ThaiPublica > เกาะกระแส > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำ “เด้ง ‘ผอ.หอศิลป์’ คาด ปมขัดแย้งงบประมาณ เจ้าตัวร่อนจดหมายขอความเป็นธรรมและความโปร่งใส” และ “ฌัก ชีรัก รัฐบุรุษฝรั่งเศส ถึงแก่อสัญกรรม”

ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำ “เด้ง ‘ผอ.หอศิลป์’ คาด ปมขัดแย้งงบประมาณ เจ้าตัวร่อนจดหมายขอความเป็นธรรมและความโปร่งใส” และ “ฌัก ชีรัก รัฐบุรุษฝรั่งเศส ถึงแก่อสัญกรรม”

28 กันยายน 2019


ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 21-27 ก.ย. 2562

  • เด้ง “ผอ.หอศิลป์” คาด ปมขัดแย้งงบประมาณ เจ้าตัวร่อนจดหมายขอความเป็นธรรมและความโปร่งใส
  • ศาลชั้นต้นสั่งประหาร “นวัธ” ส.ส.เพื่อไทย ปมฆ่าปลัด อบจ.
  • ก.ท่องเที่ยวยัน ไม่ล้ม “ผับปิดตี 4” ศึกษาเตรียมนำร่อง “พัทยา-ข้าวสาร”
  • ศาลฎีกาฯ เปิดทาง “สฤณี-บ.ก.กรุงเทพธุรกิจ” ลงประกาศแก้-ขอโทษ ปมบทความละเมิดอำนาจศาล
  • ฌัก ชีรัก รัฐบุรุษฝรั่งเศส ถึงแก่อสัญกรรม

เด้ง ‘ผอ.หอศิลป์’ คาด ปมขัดแย้งงบประมาณ เจ้าตัวร่อนจดหมายขอความเป็นธรรมและความโปร่งใส

ผศ.ปวิตร มหาสารินันทน์
ที่มาภาพ: เว็บไซต์วอยซ์ทีวี (http://bit.ly/2meChkT)

เว็บไซต์ไทยพีบีเอสรายงานว่า วันที่ 24 ก.ย. 2562 ผู้สื่อข่าว ไทยพีบีเอสได้รับจดหมายเปิดผนึกจาก ผศ.ปวิตร มหาสารินันทน์ ผู้อำนวยการหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร หัวข้อ ขอเรียกร้องความเป็นธรรมและโปร่งใสในการถูก “ไล่ออก” โดยมีเนื้อหาสำคัญอ้างถึงเหตุผลที่ไม่ผ่านการประเมินว่า กรรมการประเมินผลการปฏิบัติงานไม่พอใจการแสดงความเห็นของ ผศ.ปวิตร เรื่องการสนับสนุนงบประมาณของกรุงเทพมหานคร ในการแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยในเนื้อหายังยืนยันผลการดำเนินงานของหอศิลป์ ที่ส่งให้ปีนี้มีจำนวนผู้ชมประมาณการสูงว่าทุกปีที่ผ่านมา 1.9 ล้านคน โดยเนื้อหาฉบับเต็มมีดังนี้

เรื่อง ขอเรียกร้องความเป็นธรรมและโปร่งใส ในการถูก “ไล่ออก”
เรียน เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ สื่อมวลชนทุกท่าน 

ก่อนอื่นผมขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยเผยแพร่ข่าวสารกิจกรรมศิลปวัฒนธรรมของหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครอย่าง สม่ำเสมอ ทำให้ปัจจุบันนี้มีผู้เข้าชมกิจกรรมศิลปวัฒนธรรมที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครโดยเฉลี่ยวันละ 5,600 คน และ ประชาชนจำนวนมากก็กรุณาบริจาคเงินสมทบทุนช่วยเหลือ องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศก็ มาร่วมจัดกิจกรรมต่าง ๆ ทำให้รายจ่ายของหอศิลปกรุงเทพฯ ลดลงตามลำดับ จากปี 2560 จำนวน 75 ล้านบาท ปี 2561 จำนวน 63 ล้านบาท และปี 2562 นี้ประมาณการไว้ที่ 48 ล้านบาท ในขณะที่จำนวนผู้เข้าชมงานปีนี้ ประมาณการว่าจะสูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา คือ 1.9 ล้านคน


