ThaiPublica > เกาะกระแส > ระบบเลือกตั้งรวน? บัตรเลือกตั้งงอกทุกจังหวัด รวม 11 ล้านใบ – โป่ง “บัตรเสีย-Vote no” ก่อนลดลงหลังปิดหีบกว่า 3 ชั่วโมงครึ่ง

ระบบเลือกตั้งรวน? บัตรเลือกตั้งงอกทุกจังหวัด รวม 11 ล้านใบ – โป่ง “บัตรเสีย-Vote no” ก่อนลดลงหลังปิดหีบกว่า 3 ชั่วโมงครึ่ง

25 มีนาคม 2019


เป็นกระแสขึ้นมาอย่างรวดเร็วกับแฮชแท็ก #กกต.โป๊ะแตก-โกงเลือกตั้ง ในโลกออนไลน์ภายหลังปิดหีบเลือกตั้งและเริ่มนับคะแนนตั้งแต่ช่วง 5 โมงเย็นของวันที่ 24 มีนาคม 2562 ภายหลังจากมีคนสังเกตเห็นว่าระบบรายงานผลการเลือกตั้งผ่าน Facebook Live สำนักประชาสัมพันธ์ กกต. ของสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) โดยเป็นการรายงานผลแบบ Real-Time ซึ่งมีรูปแบบรายงานไล่เรียงตั้งแต่ผลการเลือกตั้งแบบเขตทั้ง 350 เขต ตามด้วยผลการเลือกตั้งแยกรายจังหวัดตามพรรคที่ได้คะแนนนำ 5 อันดับแรก และปิดท้ายด้วยข้อมูลบัตรเลือกตั้งและการออกมาใช้สิทธิของประชาชนในแต่ละจังหวัด

ปัญหาเกิดขึ้นในช่วงเวลา 18:15 น. ของวันที่ 24 มีนาคม 2562 ภายหลังจากคะแนนที่ถูกนับและส่งเข้ามายังระบบของกกต. และกกต.เริ่มระบบ Facebook Live ในช่วงที่นับคะแนนไปแล้ว 17% เมื่อมีคนสังเกตว่าข้อมูลในส่วนสุดท้ายผิดพลาด โดยจำนวนผู้มาสิทธิเลือกตั้งน้อยกว่าจำนวนบัตรเลือกตั้งค่อนข้างมาก ซึ่งแบ่งเป็นประเภทบัตรดี บัตรเสียง และบัตรไม่เลือกผู้สมัครใด หรือ Vote No และเรียกร้องถึงความโปร่งใสของ กกต.และการเลือกตั้งครั้งแรกของประเทศในรอบ 8 ปี

สำนักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้ารวบรวมข้อมูลรายจังหวัดในช่วงเวลา 18:50 น. ซึ่ง นับคะแนนไปแล้ว 43% (เนื่องจากช่วงเวลาก่อนหน้า จอรายงานผลถูกย่อลงจากการแถลงข่าวของพ.ต.อ.จรุงวิทย ภุมมา เลขาธิการ กกต.) ยังพบว่ากกต.รายงานว่าประเทศไทยมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 12,449,131 คน แบ่งเป็นบัตรดี 5,263,837 ใบ บัตรเสีย 7,133,859 ใบ และบัตรไม่เลือกผู้สมัครใด 11,568,691 ใบ หรือรวมกันมีบัตรเลือกตั้ง 23,966,387 ใบ มากกว่าจำนวนผู้มาใช้สิทธิ 11,517,256 ใบ และมากกว่าจำนวนผู้มาใช้สิทธิในทุกจังหวัด

ทั้งนี้ 10 อันดับแรกที่กกต.รายงานว่ามีบัตรเลือกตั้งมากกว่าจำนวนผู้มาใช้สิทธิ มีจำนวนทั้งสิ้น 3,424,077 ใบ หรือคิดเป็น 30% ของบัตรเลือกตั้งที่เกินมาทั้งหมด ได้แก่ นครราชสีมา 534,746 ใบ, กทม 506,851 ใบ, ศรีสะเกษ 338,080  ใบ, ร้อยเอ็ด 332,376 ใบ, บุรีรัมย์ 319,375 ใบ, ขอนแก่น 307,770  ใบ, อุบลราชธานี 279,588 ใบ, เชียงราย 274,915 ใบ, เชียงใหม่ 269,323 ใบ, สุรินทร์ 261,053 ใบ

