ThaiPublica > เกาะกระแส > ยักษ์ใหญ่วอลมาร์ต ก้าวสู่ธุรกิจบริการสุขภาพ พร้อมกับคำขวัญที่โด่งดัง “ทุกๆ วัน ราคาถูก”

ยักษ์ใหญ่วอลมาร์ต ก้าวสู่ธุรกิจบริการสุขภาพ พร้อมกับคำขวัญที่โด่งดัง “ทุกๆ วัน ราคาถูก”

27 กันยายน 2019


รายงานโดย ปรีดี บุญซื่อ

ที่มาภาพ : https://en.wikipedia.org/wiki/Everyday_low_price

บทความในเว็บไซต์ reason.com รายงานว่า วอลมาร์ต (Walmart) ยักษ์ใหญ่ธุรกิจค้าปลีกของสหรัฐฯ ได้เปิดคลินิกบริการสุขภาพของตนเองขึ้นเป็นครั้งแรกในศูนย์การค้าที่เมืองแดลลัส รัฐจอร์เจีย เพื่อเป็นโครงการนำร่อง ก่อนจะเปิดคลินิกดังกล่าวในศูนย์การค้าที่อื่นๆ ที่มีอยู่ทั่วสหรัฐฯ นับเป็นครั้งแรกที่วอลมาร์ตนำเอาธุรกิจค้าปลีกมาร่วมกับบริการสุขภาพ พร้อมกับคำขวัญที่โด่งดัง “ทุกๆวัน ราคาถูก” (everyday low price)

สิ่งที่เป็นมิติใหม่ด้านการบริการสุขภาพของวอลมาร์ตคือ ผู้บริโภคจะรู้แน่ชัดว่าบริการสุขภาพแต่ละประเภทจะมีค่าใช้จ่ายเท่าไร วอลมาร์ตได้พิมพ์ค่าบริการของคลินิกสุขภาพออกมา เช่น การตรวจสุขภาพพื้นฐาน ผู้ใหญ่ 30 ดอลลาร์ เด็ก 20 ดอลลาร์ การตรวจไข้หวัดใหญ่ 20 ดอลลาร์ และตรวจสุขภาพตา 40 ดอลลาร์

การเปิดคลินิกสุขภาพของวอลมาร์ตถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ ก่อนหน้านี้วอลมาร์ตเคยเปิดคลินิกขนาดเล็กมาแล้ว โดยมีพื้นที่เพียง 15 ตารางเมตร ให้บริการพื้นฐาน เช่น ฉีดวัคซีน หรือการรักษาเบื้องต้น แต่คลินิกแห่งใหม่ของวอลมาร์ตจะมีพื้นที่ 1,000 ตารางเมตร มีผู้ชำนานการและบุคลากรทางการแพทย์ประจำการ

ที่มาภาพ : forbes.com

ศูนย์สุขภาพแบบวันสตอป

บทความของ New York Time ชื่อ In Ambitious Bid, Walmart Seeks Foothold in Primary Care Services กล่าวว่า วอลมาร์ต บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ วางแผนมาหลายปี ที่จะเสนอการบริการสุขภาพพื้นฐานให้แก่ลูกค้าหลายร้อยล้านคนที่เป็นลูกค้าประจำของศูนย์การค้าวอลมาร์ต โดยที่ลูกค้าสามารถใช้บริการสุขภาพได้เหมือนกับที่เข้าไปซื้อมันฝรั่งทอดหรือเครื่องตัดหญ้า วอลมาร์ตต้องการให้ศูนย์สุขภาพกลายเป็นจุดชอปปิงด้านสุขภาพ ที่ลูกค้าสามารถซื้อบริการสุขภาพทุกอย่างในจุดเดียว

วอลมาร์ตกล่าวว่า คลินิกสุขภาพสามารถให้บริการด้านสุขภาพได้อย่างกว้างขวาง เช่น การดูแลโรคเรื้อรังต่างๆ และการบริการสุขภาพพื้นฐาน เนื่องจากวอลมาร์ตมีธุรกิจในท้องถิ่นชนบทของสหรัฐฯ อย่างกว้างขวาง การเปิดธุรกิจบริการสุขภาพของวอลมาร์ตจึงเป็นจุดที่เดิมขาดแคลนแพทย์ นักวิเคราะห์กล่าวกับ New York Times ว่า หากวอลมาร์ตให้บริการในพื้นที่ชนบท จะช่วยลดช่องว่างการเข้าถึงบริการสุขภาพได้อย่างมาก

แต่แพทย์บางคนให้ความเห็นว่า แม้การเพิ่มช่องทางการเข้าถึงบริการสุขภาพเป็นเรื่องที่ดี แต่คนไข้ที่มีปัญหาโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ต้องการการดูแลที่ซับซ้อนมากกว่า ที่บริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่จะให้บริการได้ คลินิกสุขภาพธรรมดา (retail clinic) ไม่สามารถทำหน้าที่ดูแลโรคเรื้อรังอย่างต่อเนื่อง แต่อาจให้บริการในเบื้องต้นได้

