ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 27 มี.ค. – 2 เม.ย. 2559
“บิ๊กตู่” ชี้ โพสต์ภาพขันแดง=สนับสนุนผู้กระทำผิด
29 มี.ค. 2559 เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจรายงานว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่ผู้ถูกดำเนินคดีจากการโพสต์ภาพขันแดง ซึ่งเป็นของรับแจก จากนายทักษิณ ชินวัตร กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า คสช.เรียกมาพบแล้ว ถามว่าสมควรไหม หรือผิดกฎหมายหรือไม่ที่นำรูปคนผิดกฎหมายอาญามา เป็นภัยความมั่นคงเพราะเป็นการสนับสนุนการกระทำของผู้ที่หลบหนีคดีอาญา ซึ่งภัยความมั่นคงก็คือไม่ปฎิบัติตามกฎหมายของรัฐ
ทั้งนี้ ขันแดงที่ชาวบ้าน อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ รายหนึ่ง นำมาโพสต์ เป็นของขวัญแจก พร้อมแผ่นภาพถ่ายของ นายทักษิณ ชินวัตร กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ในท่ายกมือสวัสดี พร้อมข้อความว่า “สวัสดีวันสงกรานต์ปีใหม่ไทย 2559 สงกรานต์ปีนี้ผมรู้สึกคิดถึงพี่น้องเป็นพิเศษ อยากมาช่วยท่านแก้ปัญหา แต่วันนี้ขอส่งกำลังใจมาก่อน รักและคิดถึง”
ส่วนข้อความบนขันน้ำสีแดงระบุว่า “แม้สถานการณ์จะร้อน ขอให้พี่น้องได้รับความเย็นผ่านขันใบนี้ ด้วยครับ”
อย่างไรก็ตาม ช่วงเช้า เวลา 9.00 น. วันนี้ ศาลได้พิพากษาจำคุกเป็นเวลา 12 วัน ก่อนที่ทนายผู้ต้องหาจะยื่นขอประกัน และเมื่อเวลา 11.45 น.ที่ผ่านมา ศาลทหารเชียงใหม่อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหา คดี ม.116 ดังกล่าวซึ่งได้ทำการถ่ายภาพขันแดง พร้อมหลักทรัพย์ 1 แสนบาท พร้อมเงื่อนไขห้ามเคลื่อนไหวทางการเมืองระหว่างปล่อยตัว
กกต. แจง เลือกตั้ง ’57 เงินเหลือแต่ไม่คืนคลัง
29 มี.ค. 2559 เว็บไซต์มติชนออนไลน์รายงานว่า นายธนิศร์ ศรีประเทศ ผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงาน กกต. แถลงข่าวชี้แจง กรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) ยื่นหนังสือถึง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อให้ กกต. คืนเงิน 1,126 ล้านบาท ที่เหลือจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ว่า ยอมรับว่ามีเงินเหลือจริง แต่ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง มาตรา 39 และมาตรา 40 กำหนดชัดเจนว่างบประมาณที่เหลือจ่ายจากการเลือกตั้ง กกต. สามารถเก็บไว้เป็นเงินสะสมได้โดยไม่ต้องส่งคืนคลัง โดยเงินดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในกรณีที่มีเหตุจำเป็น ซึ่ง กกต. จะต้องสามารถชี้แจงได้ ทั้งนี้ กกต. ก็ได้ประสานกับสำนักงบประมาณอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว ในเรื่องการใช้จ่ายงบเหลือจ่าย และเงินเหลือเงินขาด
มีชัย แจง ร่นอายุเรียนฟรี เพิ่มความเท่าเทียม
30 มีนาคม 2559 เว็บไซต์วอยซ์ทีวี รายงานว่าจากกรณีที่มีกลุ่มนักเรียนนักศึกษาออกมาประกาศว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับลงประชามตินั้นตัดสิทธิ์คนไทยในการเรียนฟรีจนถึง ม.6 โดยลดให้เหลือเพียง ม.3 เท่านั้น
