ThaiPublica > คอลัมน์ > “หวย 12 นักษัตร” มีแต่เสีย

“หวย 12 นักษัตร” มีแต่เสีย

19 สิงหาคม 2019


วรากรณ์ สามโกเศศ

“หวย 12 นักษัตร” ที่คณะกรรมการสลากกินแบ่งเพิ่งมีมติว่าจะออกเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยลดปัญหาลอตเตอรี่ขายเกินราคาโดยขายในรูปแบบออนไลน์นั้น ถูกประชาชนถล่มผ่านโพลอย่างท่วมท้นว่าไม่เหมาะสมเพราะมอมเมาประชาชน ผู้เขียนขอเพิ่มเติมว่ามันเลวร้ายกว่านั้นอีก เพราะเป็นการซ้ำเติมคนจนซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ

“หวย 12 นักษัตร” ให้คนเล่นโดยเลือกหนึ่งรูปภาพจากแต่ละแถวของ 12 รูปภาพสัตว์ รวมเป็นเลือกมา 4 ภาพเรียงกัน (เลือกรูปซ้ำได้) ในวันที่ออกหวยตามปกติคือ 1 และ 16 ของเดือนก็จะออกสลากมาเป็นรูปสัตว์เหล่านี้โดยเรียงกัน 4 ภาพ ถ้าภาพที่เลือกไว้ตรงกับที่ออกมาทั้ง 4 ภาพโดยไม่ตรงหลักก็จะได้รางวัลรอง ถ้าตรงภาพและตรงหลักก็จะได้รางวัลที่หนึ่ง

ราคาจำหน่ายรายการ (บัตร) ละ 50 บาท ไม่ระบุมูลค่ารางวัลเพราะใช้การเฉลี่ยเงินรางวัลตามจำนวนคนเล่นและคนถูกรางวัล ถ้าไม่มีคนถูกก็จะสะสมต่อไป

การใช้สัตว์ตามราศีเป็นตัวแทนเลขนั้นทำให้รู้สึกดีและคุ้นเคย อีกทั้งยังเล่นง่าย และเสียเงินง่ายผ่านการโอนเงินออนไลน์อีกด้วย คนทั่วโลกก็เล่นได้เพียงแต่ใช้แอปพลิเคชันเฉพาะเท่านั้น ดังนั้นจึงคาดว่าอาจมีคนเล่นนับพันหรือนับหมื่นล้านบาทต่องวด แล้วแต่ใครเป็นคนให้ข้อมูล

มีการให้ข้อมูลว่ารางวัลอาจถึง 600,000 และ 300,000 บาท ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดที่เป็นไปได้หากถูกเพียงคนเดียวภายใต้เงื่อนไขยากสุด ดังนั้นจะเรียกว่า “เพ้อฝัน” ก็คงไม่ผิด แต่จะเป็นตัวเลขใดก็ตาม สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ออกสลากชนิดใหม่ที่เย้ายวนคนไทยให้มัวเมาในการพนันยิ่งขึ้น โดยหวังว่าจะมาแทนที่หวยใต้ดิน (อ้างว่าเงินรางวัลดีกว่า) และช่วยทำให้ราคาลอตเตอรี่เป็นไปตามราคาบนสลาก (ยอมรับว่าควบคุมหวยเกินราคาไม่ได้) อีกทั้งลดการเล่นการพนันที่ไม่พึงประสงค์หรือผิดกฏหมาย เช่น พนันบอลล์ออนไลน์อีกด้วย

ในเบื้องต้นต้องยอมรับว่าคณะกรรมการสลากฯ ได้อนุมัติการพนันรูปแบบใหม่ที่คนไทยไม่คุ้นเคยซึ่งฟังแล้วน้ำลายไหล และที่ไม่พูดถึงก็คือสามารถนำเงินส่งรัฐได้เป็นเงินนับพันล้านบาทต่องวด หรือปีหนึ่งก็ตกหลายหมื่นล้านบาท ฟังแล้วดูเหมือนจะ win-win สำหรับทุกคนคือประชาชนก็ได้สนุกครั้งใหม่ ได้เสี่ยงโชคที่มีโอกาสได้เงินสูง รัฐได้เงินเข้าคลังและแก้ไขปัญหาการพนันผิดกฎหมายไปด้วยในเวลาเดียวกัน

อย่างไรก็ดี สิ่งที่สำคัญและมองข้ามไปนอกเหนือจากการมอมเมาประชาชนให้หมกมุ่นในเรื่องไม่เป็นเรื่อง (ปัจจุบันทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน ผู้คนก็ไม่ค่อยทำอะไรกัน เงียบเหงาคอยแต่ฟังหวยออกตอนบ่ายอยู่แล้ว ใครไปโรงพยาบาลใน 2 วันนี้ คิวจะเบาบางเป็นพิเศษ) ก็คือการไม่ช่วยเพิ่ม productivity หรือผลิตภาพ ซึ่งเป็นหัวใจของการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจและแก้ไขปัญหาเรื่องปากท้องในปัจจุบัน

