนมกราคมในสกุลเงินบาท แต่มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai อยู่ที่ 65,860 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.8%

มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของ SET และ mai ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2563 อยู่ที่ 14.6 ล้านล้านบาท ลดลง 13.9% จากสิ้นปี 2562 และลดลง 9.87% จากเดือนมกราคม

ที่มาภาพ: สรุปภาวะตลาดหลักทรัพย์เดือนกุมภาพันธ์ โดย SET

เมื่อคืนวันที่ 11 มีนาคม 2563 องค์การอนามัยโลกได้ประกาศอย่างเป็นทางการให้ การแพร่กระจายของไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่หรือ โควิด-19 เป็นการระบาดใหญ่ของโลก หรือ Pandemic ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งลงอย่างหนัก

วันนี้(12 มีนาคม 2563) ตลาดหุ้นไทยลดลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงเช้า เมื่อเปิดการซื้อขายในช่วงบ่ายได้ลดลงอีกถึง 125.05 จุด หรือ 10% ส่งผลให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ ไทย ต้องใช้มาตรการ Circuit Breaker พักการซื้อขายเป็นเวลา 30 นาที

ส่งผลให้ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เรียกรมต.คลังและผู้บริหารกระทรวงการคลังประชุมด่วน พร้อมสั่งให้คลังทำการศึกษาจะจัดตั้งกองทุนพยุงหุ้น เนื่องจากตลาดหุ้นไทยยังมีพื้นฐานที่ดี ส่วนขนาดกองทุนจะเป็นเท่าไหร่ จะเอาเงินจากไหน อยู่ในขั้นตอนการศึกษา

อย่างไรก็ตามเมื่อกลับมาเปิดการซื้อขายตลาดหุ้นไทยก็ยังลดลงต่อ จนดัชนี SET Index ปิดที่ 1,114.91 จุดลดลง 134.98 จุดหรือ 10.80% มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของ SET และ mai อยู่ที่ 12.15 ล้านล้านบาท

หากวัดความมั่งคั่ง หรือ Wealth ของนักลงทุนในตลาด จากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด ก็พบว่าความมั่งคั่งของนักลงทุนหายไปภายในวันนี้วันเดียวถึง 1.46 ล้านล้านบาทหรือราว 12% เมื่อเทียบกับมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของ SET และ mai ของ วันที่ 11 มีนาคม 2563 ซึ่งอยู่ที่ 13.62 ล้านล้านบาท

ในรอบกว่า 2 เดือนความมั่งคั่งของนักลงทุนในตลาดหุ้นหายไปถึง 3.85 ล้านล้านบาทหรือ 22.78% จากการระบาดของไวรัสโควิด-19

ข้อมูลจากเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ https://www.set.or.th ณ สิ้นปี 2562 จำนวนรายลูกค้าที่เปิดบัญชีนับเป็นราย มีจำนวน 1,817,801 ราย ลูกค้าที่เปิดบัญชีซื้อขาย คิดเป็นรายบัญชี 2,766,934 บัญชี สำหรับการซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ต จำนวนลูกค้าที่เปิดบัญชีนับเป็นรายมีจำนวน 1,668,013 ราย ลูกค้าที่เปิดบัญชี คิดเป็นรายบัญชีมีจำนวน 2,494,934 บัญชี