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ชี้แจงว่า กรธ. (คณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ) ได้บัญญัติให้รัฐต้องสนับสนุนการเรียนการสอนในชั้นก่อนการศึกษาภาคบังคับ จนถึงชั้น ม.3 รวมเวลา 12 ปีเช่นเดิม เพียงแต่มีการร่นช่วงอายุลงมาเท่านั้น เพื่อความเท่าเทียมกันระหว่างคนจนและคนรวย
“…อันนี้ต้องเข้าใจว่าทุกวันนี้ระบบการศึกษามันไม่ทัดเทียมกัน เพราะเด็กจะพัฒนาได้เนี่ยต้องอยู่ระหว่าง 2-5 ขวบ ซึ่งคนมีตังค์ได้รับการพัฒนา แต่คนจนไม่ได้รับการพัฒนา เพราะฉนั้นพอถึงมัธยมปลายก็เสียเปรียบ สู้กันไมได้เพราะตอนนั้นสมองไม่พัฒนาแล้ว
สิ่งที่เราทำก็คือการร่น 12 ปีลงมาข้างล่างเพื่อรองรับคนจน แล้วพอถึงมัธยมปลาย คนจนก็จะได้รับการดูเพราะจะมีกองทุนการศึกษาให้ ส่วนคนมีสตางค์ก็ออกสตางค์ เพราะฉนั้นความทัดเทียมมันถึงจะเกิดขึ้นได้จริง ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้คนจนก็จะแย่ เสียเปรียบ…”
อย่างไรก็ตาม นายมีชัยยืนยันว่าหากในอนาคตรัฐบาลมีงบประมาณมากขึ้น ก็สามารถขยายระยะเวลาจัดการศึกษาฟรี 15 ปี จนถึงชั้น ม.6 ได้เช่นกัน
เรียกพบแกนนำค้านโรงไฟฟ้าขยะเชียงราก อ้าง “เป็นผู้มีอิทธิพล”
30 มี.ค. 2559 เว็บไซต์ THAI LAWYERS FOR HUMAN RIGHTS เวลา 15.30 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้ติดต่อนายทวีศักดิ์ อินกว่าง แกนนำคัดค้านโรงไฟฟ้าขยะเชียงราก จึงทราบว่าได้รับการปล่อยตัวแล้ว หลังจากเข้าพบ พ.ท. อำนาจ คำวิเศษ ผู้บังคับกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 4 เมื่อเวลา 13.30 น. ทวีศักดิ์ได้เล่าว่าทางเจ้าหน้าที่ทหารได้เรียกตนเข้าไปพูดคุยด้วยเพราะเป็นผู้มีอิทธิพล ตามรายชื่อที่ทางกองทัพภาคที่ 1 ส่งมาถึงหน่วยที่ดูแลพื้นที่
ทวีศักดิ์ได้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่าตนเคลื่อนไหวอยู่เพียงเรื่องเดียวคือเรื่องการสร้างโรงไฟฟ้าขยะเท่านั้น และเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องที่มีการกล่าวหาตนว่าเป็นผู้มีอิทธิพลแบบนี้ แล้วทางกองทัพภาคที่ 1 จะมีชื่อของตนได้อย่างไร หากไม่มีการส่งชื่อไปจากในพื้นที่
นอกจากนั้น ทวีศักดิ์ยังได้เล่าอีกว่าตนถูกขอให้ลบโพสต์เฟซบุ๊กที่ลงจดหมายเรียกให้เข้าพบที่ได้โพสต์เอาไว้เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ที่ผ่านมา และถูกขอให้เคลื่อนไหวภายใต้กรอบกฎหมาย ซึ่งตนก็ยืนยันว่าที่ผ่านมาก็ไม่เคยเคลื่อนไหวคัดค้านนอกกรอบกฎหมายแต่อย่างใด
การเรียกตัวทวีศักดิ์ครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2559 แกนนำคัดค้านโรงไฟฟ้าขยะเชียงราก ได้รับจดหมายจากทหารสังกัด ปตอ.พัน.4 เรียกให้ไปรายงานตัวที่บังคับการชุดประสานงานประจำพื้นที่อำเภอสามโคก ซึ่งตั้งอยู่ในที่ว่าการอำเภอสามโคก จ.ปทุมธานี ในเวลา 13.30 น. วันนี้ (30 มี.ค.)