ผมขอเรียนให้ท่านทราบว่าผมได้ถูกคณะกรรมการมูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ชุดใหม่ (ซึ่งเข้ารับตำแหน่ง อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 31 พ.ค.2562 หลังจากชุดเก่าหมดวาระเมื่อวันที่ 2 มี.ค.2561) “ไล่ออก” เมื่อวันที่ 31 ส.ค.2562 (โดยให้ปฏิบัติงานวันสุดท้าย วันที่ 30 ก.ย.2562) ซึ่งเหตุผลหนึ่ง (จากการบอกเล่าด้วยวาจา) ก็คือ กรรมการประเมินผลการปฏิบัติงานไม่พอใจการแสดงความเห็นของผมเรื่องการสนับสนุนงบประมาณของกรุงเทพมหานคร ในการแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน

อนึ่ง คณะกรรมการมูลนิธิได้ยื่น ข้อเสนอให้ผม “ลาออก” เพราะ “จะสวยกว่าอยู่แล้ว” ซึ่งผมขอปฏิเสธ และขอให้คณะกรรมการมูลนิธิเปิดเผย รายงานการประเมินผลการปฏิบัติงานของกระผม โดยผมได้แนบรายละเอียดลำดับเหตุการณ์และหลักฐาน จดหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาแล้ว จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาเผยแพร่ข่าวนี้สู่ประชาชนผู้เป็นเจ้าของหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครที่แท้จริง จักเป็นพระคุณยิ่ง

ขอแสดงความนับถือ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปวิตร มหาสารินันทน์
ผู้อำนวยการหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร 

ศาลชั้นต้นสั่งประหาร “นวัธ” ส.ส.เพื่อไทย ปมฆ่าปลัด อบจ.

นายนวัธ เตาะเจริญสุข

เว็บไซต์เดลินิวส์รายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2562 ณ ศาลจังหวัดขอนแก่น ศาลชั้นต้นได้นัดอ่านคำพิพากกษา คดีจ้างวานฆ่า นายสุชาติ โคตรทุม ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น กรณีที่นายนวัธ เตาะเจริญสุข สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ตกเป็นจำเลย โดยในวันนี้ นายนวัธ ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษา พร้อมทนายความ ขณะที่ฝั่งภรรยาและบุตรสาวของ นายสุชาติ ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาเช่นกัน

โดยศาลจังหวัดขอนแก่น ใช้เวลา 1 ชั่วโมงอ่านคำพิพากษา จากนั้นได้ตัดสินลงโทษประหารชีวิตและให้ชดใช้ค่าปลงศพเป็นเงิน 300,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 3พฤษภาคม 2556 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ร่วม. หลังศาลอ่านคำพิพากษาแล้วเสร็จตำรวจศาลจึงได้ทำการควบคุมตัวนายนวัธไปยังห้องควบคุมตัวผู้ต้องหาบริเวณชั้น 1 ของศาล จ.ขอนแก่น ทันที ขณะที่ทีมทนายความฝ่ายจำเลยอยู่ในขั้นตอนของการยื่นขอประกันตัว รวมทั้งการเตรียมการยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลในคดีดังกล่าวต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีดังกล่าวสืบเนื่องจากเกิดเหตุคนร้ายใช้ปืนยิงนายสุชาติ โครตทุม ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เสียชีวิตหน้าบ้านพัก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 56 สามารถจับกุมคนร้ายได้ 5 คน ประกอบด้วย ด.ต. วีระศักดิ์ ชำนาญผล จำเลยที่ 1, พ.ต.ท.สมจิตร แก้วพรม รอง ผกก.(ป.) สภ.หนองเรือ จำเลยที่ 2, นายประพันธ์ ศรีพิลัย จำเลยที่ 3, นายบุญช่วย จูงกลาง จำเลยที่ 4 และนายปิยะพงษ์ มีกำบัง จำเลยที่ 5 ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และพ.ร.บ.อาวุธปืน ซึ่งต่อมาศาลจังหวัดขอนแก่น ได้ออกหมายจับ นายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 7 ขอนแก่น ในข้อหากระทำความผิดฐานจ้างวานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2561

