ThaiPublica > เกาะกระแส > สถิติคำตัดสินขององค์การการค้าโลก สหรัฐฯ พิพาทกับจีน 19 ครั้ง ชนะทุกครั้ง ชนะประเทศอื่นเกิน 85%

สถิติคำตัดสินขององค์การการค้าโลก สหรัฐฯ พิพาทกับจีน 19 ครั้ง ชนะทุกครั้ง ชนะประเทศอื่นเกิน 85%

19 มีนาคม 2019


สุนิสา กาญจนกุล

สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่คุกรุ่นอยู่ในปัจจุบันสร้างความอึมครึมให้กับภาวะเศรษฐกิจโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สถานการณ์ตึงเครียดนี้เกิดขึ้นเนื่องจากระหว่างการหาเสียงเพื่อให้ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศนโยบายว่าจะทำให้การค้าของสหรัฐฯ ได้รับความยุติธรรมกว่าที่เคยเป็นในอดีต

หลังจากคว้าชัยชนะและก้าวขึ้นสู่อำนาจ ทรัมป์จึงประกาศศึกการค้ากับนานาประเทศ แต่เมื่อดำรงตำแหน่งครบ 1 ปี สถานการณ์การขาดดุลการค้าก็ยังไม่ดีขึ้นกว่าเดิม สหรัฐฯ จึงเริ่มดำเนินมาตรการกีดกันทางการค้ากับหลายๆ ประเทศอย่างแข็งขันกว่าเดิม ทั้งๆ ที่สหรัฐฯ ประกาศตัวว่าสนับสนุนการค้าเสรีมาตลอด

ในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 สหรัฐฯ มีการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอุตสาหกรรมหลายชนิด รวมถึงการตั้งกำแพงภาษีสำหรับสินค้านำเข้าต่างๆ โดยประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงที่สุดก็คือจีนนั่นเอง ส่งผลให้จีนดำเนินการตอบโต้ด้วยวิธีการที่คล้ายคลึงกัน

แม้จะเร่งใช้มาตรการต่างๆ แต่ตัวเลขการขาดดุลการค้ากับประเทศอื่นๆ ก็ยังไม่กระเตื้องขึ้น เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึงระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี เป็น 55,500 ล้านเหรียญ เนื่องจากการนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นและการแข็งค่าของเงินตราสหรัฐฯ

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นชัดว่า นโยบายกำแพงภาษีที่ทรัมป์นำมาใช้กับสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะสินค้าจีนนั้น ไม่ได้ช่วยให้สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าลดลงเลย โดยสหรัฐฯ ขาดดุลการค้ากับจีนเพิ่มขึ้น 2% ในเดือนตุลาคม ปี 2561 คิดเป็นมูลค่า 38,000 ล้านเหรียญ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสหรัฐฯ ส่งออกสินค้าเกษตรไปตลาดจีนได้น้อยลงเนื่องจากมาตรการตอบโต้ทางการค้าจากรัฐบาลจีน

หวังพึ่ง WTO

ที่มาภาพ: http://www.newagebd.net/article/57682/wto-paralysed-as-leaders-meet-to-defuse-us-china-trade-war

เมื่อมาตรการกีดกันทางการค้าล้มเหลว ทรัมป์ถึงเปลี่ยนแนวไปหาที่พึ่งใหม่ นั่นคือ องค์การการค้าโลก (WTO)

องค์การการค้าโลกเป็นองค์การระหว่างประเทศองค์การเดียวในโลกที่ทำหน้าที่กำกับดูแลการค้าระหว่างประเทศในระดับพหุภาคี โดยเป็นเวทีในการเจรจาลดอุปสรรคและข้อกีดกันทางการค้าและจัดทำกฎระเบียบการค้าระหว่างประเทศเพื่อสนับสนุนให้การค้าโลกมีความเสรียิ่งขึ้นบนพื้นฐานของการแข่งขันที่เท่าเทียมกัน นอกจากนี้ ยังเป็นเวทีในการระงับข้อพิพาททางการค้าระหว่างประเทศสมาชิก และเป็นเวทีในการตรวจสอบและทบทวนนโยบายการค้าของประเทศสมาชิก (ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://www.thaiwto.com)

ซึ่งแม้ว่าที่ผ่านมาการทำงานด้านเจรจาการค้าขององค์การการค้าโลกจะเป็นไปอย่างเชื่องช้า แต่กลไกการระงับข้อพิพาทขององค์การการค้าโลกยังคงทำงานได้ดี โดยผลการตัดสินขององค์การการค้าโลกจะมีผลบังคับต่อประเทศสมาชิกคู่พิพาทด้วย หลายๆ ประเทศจึงต้องดำเนินตามกฎขององค์การการค้าโลกมาโดยตลอด

สหรัฐฯ ระบุว่าจีนไม่เคยทำตามกติกาขององค์การการค้าโลก โดยเฉพาะเรื่องการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และการเข้าไปสนับสนุนเอกชนผ่านรัฐวิสาหกิจต่างๆ และในเดือนสิงหาคม ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บีบคั้นองค์การการค้าโลกหนักขึ้นโดยขู่ว่าจะถอนสหรัฐฯ ออกจากองค์การการค้าโลกหากยังไม่มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการทำงาน โดยที่ทรัมป์มักออกความเห็นอยู่เสมอว่าสหรัฐฯ ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมทางด้านการค้าจากองค์การการค้าโลก

