เมื่อวันที่ 28 มี.ค. สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายกฤช เอื้อวงศ์ รองเลขาธิการกกต. แถลงผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ว่า คณะกรรมการ กกต.มีมติที่ 33/2562 ลงวันที่ 25 มี.ค.62 ให้เปิดเผยผลคะแนนการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ภายหลังได้รับการรายงานผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการ 100% จากสำนักงานกกต.ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นการรายงานเฉพาะส.ส.แบบแบ่งเขตและคะแนนรวมของแต่ละพรรคการเมือง ในส่วนของส.ส.แบบแบ่งเขตมีผู้สมัครทั้งสิ้น 11,181 คน แต่ถูกตัดสิทธิ์สมัครไป 572 คน คงเหลือผู้สมัคร 10,609 คน และผลคะแนนของพรรคการเมือง 81 พรรค
นายกฤช กล่าวอีกว่า สำหรับจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งนี้มีทั้งสิ้น 51,239,638 คน มีผู้มาใช้สิทธิ์ 38,268,375 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 74.69 ผู้ไม่มาใช้สิทธิ 12,971,263 คน หรือร้อยละ 25.31 ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากการแถลงของนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. ในวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากตัวเลขในขณะนั้นเป็นการนับคะแนนที่ 94% แต่ล่าสุดเป็นตัวเลขที่ 100% ส่วนจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้ไปมีทั้งสิ้น 38,268,366 ใบ แยกเป็นบัตรดี 35,532,647 คิดเป็นร้อยละ 92.85 บัตรเสีย 2,130,327 ใบ หรือคิดเป็นร้อยละ 5.57 บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 605,392 ใบ หรือคิดเป็นร้อยละ 1.58
สำหรับคะแนนของพรรคการเมือง 100% จากทุกจังหวัด โดยพรรคที่มีคะแนนซึ่งอาจนำมาคำนวณเป็นเก้าอี้ส.ส.บัญชีรายชื่อ มีประมาณ 30 พรรค เรียงลำดับดังนี้ พลังประชารัฐ 8,433,137 คะแนน เพื่อไทย 7,920,630 คะแนน อนาคตใหม่ 6,265,950 คะแนน ประชาธิปัตย์ 3,947,726 คะแนน ภูมิใจไทย 3,732,883 คะแนน เสรีรวมไทย 826,530 คะแนน ชาติไทยพัฒนา 782,031 คะแนน เศรษฐกิจใหม่ 485,664 คะแนน ประชาชาติ 485,436 คะแนน เพื่อชาติ 419,393 คะแนน รวมพลังประชาชาติไทย 416,324 คะแนน ชาติพัฒนา 252,044 คะแนน พลังท้องถิ่นไท 213,129 คะแนน รักษ์ผืนป่าประเทศไทย 136,597 คะแนน พลังปวงชนไทย 81,733 คะแนน
ประชาภิวัฒน์ 69,417 คะแนน พลังไทยรักไทย 60,840 คะแนน ไทยศรีวิไลย์ 60,421 คะแนน ประชานิยม 56,617 คะแนน ครูไทยเพื่อประชาชน 56,339 คะแนน ประชาธรรมไทย 47,848 คะแนน ประชาชนปฏิรูป 45,508 คะแนน พลเมืองไทย 44,766 คะแนน ประชาธิปไตยใหม่ 39,792 คะแนน พลังธรรมใหม่ 35,533 คะแนน ไทรักธรรม 33,748 คะแนน เพื่อเเผ่นดิน 31,307 คะแนน ทางเลือกใหม่ 29,607 คะแนน ภราดรภาพ 27,799 คะแนน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสกดดันและลงชื่อถอดถอนกกต. นายกฤช กล่าวว่า เรื่องการเข้าชื่อถอดถอนต้องว่าตามกระบวนการ แต่ขอชี้แจงยืนยันว่ากกต.ทุกคนทำงานตามระเบียบและกฎหมายที่กำหนด ทุกอย่างเปิดเผยได้ตามเวลาที่กฎหมายกำหนด ส่วนประเด็นการสั่งไม่นับคะแนนบัตรเลือกตั้งจากประเทศนิวซีแลนด์นั้น ตนอยากให้ไปย้อนดู พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 114 ซึ่งมีรายละเอียดระบุไว้ถึง 4 ประเด็น หากเข้าประเด็นใด กกต.สามารถใช้อำนาจสั่งไม่นับคะแนนได้ ในทางกลับกันหากนำบัตรดังกล่าวมานับ อาจมีผู้นำไปร้องคัดค้าน ซึ่งจะเป็นปัญหาต่อการเลือกตั้งในภาพรวม