ในตอนเช้าทวีศักดิ์ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าพบทหารว่าตนคาดว่าการเรียกตัวครั้งนี้เป็นไปได้สามประเด็น ประเด็นแรกคือการที่เขาเป็นแกนนำเคลื่อนไหวคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะที่ อ.เชียงราก จ.ปทุมธานี และเป็นผู้ประสานงานกับชุมชนอื่นๆ และยังได้เป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่องผลกระทบจากโรงไฟฟ้าขยะด้วย ประเด็นที่สองคือเมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2559 ตนได้เข้าร่วมเวที “วิสัยทัศน์ประชาชนว่าด้วยเรื่องสิทธิชุมชนและสิ่งแวดล้อม ตอน ผังเมือง” ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ประเด็นที่สามคือการที่แชร์โพสต์เฟซบุ๊กที่เป็นแผนผังการใช้อำนาจในการจัดการขยะและสร้างโรงไฟฟ้าขยะที่มาจากบทความในเว็บไซต์ผู้จัดการเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
การดำเนินนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพลของ คสช. ได้สร้างผลกระทบต่อกลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม โดยเมื่อวานนี้ (29 มี.ค.2559) ทหารได้มีการควบคุมตัว นายละม่อม บุญยงค์ ชาวระยอง ประธานกลุ่มปากน้ำบ้านเรา กรรมการสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็กระยอง เพราะเป็นชาวประมงที่กำลังร้องเรียนต่อคณะอนุกรรมการด้านสิทธิชุมชนและฐานทรัพยากร ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารร่วมกับเทศบาลระยองจะดำเนินการไล่รื้อบ้านเรือนและพื้นที่ใช้ประกอบอาชีพประมงของชาวบ้านต่อเนื่องบริเวณริมชายหาด อ.เมือง จ.ระยอง
ไม่ง้อแอปเปิล เอฟบีไอเจาะเอง ไอโฟนมือกราดยิง
29 มี.ค. 2559 เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์รายงานโดยอ้างสำนักข่าวต่างประเทศว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยในวันจันทร์ว่า สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ เอฟบีไอ (FBI) สามารถเจาะระบบสมาร์ทโฟน ‘ไอโฟน’ ของมือปืนที่ก่อเหตุกราดยิงในเมือง ซาน เบอร์นาร์ดิโน ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อ ธ.ค.ปีก่อนได้แล้ว โดยไม่ต้องได้รับความช่วยเหลือจากบริษัท แอปเปิล ผู้ผลิตไอโฟน
เหตุการณ์นี้ถือเป็นการยุติคดีความระหว่างทั้งเอฟบีไอกับแอปเปิลไปโดยปริยาย โดยแอปเปิลกำลังต่อต้านคำสั่งของศาลที่ออกเมื่อเดือนก่อน ที่ต้องการให้แอปเปิลเขียนซอฟต์แวร์ใหม่เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าถึงข้อมูลภายในของ ไอโฟน 5ซี ของนาย ไซเยด ริซวาน ฟารูค ซึ่งร่วมมือกับภรรยาคือนาง ทัชฟีน มาลิค โจมตีสำนักงานแห่งหนึ่งในเมือง ซาน เบอร์นาร์ดิโน ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ในวันที่ 2 ธ.ค. 2015 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 14 ราย ก่อนทั้งคู่จะถูกตำรวจยิงเสียชีวิต ล่าสุดเอฟบีไอระบุว่า พวกเขาได้ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้ เอฟบีไอต้องการเข้าถึงข้อมูลไอโฟนของนายฟารูค เพื่อหาว่าเขาและภรรยาทำงานร่วมกับคนอื่นๆ, มีเป้าหมายโจมตีอื่นๆ หรือ ได้รับการสนับสนุนจากใครหรือไม่ ขณะที่มีข้อมูลด้วยว่า นางมาลิคได้ประกาศตัวสวามิภักดิ์ต่อกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอซิส) ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ของเธอในวันที่ก่อเหตุด้วย แต่แอปเปิลไม่ให้ความร่วมมือ
แต่เมื่อสัปดาห์ก่อน อัยการสหรัฐฯ กล่าวว่า มีกลุ่มบุคคลที่ 3 ซึ่งไม่เปิดเผยว่าเป็นใคร ได้แสดงให้เห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่จะใช้วิธีอื่นในการปลดล็อกไอโฟนโดยไม่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือของแอปเปิล ทำให้กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ของให้ศาลเลื่อนการพิจารณาคดีกับแอปเปิลในสัปดาห์เดียวออกไป ในระหว่างที่พวกเขากำลังหาวิธีเจาะไอโฟนวิธีใหม่
ด้านบริษัทแอปเปิลระบุว่า พวกเขาไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่ใช้วิธีใดในการเจาะระบบของไอโฟน และหวังว่ารัฐบาลจะบอกพวกเขาเกี่ยวกับจุดอ่อนของไอโฟนที่อาจถูกค้นพบ แอปเปิลระบุด้วยว่า พวกเขาจะยังคงเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาต่อไป เนื่องจากภัยคุกคามและการโจมตีต่อข้อมูลของพวกเขาเกิดบ่อยขึ้นและซับซ้อนขึ้น
อนึ่ง หนังสือพิมพ์ของอิสราเอลรายงานเมื่อสัปดาห์ก่อน อ้างว่า บริษัท เซลเลไบรต์ (Cellebrite) ซึ่งเชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในอิสราเอลร่วมมือกับเอฟบีไอในการทำคดีนี้ด้วย