การคิดจะร่ำรวยโดยไม่ต้องทำงานหนักเพราะ “หวย” จะเป็นตัวช่วยเป็น mindset (ภาพฝังใจ) ที่บั่นทอนเศรษฐกิจอย่างยิ่ง เงินที่พอจะมีออมก็หมดไปกับการซื้อหวยใหม่ที่น่ารักและดูเป็นมงคลนี้ แทนที่เงินที่ “ถูกกิน” เกือบแน่นอนเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในการลงทุนหรือเพิ่มพูนประสิทธิภาพการผลิตก็มลายไปกับ “การลุ้น” ที่เลื่อนลอยงวดแล้วงวดเล่า เสียเวลาทำมาหากิน ในขณะที่หวยใต้ดินก็ยังคงเล่นด้วยความเคยชินเพราะคนที่เล่นจำนวนมากไม่ถนัดกับธุรกรรมออนไลน์ หวยเป็นใบก็ยังคงซื้อเหมือนเดิมเพราะต้องการรวยเป็นสิบเป็นร้อยล้านบาท ไม่ใช่เงินแสน ส่วนคนที่พนันบอลออนไลน์ หวยนี้ก็ช่วยเสริมเป็นตัวเรียกน้ำย่อยเพิ่มขึ้น

เมื่อพิจารณาแล้วยังมองไม่เห็นว่าจะช่วยแก้ปัญหาเดิมที่มีได้อย่างไร คนซื้อหวยเป็นใบจำนวนมากใช้ออนไลน์ไม่เป็น ดังนั้นจึงไม่เล่น “หวย 12 นักษัตร” และยังคงซื้อหวยเกินราคาเหมือนเดิม บางคนอาจแถมเล่นหวยใหม่ใต้ดินที่เชื่อว่าคงปรับเป็นตัวเลข (เช่น รูปหมูเท่ากับหนึ่ง)

สำหรับภาครัฐแล้วเงินที่ได้รับมากขึ้นเป็นพันเป็นหมื่นล้านบาท อย่างไรก็ไม่พอกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอันเนื่องมาจากปัญหาสังคมอาชญากรรมที่เกิดจากความมอมเมาของการพนัน “หวย 12 นักษัตร” อาชญากรรมกับการพนันนั้นเป็นของคู่กัน โดยเฉพาะหวยชนิดนี้ซึ่งเหมาะกับวัยรุ่นที่แคล่วคล่องกับการใช้ออนไลน์และการพนันออนไลน์อยู่แล้ว คราวนี้สามารถพนันได้ในราคาต่ำกว่าร้อย (แทงฟุตบอลล์หรือเกมพนันอื่นออนไลน์ล้วนเกินกว่า 50 บาททั้งสิ้น) หากมีวัยรุ่นที่มีทางโน้มไปทางเกเรก่ออาชญากรรม ก็อาจก่อเรื่องหาเงินเล็กๆ น้อยๆ กันกว้างขวางเพื่อให้ได้ “ลุ้น” กับหวยแบบใหม่นี้

“ลอตเตอรี่คือภาษีคนจน” นั้นจริงเสมอ เงินแค่ 50 บาทเป็นเงินที่น้อยมากสำหรับคนมีฐานะ และเป็นสัดส่วนที่น้อยมากของรายได้เขา ส่วนคนจนซึ่งมีทางโน้มที่จะเล่นมากกว่านั้น เงิน 50 บาทเป็นสัดส่วนที่สูงกว่าในรายได้ของเขา ทั้งสองจ่าย 50 บาทแต่มีโอกาสถูกได้เงินรางวัลเท่ากัน เมื่อภาพเป็นเช่นนี้จึงเห็นได้ชัดว่าใครแบกภาระมากกว่ากัน

ภาระนี้เปรียบเสมือนภาษีที่แบกในอัตราไม่เท่ากันแต่ได้รับผลประโยชน์จากภาษีเท่ากัน ยิ่งสังคมมีการเล่นการพนันแบบลอตเตอรี่ (แต่ละคนเอาเงินมาลงขันในจำนวนเงินเท่ากัน และมีคนโชคดีได้รางวัลไปด้วยความเป็นไปได้เท่ากัน) มากขึ้นเท่าใดคนจนก็ยิ่งแบกภาระมากขึ้นเพียงนั้น

การยอมรับหวยออนไลน์ครั้งนี้จะเป็นการเปิดประตูไปสู่รูปแบบการพนันออนไลน์อื่นๆ ได้อีกมากมายในอนาคต คนไทยจำนวนมากนั้นชื่นชอบการพนันเพราะมองอย่างจริงจังว่าเป็นหนทางเดียวสู่ความร่ำรวย ซึ่งโดยแท้จริงแล้วมีโอกาสเป็นจริงได้น้อยมากๆๆๆ (โอกาสถูกจระเข้กัดบวกฟ้าผ่าและฉลามกัดอย่างละสองครั้งในชีวิตยังมีมากกว่า) เมื่อเสียเงินทองและเวลามากมายแต่ความเป็นไปได้มีแค่นี้แล้วมันจะคุ้มได้อย่างไร

ประชาชนไม่เห็นด้วยกับ “หวย 12 นักษัตร” อย่างท่วมท้น ภาครัฐจะไปดึงดันต่อสู้กับเสียงเหล่านี้เพื่อเหตุอันใดในเมื่อยังมีเรื่องอื่นๆ ที่คอขาดบาดตายรออยู่ข้างหน้าอีกมากมาย

หมายเหตุ : ตีพิมพ์ครั้งแรก คอลัมน์ “อาหารสมอง” นสพ.กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันอังคารที่ 13 ส.ค. 2562