เมื่อถามถึงเหตุผลที่กกต.เปลี่ยนแปลงเวลาโดยแถลงเปิดเผยผลคะแนนเร็วขึ้น นายกฤช กล่าวว่า กกต.เข้าใจความรู้สึกของประชาชนที่อยากทราบผลคะแนน เมื่อได้มีการพิจารณาผลคะแนนของ 2 จังหวัดสุดท้ายเสร็จเรียบร้อย จึงได้มีการจัดแถลงข่าวเปิดเผยตัวเลขทั้งหมด
ต่อข้อถามถึงกระแสข่าวที่ระบุว่ากกต.จะแจกใบแดงมากถึง 45 ใบ นายกฤช กล่าวว่า ข่าวดังกล่าวเป็นข่าวเท็จ การพิจารณาเรื่องร้องเรียนและคัดค้านต่างๆ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของกกต. ซึ่งมีขั้นตอนของการดำเนินการแต่ยังไม่ได้ตั้งธงว่าจะให้ใบเหลืองใบแดง จำนวนเท่าไร และพรรคไหน ซึ่งข่าวที่ปรากฏเรื่องใบเหลืองใบแดงนั้นไม่เป็นความจริง สำหรับผู้ที่ปล่อยข่าวเท็จทำให้เกิดความเสียหายและสร้างความสับสนนั้น กกต.จะดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายต่อไป
ร.ต.อ.มนูญ วิเชียรนิตย์ ผอ.สำนักสนับสนุนงานสืบสวนสอบสวน สำนักงานกกต. กล่าวว่า ในกระบวนการไต่สวน สืบสวน สอบสวน หากมีมูลก็จะแจ้งข้อกล่าวหาไปยังฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาทราบ โดยเป็นกรณีร้องเรียนกล่าวหา 71 เรื่อง และมีความปรากฏต่อสำนักงานกกต. 40 เรื่อง ซึ่งจะได้ตรวจมูลคดีและตั้งกรรมการไต่สวน ท้ายที่สุดจะต้องส่งเรื่องทั้งหมดให้คณะกรรมการกกต.ลงมติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวครั้งนี้ยังปรากฏความผิดพลาดของข้อมูลตัวเลขบัตรดีกับตัวเลขผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนไม่ตรงกัน โดยตัวเลขที่นายกฤชนำมาแถลงเป็นตัวเลข ณ วันที่ 28 มี.ค. เวลา 14.03 น. แต่เอกสารที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์นำมาแจกให้กับผู้สื่อข่าวเป็นตัวเลข ณ วันที่ 27 มี.ค. เวลา 21.02 น.
แจง จำนวนผู้ใช้สิทธิ ไม่ตรงกับบัตรเลือกตั้ง
นายกฤช เอื้อวงศ์ รองเลขาธิการกกต. ชี้แจงถึงกรณีที่จำนวนผู้มาใช้สิทธิไม่ตรงกับยอดบัตรที่ใช้ เป็นจำนวน 9 ใบ ว่า อาจเกิดการเขย่งในจำนวนผู้มาใช้สิทธิ กับบัตรที่ใช้ ซึ่งอาจมีสาเหตุจากกรณีที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปแสดงตนใช้สิทธิ แต่ไม่ได้รับบัตรเลือกตั้ง แล้วเดินออกจากหน่วยเลือกตั้งไป เป็นข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้ จากหน่วยเลือกตั้งที่มีกว่า 92,000 หน่วยทั่วประเทศ ส่วนการสอบทานไปยังหน่วยลงคะแนนถ้าหน่วยใดรายงานผิดนั้นก็สามารถสอบทานได้ว่าเกิดการผิดพลาดที่หน่วยเลือกตั้งใด
ส่วนกรณีที่จำนวนบัตรดีไม่ตรงกับการคำนวณคะแนนรวมของทุกพรรคการเมืองนั้น นายกฤช กล่าวว่า อาจมีสาเหตุมาจากนับบัตรที่หน่วยเลือกตั้ง ที่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นในการนับ แต่ยืนยันว่าไม่ส่งผลกระทบกับคะแนนรวมเพราะคะแนนมีการนับและเขียนไว้อย่างชัดเจนที่กระดานในหน่วยเลือกตั้งของทุกหน่วย ทั้งนี้ความผิดพลาดเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก แต่ที่ผ่านมาพบการเขย่งของบัตรเช่นนี้เหมือนกัน
หมายเหตุ : แก้ไขล่าสุด วันที่ 28 มีนาคม 2562 เวลา 23.26 น.