พิพาทกับจีน 19 ครั้ง สหรัฐชนะ 19 ครั้ง

มาดูกันว่าคำประท้วงองค์การการค้าโลกของสหรัฐฯ นั้นเป็นจริงหรือไม่ สถาบันปีเตอร์สันเพื่อเศรษฐกิจนานาชาติ (PIIE) ซึ่งเป็นองค์กรไม่หวังผลกำไร รายงานว่า หากมีข้อพิพาทระหว่างจีนกับสหรัฐฯ องค์การการค้าโลกจะตัดสินเข้าข้างสหรัฐฯ เสมอ ทั้งที่ทรัมป์ประกาศเมื่อปีที่แล้วว่า “องค์การการค้าโลกก่อตั้งขึ้นเพื่อประโยชน์ของทุกคนยกเว้นเรา” และ “เราพ่ายแพ้คดีความเกือบทุกคดีในองค์การการค้าโลก”

โดยนับตั้งแต่ปี 2002 เป็นต้นมา วอชิงตันยื่นคำร้องเกี่ยวกับจีนต่อองค์การการค้าโลกรวมทั้งสิ้น 23 กรณี มีการตัดสินข้อพิพาทไปแล้ว 19 กรณี โดยสหรัฐฯ เป็นฝ่ายชนะทั้งหมด เหลืออีก 4 กรณี ที่ยังอยู่ระหว่างพิจารณา

ไม่เพียงเท่านั้น สถิติขององค์การการค้าโลกเองแสดงให้เห็นว่า เมื่อสหรัฐฯ มีข้อพิพาทด้านการค้ากับประเทศอื่นๆ อัตราการชนะของสหรัฐฯ นั้นเพิ่มสูงขึ้นมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นข้อพิพาทที่สหรัฐฯ เป็นฝ่ายยื่นฟ้อง โดยข้อมูลแสดงให้เห็นว่าอัตราชนะข้อพิพาทของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจาก 84.8% ในยุคสมัยของรัฐบาลประธานาธิบดีโอบามา เป็น 85.4% ในสมัยของรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์

ยังคงต้องรอดูเหตุการณ์

แม้ตัวเลขสถิติจะยืนยันชัดเจนว่าความรู้สึกของประธานาธิบดีทรัมป์ที่มีต่อองค์การการค้าโลกนั้นขัดแย้งกับความเป็นจริง แต่ท่าทีของสหรัฐฯ ที่มีต่อองค์การการค้าโลกก็ยังเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว

โดยเมื่อต้นเดือนนี้ แม้องค์การการค้าโลกจะตัดสินให้สหรัฐฯ เป็นฝ่ายชนะในการฟ้องร้องว่าจีนใช้มาตรการอุดหนุนเกษตรกรเพื่อพยุงราคาธัญพืช เป็นการจำกัดโอกาสของเกษตรกรชาวสหรัฐฯ ในการส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีน แต่ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ก็กล่าวถึงองค์การการค้าโลกว่า สหรัฐฯ จะยังคงใช้องค์การการค้าโลกเพื่อประท้วงพฤติกรรมที่เห็นว่าไม่ยุติธรรม แต่จะไม่ยอมให้หน่วยงานระดับนานาชาติแห่งนี้มาบงการ และสหรัฐฯ จะเดินหน้าใช้กำแพงภาษีเพื่อกดดันจีนและประเทศคู่ค้าอื่นๆ ต่อไป เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของคนงาน เกษตรกร และธุรกิจอเมริกัน

ด้วยท่าทีเช่นนี้ของสหรัฐฯ ประเทศคู่ค้าต่างๆ ของสหรัฐฯ จึงมีแววว่าจะต้องเฝ้ารอด้วยความหวาดระแวงว่าสหรัฐฯ จะเดินหมากทางการค้าอย่างไรต่อไป และองค์การการค้าโลกจะมีท่าทีเช่นไร ตลาดการค้าโลกจึงตกอยู่ในสถานการณ์ต้องเฝ้าระวังอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เลย

แหล่งข้อมูล:

1.https://news.bloomberglaw.com/international-trade/u-s-keeps-winning-wto-cases-despite-claim-of-anti-u-s-bias

2.https://www.axios.com/ardern-new-zealand-attacks-inquiry-1552882829-363900be-1eb8-45ae-8866-d79945b49fab.html

3.https://piie.com/blogs/trade-investment-policy-watch/us-china-trade-disputes-wto-usually-sides-united-states?utm_source=Fareed%27s+Global+Briefing&utm_campaign=223f9fb248-

4.http://www.thaiwto.com/about%20wto%205.html

5.https://www.reuters.com/article/us-usa-trade-china/u-s-says-rejects-wtos-straitjacket-of-trade-obligations-idUSKCN1QJ01R