ThaiPublica > เกาะกระแส > รวมของขวัญปีใหม่ 2563 “รัฐบาลประยุทธ์ 2”

รวมของขวัญปีใหม่ 2563 “รัฐบาลประยุทธ์ 2”

25 ธันวาคม 2019


ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

รวมของขวัญปีใหม่ 2563 “รัฐบาลประยุทธ์ 2”

เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2562 ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวของขวัญปีใหม่ ปี 2563 ของกระทรวงการคลังว่า ปีนี้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง ได้จัดทำของขวัญปีใหม่ปี 2563 สำหรับประชาชนทั่วไป ผู้เสียภาษี เกษตรกรรายย่อย ผู้ประกอบการ SMEs รวมถึงภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยมีรายละเอียดดังนี้

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้เริ่มดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือตามโครงการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว ปีการผลิต 2562/63 แก่เกษตรกรที่ลงทะเบียนผู้ปลูกข้าวนาปีกับกรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และทำให้เกษตรกรมีเงินทุนหมุนเวียนเป็นค่าใช้จ่ายในการเก็บเกี่ยวและรักษาคุณภาพข้าวในอัตราไร่ละ 500 บาท ตามพื้นที่ที่ปลูกข้าวจริง แต่ไม่เกินครัวเรือนละ 20 ไร่ วงเงิน 25,793 ล้านบาท ข้อมูล ณ วันที่ 18 ธันวาคม 2562 ธ.ก.ส. ได้เริ่มโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรไปแล้วจำนวน 285,887 ราย เป็นเงิน 1,537 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดว่าจะเร่งทยอยโอนเงินได้ร้อยละ 80 ของเป้าหมายทั้งหมด หรือ ประมาณ 20,000 ล้านบาท ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2562 นี้ ยกเว้นพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งจะทยอยจ่ายเงินให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 เมษายน 2563

ธนาคารออมสิน ได้จัดทำ 2 โครงการ ได้แก่

    1) โครงการคืนดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่ลูกค้ารายย่อย คืนดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 10 ของดอกเบี้ยที่ธนาคารได้รับในรอบ 12 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2561 ถึงเดือนตุลาคม 2562 สำหรับลูกค้าที่มีวงเงินรวมทุกสัญญาไม่เกิน 200,000 บาท
    2) โครงการมอบอัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับลูกด้เงินฝากประจำ โดยเพิ่มจากอัตราดอกเบี้ย ตามประกาศเดิมอีกร้อยละ 0.25 ต่อปี สำหรับเงินฝากไม่เกินรายละ 1 ล้านบาท

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) คืนเงิน (Cash Back จำนวน 1,00 บาท ให้แก่ลูกค้าที่มีประวัติการผ่อนชำระหนี้ดีย้อนหลัง 48 เดือน โดยชำระตรงเวลาและไม่น้อยกว่าเงินงวดที่ธนาคารกำหนด สำหรับวงเงินกู้ไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยผู้ที่สนใจสามารถแสดงความจำนงที่ ธอส. ได้ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยธนาคารจะโอนเงินผ่านทางบัญชีเงินฝากที่ผูกกับแอปพลิเคชั่น GHB ALL ของทางธนาคารภายในเดือนธันวาคม 2562 ถึงเดือนมกราคม 2563

ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย จัดทำ 2 โครงการ ดังนี้

    1) โครงการเสริมสภาพคล่องผู้ส่งออก วงเงินโครงการ 2,000 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Small and Medium Enterprises : SMEs) ที่เป็นผู้ส่งออก ผู้ผลิตเพื่อผู้ส่งออกหรือผู้นำเข้าเพื่อการส่งออก เพื่อใช้เป็นเงินหมุนเวียน หรือ ปรับปรุงเครื่องจักร โรงงาน วงเงินอนุมัติสูงสุด 20 ล้านบาทต่อราย ระยะเวลากู้สูงสุด 7 ปี อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-2 ร้อยละ 3.99 ต่อปี และฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อสูงสุด 4 ปี
    2) โครงการการลดภาระในการชำระหนี้ สำหรับลูกค้า SMEร ของธนาคารที่ไม่ต้องการวงเงินเพิ่ม แต่ต้องการลดภาระในการผ่อนชำระหนี้ แบ่งเป็น