ต่อมาวันที่ 29 ต.ค.2557 ศาลชั้นต้นของศาลจังหวัดขอนแก่นได้อ่านคำพิพากษาในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และพ.ร.บ.อาวุธปืน ของจำเลยทั้ง 5 รายโดยพิพากษาให้ พ.ต.ท. สมจิตร แก้วพรม จำเลยที่ 2 และนายประพันธ์ ศรีวิลัย จำเลยที่ 3 มีความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยมิได้ไตร่ตรองไว้ก่อน ด้วยเหตุแห่งพฤติกรรมมีการลงไปพูดคุยและผลักผู้ตายเข้าไปในรถ ประกอบกับรถที่จอดขวางผู้ตายมิใช่ลักษณะเตรียมพร้อมจะหลบหนี จึงไม่น่าจะเป็นการตั้งใจ เพราะถ้าเช่นนั้นต้องมีการลงมือทันที แต่ยังมีการพูดคุย มีการทำร้ายร่างกายก่อนลงมือยิง ดังนั้นจึงพิพากษาจำเลยที่ 2 มีความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น ให้จำคุกตลอดชีวิต ขณะที่จำเลยที่ 3 ให้การเป็นประโยชน์ เป็นเหตุให้บรรเทาโทษให้ 1 ใน 4 รวมกับความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน คงให้จำคุกจำเลยที่ 2 ตลอดชีวิตสถานเดียว ส่วนจำเลยที่ 3 รวมโทษจำคุก37 ปี 14 เดือน 30 วัน ส่วนจำเลยที่ 1 ที่ 4 และ 5 ซึ่งให้ปฏิเสธตลอดว่าไม่เกี่ยวข้อง และพยานหลักฐานไม่สามารถนำสืบได้ว่า รู้มาก่อนว่าจำเลยที่ 2 และ 3 จะมาฆ่าผู้ตาย จึงให้ยกฟ้อง โดยให้ขังระหว่างอุทธรณ์

ก.ท่องเที่ยวยัน ไม่ล้ม “ผับปิดตี 4” ศึกษาเตรียมนำร่อง “พัทยา-ข้าวสาร”

วันที่ 26 ก.ย. 2562 เว็บไซต์เนชั่นทีวีรายงานว่าhttp://bit.ly/2nAupub หลังจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีแนวคิดที่จะกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยขยายเวลาเปิดผับหรือสถานที่ท่องเที่ยวกลางคืน ให้สามารถปิดบริการเวลาตี 4  จากเดิมปิดเวลาตี 2 เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องราตรีอีก 25% และต่อมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยhttp://bit.ly/2n3ysisนั้น

ล่าสุด นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การขยายเวลาปิดผับเป็นเวลาตี 4 ยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษารายละเอียด รวมถึงหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและผู้ประกอบการ โดยเบื้องต้นประเมินว่า จะใช้พื้นที่พัทยาและข้าวสารในการนำร่องก่อน  

นอกจากนี้ยังมั่นใจว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวเมืองไทยปีนี้ ทะลุ 40ล้านคนตามเป้าที่กระทรวงตั้งไว้แน่นอน ส่วนในอนาคตจะมีการขยายเวลาฟรีค่าธรรมเนียม visa on arrival (VOA) จากเดิมที่จะสิ้นสุดสิ้นเดือนเมษายน 63   เป็นฟรีค่าธรรมเนียม VOA แบบถาวรให้กับบางประเทศหรือไม่นั้น จะมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และคณะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจถึงความจำเป็นอีกครั้ง 

ศาลฎีกาฯ เปิดทาง “สฤณี-บ.ก.กรุงเทพธุรกิจ” ลงประกาศแก้-ขอโทษ ปมบทความละเมิดอำนาจศาล

เฟซบุ๊กแฟนเพจ iLaw รายงานว่า วันที่ 26 กันยายน 2562 ศาลฎีกานัดไต่สวน สฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระ ที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดอำนาจศาลด้วยการเขียนบทความ “อันตรายของภาวะ “นิติศาสตร์นิยมล้นเกิน” (อีกที) กรณีหุ้นสื่อของผู้สมัคร ส.ส.”

ในห้องพิจารณาคดีของศาลฎีกา นอกจากสฤณี ผู้ถูกกล่าวที่ 1 แล้ว ยังมีผู้ถูกกล่าวที่ 2 บรรณาธิการสำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ มาที่ศาลด้วย ศาลขึ้นบัลลังก์พิจารณาคดีราว 10.15 น.

ทนายของผู้ถูกกล่าวหาแถลงต่อศาลว่า ทางผู้ถูกกล่าวหา เพียงแค่แสดงความคิดเห็นเชิงวิชาการ ซึ่งอาจจะมีถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม หรือใช้คำอย่างพลั้งเผลอไปบ้าง แต่ไม่ได้มีเจตนาละเมิดอำนาจศาล ซึ่งทางผู้ถูกกล่าวหายินดีที่จะขออภัยและแสดงความรับผิดชอบต่อศาล

จากนั้นผู้ถูกกล่าวที่ 2 แถลงต่อศาลว่า ยินดีให้ความร่วมมือทุกประการ และจะแสดงความรับผิดชอบต่อศาลด้วยการขอโทษและลงโฆษณาแก้บทความและการขอโทษลงในหนังสือพิมพ์