ทั้งนี้ กกต.ยังรายงานผลการเลือกตั้งที่ผิดพลาดในลักษณะดังกล่าวอย่างต่อเนื่องในช่วง 19:23น. ซึ่งนับคะแนนไปแล้ว 63% ก่อนที่ต่อมาในช่วง 20:24 น. ซึ่งนับคะแนนไปแล้ว 84% ความผิดพลาดดังกล่าวได้ถูกแก้ไข หรือผ่านไปกว่า 3 ชั่วโมงครึ่งหลังปิดหีบเลือกตั้ง และท้ายที่สุดในการประกาศผลเลือกตั้งเบื้องต้นช่วงสุดท้ายของวัน ณ เวลา 23.49 น. จาก Facebook Live อีกช่วงหนึ่ง ซึ่งนับคะแนนไปแล้ว 93% พบว่ามีจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 35,246,510 คน เป็นบัตรดี 32,731,735 ใบ บัตรเสีย 1,989,659 ใบ และบัตรไม่เลือกผู้สมัครใด 525,100 ใบ รวมกัน 35,246,494 ใบ และทำให้มีบัตรเลือกตั้งหายไป 21 ใบ และมีบัตรเกินมา 5 ใบ จากรายงานในช่วงดังกล่าว โดยจังหวัดลำปางหายไปมากที่สุด 6 ใบ รองลงมาคือกทม. 3 ใบ และยะลา 2 ใบ ขณะที่จังหวัดนครสวรรค์ เกินมา 4 ใบ และนครศรีธรรมราช เกินมา 1 ใบ

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือในช่วงเวลาดังกล่าวตัวเลขหลายตัวมีการเปลี่ยนแปลงทั้งที่ควรจะเป็นตัวเลขที่คงที่ตลอดระยะเวลาประกาศผลคะแนน อย่างจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งลดลงจาก 50,974,020 คนในช่วง 19:00 น. เป็น 50,885,531 คนในช่วง 23:49น. หรือลดลง 88,489 คน นอกจากนี้ ในหลายหน้าของการรายงานพบว่ามีข้อมูลที่ไม่ตรงกันอีกหลายแห่ง แม้ว่าจะรายงานในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้มาใช้สิทธิ จำนวนผู้มีสิทธิ บัตรดี บัตรเสีย และบัตรไม่เลือกผู้สมัครใด จึงมีการตั้งคำถามถึงความโปร่งใสและความชัดเจนของการนับคะแนนในการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างมาก

  • กกต. ยอมรับระบบรายงานผลคะแนนถูกแฮกหลายครั้ง – สรุปว่าที่ส.ส. 350 เขต ทางเว็บไซต์วันนี้ – ผลเป็นทางการแจ้ง 9 พ.ค.นี้
  • อนึ่ง นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการ กกต.กล่าวว่าในตอนหนึ่งของการแถลงข่าววันที่ 25 มีนาคม 2562 ว่าสำหรับข้อสงสัยถึงคะแนนที่ไม่สัมพันธ์กัน โดยจำนวนบัตรมากกว่าจำนวนผู้ไปใช้สิทธินั้น ข้อมูลที่ปรากฎออกมามีข้อผิดพลาดหลายส่วน เป็นความผิดพลาดจากตัวบุคคล กรอกข้อมูลผิด ป้อนข้อมูลผิด และระหว่างเริ่มทำงาน แรพพิทรีพอร์ต ล่มถึง 3 ครั้ง จากการเข้าโจมตีระบบของแฮคเกอร์ และเมื่อวันที่ 24 มี.ค. ระบบก็ล่มอีก ต้องยอมรับว่าคนของเราเก่งจริงๆ ชอบแสดงความสามารถ ถ้าชนะอยู่แล้วจะมีความสุข