  • ลูกค้าเงินกู้ระยะยาว ขยายระยะเวลาผ่อนชำระเงินกู้สูงสุดไม่กิน 2 ปี และลดอัตราดอกเบี้ยลงจากเดิมร้อยละ 0.125 ต่อปี
  • ลูกค้าเงินกู้ระยะสั้น เพิ่มสัดส่วนการเบิกเงินกู้สูงสุดร้อยละ 95 ของมูลค่าเลตเตอร์ออฟเครดิต (Letter of Credit: L/C) และร้อยละ 85 ของมูลค่าใบสั่งซื้อสินค้า (purchase Order : P/O) และลดอัตราดอกเบี้ย และอัตรารับซื้อลดเอกสารส่งออกลง จากเดิมร้อยละ 0.125 ต่อปี

ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ยกเว้นค่าธรรมเนียมที่ธนาคารเรียกเก็บทุกประเภท ได้แก่ ค่าประเมินหลักประกัน ค่าธรรมเนียมนิติกรรมสัญญา สำหรับลูกค้าที่ขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อบ้านแลกเงินที่ทำสัญญาสินเชื่อตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563 นอกจากนี้ ธนาคารยังมีอัตรากำไรพิเศษสำหรับ Refinance สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ในอัตราเริ่มต้นเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับร้อยละ 3.056 ต่อปี และได้รับเงื่อนไขการยกเว้นค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ข้างต้นด้วยเช่นกัน

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย จัดทำ 3 โครงการ ดังนี้

    1) มาตรการลดภาระการชำระหนี้ สำหรับลูกค้าชั้นดีที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 5 ล้านบาท พักชำระเงินตัน
    คงเหลือ (ชำระเฉพาะดอกเบี้ย) ได้นานถึงสูงสุด 6 เดือน
    2) มาตรการสร้างรายได้ให้แก่ SMEs โดยหาช่องทางการจำหน่ายให้ลูกค้า ในงานออกบูธจำหน่ายสินค้า SMEs ภายใต้โครงการ “SMEs Gift Fest” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 ธันวาคม 2562 – 5มกราคม 2563 ณ ศูนย์สรรพสินค้าซีคอนสแควร์
    3) สินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ สำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นเฉลี่ยร้อยละ 0.33 ต่อเดือน วงเงินกู้ต่อรายสูงสุด 15 ล้านบาท
    4) สินเชื่อ SMART Factoring บัญชีเดียว อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นร้อยละ 0.57 ต่อเดือน วงเงินสูงสุดร้อยละ 90 ของมูลหนี้ทางการค้า พร้อมทั้งให้เครดิตนาน 180 วัน

บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมชนาดย่อม จัดทำโครงการ บสย. SMEs D ยกกำลังสาม วงเงินไม่เกิน 10,000 ล้านบาท (ภายใต้โครงการ Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่ 8) วงเงินค้ำประกันต่อรายไม่เกิน 5 ล้านบาท คิดอัตราค่าธรรมเนียมร้อยละ 1.75 ฟรีค่าธรรมเนียม 3 ปีแรก สำหรับการค้ำประกันสินเชื่อภายใต้โครงการสินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน (Local Economy Loan) ของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย

