นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า กกต.ได้ประกาศรับรองส.ส.เขตและบัญชีรายชื่อรวม 3 คน โดยแจ้งให้มารับหนังสือรับรองการเป็นส.ส.ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปโดยไม่มีวันหยุดราชการ ประกอบไปด้วย ส.ส.เขต นางสาวศรีนวล บุญลือ ส.ส.อนาคตใหม่ เขต 8 จังหวัดเชียงใหม่ และส.ส.บัญชีรายชื่อ 2 คน คือ ส.ส.บัญชีรายชื่อจากพรรคพลังประชารัฐลำดับที่ 19 นางสาววทันยา วงษ์โอภาสี และ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ลำดับที่ 20 นางสาวจิตภัสร์ (ตั๊น) กฤดากร ส่วนนายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคไทรักธรรมพ้นจากตำแหน่งส.ส.ทันที
นายแสวง ชี้แจงว่า มีเอกสารอธิบายถึงการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ 13 หน้าได้อธิบายว่าวิธีการคำนวณว่าสัดส่วนส.ส.เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร รวมถึงจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อ 25 พรรคที่ได้รับการจัดสรรและภาพรวม จำนวนส.ส.ทั้ง 500 คน ว่าพรรคการเมืองแต่ละพรรคมีจำนวนส.ส.เท่าไหร่ ทั้งนี้ ย้ำว่ากกต.ไม่ใช่ผู้ที่กำหนดจำนวนส.ส.ของแต่ละพรรคการเมือง ซึ่งการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อเป็นไปตามกฎหมาย และเป็นไปตามมาตรา 128 วงเล็บ 1-7 และมาตรา 129 โดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับสูตรคณิตศาสตร์ใดๆ ซึ่งหากไม่เกิดโอเวอร์แฮงค์ ก็จะใช้ วงเล็บ 4 หรือไม่ต้องปรับฐาน 500 และการคำนวณครั้งนี้่ไม่ได้นำเฉพาะคะแนนของเขต 8 มาคำนวณ แต่เป็นการนำคะแนนทั้งประเทศ และคะแนนใหม่ของเขต 8 มาคำนวณใหม่การจัดสรรอยู่ที่เศษ หรือ จำนวนทศนิยม จากมากไปน้อย ทั้งหมดตามที่กฎหมายกำหนดทุกประการ
นายแสวง ยังยกตัวอย่างอธิบายว่า พรรคไทรักธรรมที่ ส.ส.ของพรรคต้องพ้นจากตำแหน่งหลังการคำนวณใหม่นั้น มีคะแนนที่แพ้พรรคที่ได้รับการจัดสรรไป 33 คะแนน ทั้งนี้ขอย้ำว่าการเลือกตั้งใหม่แต่ละครั้งจะมีผลที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนส.ส.บัญชีรายชื่อเช่นเดียวกันนี้ และไม่จำเป็นว่าพรรคการเมืองที่ได้คะแนนรวมน้อยที่สุดจะต้องเสีย ส.ส.ทุกครั้ง เพราะขึ้นอยู่กับผลการคำนวณใหม่ทุกครั้ง
นายแสวง ยังอธิบายว่า หากมี ส.ส.เขตลาออก กกต.ก็จัดการเลือกตั้งใหม่ โดยที่ผู้ที่ลาออกไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้ง เนื่องจากว่าไม่ได้มีสาเหตุมาจากการเลือกตั้งที่ไม่สุจริต หากกรณีส.ส.บัญชีรายชื่อลาออกโดยหลักการแล้ว ส.ส.จะต้องลาออกต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