แต่แพทย์ที่ดูแลโครงการสุขภาพของวอลมาร์ตกล่าวว่า สำหรับคนไข้ที่มีปัญหาสุขภาพที่ซับซ้อน เป้าหมายของวอลมาร์ตคือ การเป็นจุดบริการแรกของคนไข้ และการดูแลสุขภาพที่ต่อเนื่อง ในสภาพดังกล่าว คลินิกของวอลมาร์ตจะช่วยให้คนไข้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ให้บริการสุขภาพพื้นฐาน โดยเฉพาะกับนายแพทย์ที่อยู่ในชุมชน เว็บไซต์ของวอลมาร์ตเองก็เขียนข้อความไว้ว่า “การขยายการบริการมากขึ้นทำให้เราสามารถเป็นผู้ให้บริการสุขภาพพื้นฐานแก่คุณ”

New York Times กล่าวว่า บริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่พยายามมาหลายปีที่จะเข้าสู่ธุรกิจบริการสุขภาพแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ทว่ารูปแบบใหม่ของ “คลินิกสุขภาพพื้นฐาน” (primary clinic) อาจมีโอกาสและความได้เปรียบมากกว่ารูปแบบเดิมที่เรียกว่า “คลินิกสุขภาพธรรมดา” (retail clinic) เช่น กรณีไข้หวัดใหญ่ ที่คลินิกธรรมดาสามารถรักษาได้ แต่เป็นโรคที่เกิดขึ้นในฤดูหนาว หลังจากนั้นก็ลดน้อยลงไป

ที่มาภาพ : reason.com

นวัตกรรมที่โปร่งใสของเอกชน

การดูแลสุขภาพเป็นธุรกิจที่ใหญ่มากในสหรัฐฯ คนอเมริกันเสียเงินค่าดูแลสุขภาพปีหนึ่ง 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ หรือมีค่าเท่ากับผลิตภัณฑ์มวลรวมของแคนาดา ส่วนใหญ่หมดไปกับโรคที่เรื้อรัง สำหรับวอลมาร์ต การเข้าสู่ธุรกิจบริการสุขภาพ หมายถึงจำนวนคนเข้าร้านจะเพิ่มมากขึ้น ที่ผ่านมา ยอดขายของร้านวอลมาร์ตมีแนวโน้มลดลง เพราะผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น

แต่บทความใน reason.com ชื่อ Walmart’s Entry Into Health Care Could be Hugely Disruptive in All the Best Ways กล่าวว่า การเข้าสู่ธุรกิจบริการสุขภาพของวอลมาร์ตทำให้เกิดการแข่งขันและความสะดวกมากขึ้น โครงการของวอลมาร์ตพิสูจน์ว่า ภาคเอกชนสามารถมีนวัตกรรมในเรื่องบริการสุขภาพที่มีคุณภาพสูง และมีราคาที่โปร่งใส ให้แก่คนอเมริกัน ในจุดที่พวกเขาอยู่อาศัย และเดินทางมาซื้อสินค้า โดยที่ไม่ได้เกิดจากการแทรกแซงใดๆ จากรัฐบาล

นักวิเคราะห์กล่าวว่า การถกเถียงในเรื่องบริการสุขภาพมักจะเน้นเรื่องระบบประกันสุขภาพ โดยมองข้ามความสะดวกที่จะเข้าถึงการบริการสุขภาพ ระบบประกันสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ แต่ไม่มีประโยชน์ หากไม่มีผู้ให้บริการที่อยู่ใกล้ วอลมาร์ตหรือศูนย์การปลีกอื่นๆ สามารถช่วยแก้ปัญหาเรื่องการเข้าถึงบริการสุขภาพ เพราะคนอเมริกัน 90% อาศัยอยู่ในรัศมี 10 ไมล์จากร้านวอลมาร์ต

ระบบราคาค่าบริการสุขภาพที่โปร่งใสของวอลมาร์ตจะส่งผลกระทบต่อระบบที่เป็นอยู่ ความไม่โปร่งใสในเรื่องค่าบริการสุขภาพของสหรัฐฯ ทำให้ที่ผ่านมาค่าบริการสุขภาพเพิ่มขึ้นตลอด ทั้งนี้เพราะเกิดจากระบบตัวกลาง คือ บริษัทประกันสุขภาพ ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างผู้บริโภคกับผู้ให้บริการ แต่ระบบราคาบริการสุขภาพที่โปร่งใสและต่ำของวอลมาร์ตจะช่วยให้คนไข้สามารถจ่ายค่ารักษาสุขภาพพื้นฐานด้วยเงินของตัวเอง

เมื่อคิดถึงเรื่องค่าบริการสุขภาพ คนทั่วไปมักจะไม่คิดเรื่องการลดราคาหรือค่าบริการที่ราคาถูก แต่วอลมาร์ต ยักษ์ใหญ่แห่งธุรกิจค้าปลีกของสหรัฐฯ เจ้าของคำขวัญ “ทุกๆ วัน ราคาถูก” กำลังจะเปลี่ยนทัศนะคติของคนทั่วไปในเรื่องนี้

เอกสารประกอบ

Walmart’s Entry into Health Care Could be Hugely Disruptive in All the Best Ways, September 23, 2019, reason.com

In Ambitious Bid, Walmart Seeks Foothold I Primary Care Services, The New York Times, August 7, 2014