กรมสรรพากร จัดทำ 2 โครงการ ดังนี้

    1) SME โปรดีบัญชีเดียว เป็นมาตรการที่กรมสรรพากรร่วมมือกับสถาบันการเงินทั้ง 19 แห่ง ในการสนับสนุนผู้ประกอบการที่ลงทะเบียนแจ้งใช้สิทธิตาม พ.ร.บ. ยกเว้นเบี้ยปรับฯ พ.ศ. 2562 โดยให้สิทธิประโยชน์พิเศษทางการเงินในรูปแบบสินเชื่ออัตราพิเศษ หรือ รูปแบบอื่น ๆ อันจะช่วยสร้างรากฐานทางธุรกิจที่มั่นคงให้กับผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งจะเปิดตัวในวันที่ 7 มกราคม 2563
    2) เว้นภาษี แก้หนี้ NPL เป็นมาตการยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ อันเนื่องมาจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 เพื่อเป็นการลดภาระและเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ภาคธุรกิจ

กรมสรรพสามิต จัดทำแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผ่านการประชาสัมพันธ์ รณรงค์ไม่ดื่มสุราขณะขับขี่ยานพาหนะและใช้ความระมัดระวังในการขับขี่และรักษาวินัยจราจร เข้มงวดการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลา สถานที่ และบุคคลที่ห้ามจำหน่าย จัดเจ้าหน้าที่ร่วมปฏิบัติงานศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และจัดชุดเฉพาะกิจสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปรามพร้อมสนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันตรวจสอบและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตตามแหล่งสถานบริการ แหล่งชุมชน และพื้นที่เป้าหมายอื่น ๆ

กรมศุลกากร จัดทำโครงการผู้ประกอบการโดนใจได้ประโยชน์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดเก็บค่าภาษีอากรให้กับผู้ประกอบการที่ชำะค่าภาษีอากรไม่ครบถ้วนได้ทบทวนตนเอง และเปิดโอกาสให้ชำระค่าภาษีอากรที่ขาดด้วยความสมัครใจ โดยโครงการดังกล่าวได้กำหนดระเบียบปฏิบัติให้เจ้าหน้าที่มีหนังสือแจ้งผู้ประกอบการที่ได้รับการพิจารณาเบื้องตันว่าเป็นผู้ประกอบการสุจริต แต่อาจชำระค่าภาษีอากรไว้ไม่ครบถ้วน ได้ทบทวนตนเอง ตามประเด็นข้อสงสัยที่เจ้าหน้าที่มีหนังสือแจ้งให้ทราบ และไปชำระค่าภาษีอากรที่ขาดให้ครบถ้วนด้วยความสมัครใจตามประเด็นที่เจ้าหน้ำที่ตรวจสอบ หากไม่ปรากฎพยานหลักฐานว่ากระทำการโดยทุจริต ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการพิจารณาคดีโดยการผ่อนผันการปรับ

กรมธนารักษ์ จัดทำโครงการตลาดประชารัฐ ตามแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน “จัดทำชุมชนให้เป็นห้องประชุมในที่ราชพัสดุ” ในพื้นที่ 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร โดยจัดพื้นที่ในที่ราชพัสดุ เพื่อจำหน่ายสินค้ที่แสดงออกถึงเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของวิถีชุมชน พร้อมทั้งจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นในการซื้อขายให้มีสุขอนามัยที่ดี รวมถึงเชื่อมโยงการซื้อขายสินค้าเกษตร สินค้าหัตถกรรม สินค้า OTOP ของชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียงมาจำหน่าย เป็นต้น โดยจะเริ่มโครงการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 ถึงเดือนกันยายน 2563

ส่วนกระทรวงอื่นๆนั้น เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2562 ที่ประชุม ครม. มีมติอนุมัติของขวัญปีใหม่ 2563 ดังนี้