จากนั้นศาลได้ให้ฝ่ายผู้กล่าวหาคือ เลขานุการแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา ชี้แจงบ้าง ซึ่งเลขานุการฯพยายามถามผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองว่า เป็นการรับสารภาพใช่หรือไม่ ทางผู้ถูกกล่าวหาก็กล่าวทำนองว่าไม่ใช่การรับสารภาพ แต่เป็นเสนอเรื่องการแสดงความรับผิดชอบต่อศาล

จากนั้นศาลจึงสรุปการไต่สวนวันนี้ว่า ทั้งสองฝ่ายมีแนวโน้มที่จะเจรจาตกลงกันได้ จึงให้ผู้ถูกกล่าวหาและผู้กล่าวหา ไปหารือกันเรื่องข้อเสนอการขอโทษศาล และการลงประกาศแก้บทความและขอโทษลงในหนังสือพิมพ์ให้แล้วเสร็จก่อนการพิจารณาคดีนัดหน้า โดยศาลให้ส่งข้อความที่จะตีพิมพ์ให้ศาลดูภายใน วันที่ 7 ตุลาคม 2562 พร้อมกับให้ยกเลิกนัด ในวันที่ 1 ตุลาคม และนัดมาฟังคำพิพากษาวันที่ 11 ตุลาคม 2562

สำหรับสฤณี ถูกออกหมายเรีกในคดีละเมิดอำนาจศาล จากบทความที่เธอเขียน เรื่อง “อันตรายของภาวะ “นิติศาสตร์นิยมล้นเกิน” (อีกที) กรณีหุ้นสื่อของผู้สมัคร ส.ส.” เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2562 สุประดิษฐ์ จีนเสวก เลขานุการแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกาคือ ผู้กล่าวหา ทำหนังสือบันทึกข้อความ ลงวันที่ 16 สิงหาคม 2562 ถึงประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา เพื่อชี้ให้เห็นว่าบทความดังกล่าวของสถณี มีลักษณะที่เป็นการพาดพิงแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา

เกี่ยวกับคดีละเมิดอำนาจศาล ก่อนหน้านี้ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญยังได้เรียก รศ.โกวิท วงศ์สุรวัฒน์ นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ ให้มาพบเลขาธิการสํานักงานศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2562 หลังตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2562 ทวิตเตอร์ kovitw@kovitw1 ซึ่งปรากฏรูปถ่ายของ รศ.โกวิท เป็นรูปโปรไฟล์ของทวิตเตอร์ โพสต์ข้อความวิจารณ์ ศาลรัฐธรรมนูญด้วยถ้อยคําที่ไม่เหมาะสมว่า “ศาลรัฐธรรมนูญรับคําร้อง ๓๒ ส.ส. ปมหุ้นสื่อแต่ไม่ต้องหยุด ปฏิบัติหน้าที่น่าจะเกินคําว่า “ด้าน” เสียแล้ว”

ฌัก ชีรัก รัฐบุรุษฝรั่งเศส ถึงแก่อสัญกรรม

ฌัก ชีรัก
ที่มาภาพ: เว็บไซต์ดิอินดีเพนเดนต์ (http://bit.ly/2nIB59N)

เว็บไซต์บีบีซีไทยรายงานว่า ฌัก ชีรัก อดีตประธานาธิบดีของฝรั่งเศส ถึงแก่อสัญกรรม ในช่วงเช้าของวันที่ 26 ก.ย. 2562 (Jacque Chirac) ตามเวลากรุงปารีส ด้วยวัย 86 ปี

บุตรเขยของเขากล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า นายชีรักเสียชีวิตอย่างสงบท่ามกลางสมาชิกในครอบครัวที่อยู่กันพร้อมหน้า

อดีตประธานาธิบดี 2 สมัยของฝรั่งเศสผู้นี้นำประเทศเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านไปใช้สกุลเงินยูโร

หลังทราบข่าว รัฐสภาของฝรั่งเศส ยืนสงบไว้อาลัยเป็นเวลา 1 นาที

นายฌอง คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปหรืออียู และอดีตนายกรัฐมนตรีลักเซมเบิร์ก บอกว่า เขารู้สึกเศร้าและเสียใจมากเมื่อได้ยินข่าวนี้

“ยุโรปไม่เพียงเสียรัฐบุรุษที่ยิ่งใหญ่ไปแต่ประธานาธิบดีฝรั่งเศสยังได้เสียเพื่อนที่ดีคนหนึ่งไปด้วย” นายยุงเกอร์ระบุในแถลงการณ์