กระทรวงคมนาคม ประกอบด้วยการยกเว้นค่าผ่านทาง ยกเว้นค่าผ่านทาง 4 เส้นทาง ได้แก่ ยกเว้นค่าธรรมเนียมผ่านทางบนทางหลวงพิเศษ หมายเลข 7 และ 9 สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) ตอนบางปะอิน-บางพลี และตอนพระประแดง-บางแค ช่วงพระประแดง-ต่างระดับบางขุนเทียน และยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษในทางพิเศษบูรพาวิถี และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2562 เวลา 1.00 น. ถึงวันที่ 3 มกราคม 2563 เวลา 24.00 น. พร้อมให้ส่วนลดค่าผ่านทางพิเศษ สำหรับระบบเก็บค่าผ่านทางพิเศษอัตโนมัติร้อยละ 5 ต่อเที่ยว ทุกด่านเก็บค่าผ่านทาง ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเริ่มดำเนินการต่อจากการยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษฯ หลังเทศกาลปีใหม่ไปแล้ว ต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 1 เดือน

จำหน่ายคูปองราคาถูกแทนการชำระด้วยเงินสด สำหรับผู้ใช้ทางยกระดับดอนเมือง (ดอนเมืองโทลล์เวย์) ในอัตราร้อยละ 5 เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไป ต่อเนื่องไปอีก 6 เดือน การจ่ายเครดิตเงินคืนจากการเดินทางด้วยบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ ชำระค่าโดยสารรถประจำทางสาธารณะ (รถเมล์) โดยได้รับเครดิตเงินคืน 1 สิทธิ เท่ากับ 2 บาท สูงสุด 15 สิทธิ/บัตร/เดือน (30 บาท/บัตร/เดือน) ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2563

ส่วนการเดินทางทางอากาศ ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 3 มกราคม 2563 จะมีการยกเว้นค่าบริการจอดรถยนต์ในลานจอดรถยนต์ระยะยาว โซน C ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ ให้บริการที่จอดรถ โดยไม่คิดค่าบริการในบริเวณที่กำหนด จำนวน 3 จุด รวม 450 คัน ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) มีการจำหน่ายบัตรโดยสารราคาพิเศษ “Weekday Vacation” สำหรับการเดินทางวันจันทร์-พฤหัสบดี ราคาเริ่มต้น 1,300 บาท อีกทั้งสายการบินไทยสมายล์ ยังมีการเพิ่มเที่ยวบิน เพื่อรองรับปริมาณความต้องการเดินทางของประชาชนด้วย

การคมนาคมทางราง ประกอบด้วย มาตรการปรับลดอัตราค่าโดยสาร รถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม หรือ สายสีม่วง กำหนดค่าโดยสารตามระยะทางค่าโดยสารสูงสุด 20 บาท (14-20บาท) จากอัตราค่าโดยสารปกติ (14-42บาท)

มาตรการขยายเวลาเปิดให้บริการรถไฟฟ้า ได้แก่ รถไฟฟ้า Airport Rail Link ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2562 เวลา 05.30 น. ถึงวันที่ 1 มกราคม 2563 เวลา 02.00 น. รถไฟฟ้า MRT สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) และสายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2562 เวลา 06.00 น.ถึงวันที่ 1 มกราคม 2563 เวลา 02.00 น. รวมไปถึงขยายเวลาให้บริการอาคารและลานจอดรถของ MRT ทั้ง 2 สาย โดยเปิดให้บริการตั้งแต่ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 เวลา 05.00 น. ถึงวันที่ 1 มกราคม 2563 เวลา 03.00 น

การคมนาคมทางน้ำ จัดทำ “โครงการสูงวัยได้สิทธิ” ผู้สูงอายุที่ใช้บริการเรือในเขตกรุงเทพมหานคร จะได้ลดหย่อนค่าโดยสารเฉลี่ยร้อยละ 50 ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไป รวมทั้งจัดกิจกรรมล่องเรือสวดมนต์ข้ามปีภายใต้กิจกรรม “เจ้าท่าพาล่องสายชล สวดมนต์ภาวนาข้ามปี” ในวันที่ 31 ธันวาคม 2562

นอกจากนี้ในส่วนของการส่งเสริมความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกของประชาชน กระทรวงคมนาคมยังได้จัดตั้งจุดตรวจร่วมกับสำนักงานคณะกรรมอาชีวศึกษา จำนวน 259 จุด ทั่วประเทศ เพื่อให้บริการฟรีในด้านต่าง ๆ เช่น ช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน บริการรถยก/รถลาก บริการตรวจเช็คสภาพรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฟรี 20 รายการ ณ ศูนย์บริการที่มีป้ายเข้าร่วมกิจกรรมของกรมขนส่งทางบก และศูนย์ซ่อมบำรุงและตรวจสภาพรถของ บริษัท ขนส่ง จำกัด จัดทำแอปพลิเคชั่น “นำทาง (NUMTANG)” เพื่อให้บริการข้อมูลด้านการอำนวยความสะดวก ในการเดินทางของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลด้วยระบบขนส่งสาธารณะทั้งทางถนน ทางราง และทางน้ำ

กระทรวงมหาดไทย จัดของขวัญปีใหม่ 9 โครงการ อาทิ สถานธนานุบาลทั่วไทย พร้อมใจลดอัตราดอกเบี้ย เงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท เสียดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ต่อเดือน จากเดิมร้อยละ 0.50 หากเงินต้นเกินกว่า 5,000 บาท คิดอัตราร้อยละ 1 ต่อเดือน จากเดิมร้อยละ 1.25 ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. – 29 ก.พ.63 จัดระเบียบสายสื่อสารทั่วไทย ระยะทางรวม 10,020 กิโลเมตร บริการและอำนวยความสะดวกประชาชนโดยใช้บัตรประจำตัวประชาชนใบเดียว ไม่ต้องใช้สำเนาเอกสาร เปิดให้บริการ 59 หน่วยงานใน 214 งานบริการ ปรับปรุงการให้บริการรังวัดเฉพาะรายในสำนักงานที่ดินทั่วประเทศให้นัดรังวัดได้ภายใน 50 วัน เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง โปร่งใส และสามารถตรวจสอบการปฏิบัติงานรังวัดได้ทุกขั้นตอน จัดตลาดนัดเทศบาลคุณภาพมาตรฐานทั่วไทย 742 แห่ง สนับสนุนพืชผลทางการเกษตรปลอดสารพิษ เฝ้าระวังสารปนเปื้อน เปิดสวนสาธารณะลอยฟ้า หรือ พระปกเกล้าสกายปาร์ค จุดแลนด์มาร์ก แห่งใหม่ของกทม.

กระทรวงพลังงานจัดของขวัญปีใหม่ 3 โครงการ ได้แก่ 1. ปรับลดราคาขายปลีกน้ำมัน B 10 และ E 20 ลง 1 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 25ธ.ค.62 – 10ม.ค.63 2. ตรึงราคาน้ำมันทุกประเภทเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่ของบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) ระหว่างวันที่ 25ธ.ค.62 – 2ม.ค.63 และ3. ตรึงราคาค่าไฟฟ้า โดยคงอัตราค่าเอฟทีสำหรับการเรียกเก็บเดือน ม.ค. – เม.ย.63 จำนวน -11.60 สตางค์ต่อหน่วย

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดให้เข้าชมฟรีแหล่งเรียนรู้ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ 36 จังหวัด 113 แห่ง ในระหว่างวันที่ 31 ธ.ค.62 – 1 ม.ค.63 แจกเมล็ดพันธุ์ไม้มีค่า กล้าไม้ และพันธุ์กล้วยไม้ฟรี รับคืนซากขยะอิเล็กทรอนิกส์ ตรวจลดมลพิษจากรถโดยสารประจำทาง รถยนต์ และจักรยานยนต์ ตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบเคลื่อนที่ จัดเร่งที่ดินอยู่อาศัย หรือทำกินในพื้นที่ป่าสงวน ป่าอนุรักษ์ ตามมติครม. โครงการแก้ไขปัญหาขยะ อนุรักษ์ และฟื้นฟูแหล่งน้ำ เป็นต้น