ThaiPublica > เกาะกระแส > 18 ปี SAM ส่งคืนเงินกองทุนฟื้นฟูกว่า 250,000 ล้านบาท ปรับกลยุทธ์ขายสินทรัพย์มือสอง – เปิดบ้านลุยคลินิกแก้หนี้

18 ปี SAM ส่งคืนเงินกองทุนฟื้นฟูกว่า 250,000 ล้านบาท ปรับกลยุทธ์ขายสินทรัพย์มือสอง – เปิดบ้านลุยคลินิกแก้หนี้

20 กุมภาพันธ์ 2019


นายนิยต มาศะวิสุทธิ์

“นิยต มาศะวิสุทธิ์” ทำงานที่ SAM มากว่า 14 ปี ประสบการณ์ที่สั่งสมมาวันนี้นั่งเป็นผู้บริหารสูงสุดของ SAM หรือบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.)เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา

SAM จัดตั้งขึ้นมาในปี 2543 เพื่อแก้ปัญหาในยุควิกฤติต้มย้ำกุ้งปี 2540 ที่สถาบันการเงินต้องปิดกิจการลงจำนวนมาก โดยกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน เพื่อเป็นเครื่องมือในการจัดการสินทรัพย์ที่มีปัญหามากมาย

บทบาทของ SAM ในช่วง 18 ปีที่ผ่านมาได้เข้ามาปรับปรุง ฟื้นฟู ทรัพย์สินเพื่อให้ทรัพยากรของประเทศกลับมาใช้งานและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับระบบเศรษฐกิจอีกครั้ง จนถึงวันนี้ SAM สามารถนำส่งเงินคืนกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน เป็นเงินไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 250,000 ล้านบาท

นายนิยตกล่าวถึงผลการดำเนินงานในปี 2561 ที่ผ่านมาว่า ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2561 SAM ได้รับชำระเงินสด รวมจำนวนทั้งสิ้น 11,422 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 134 ของเป้าหมาย โดยมาจากการบริหารสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ประมาณ 7,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 62 การจำหน่ายทรัพย์สินรอการขาย (NPA) จำนวนมากกว่า 4,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 38 และตลอดปี 2561 สามารถซื้อสินทรัพย์ NPL เพิ่มเติมได้ประมาณ 10,000 ล้านบาท

“ในปีที่แล้ว ผลจากโครงการ EEC ของรัฐบาลทำให้ NPA แปลงใหญ่ๆขายได้หมดเลย ส่วนที่เหลืออยู่จะเป็นรายย่อยเยอะ ก็จะต้องมีการปรับกลยุทธ์ในการขายด้วยการนำเทคโนโลยี่มาช่วย” นายนิยตกล่าว

ขณะที่โครงการคลินิกแก้หนี้ในปี 2561 มีผู้สมัครเข้าโครงการ 9,800 ราย มีผู้ผ่านคุณสมบัติและลงนามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้แล้ว 1,087 ราย ปัจจุบันมีลูกหนี้ที่ยังผ่อนชำระอยู่กับโครงการเกือบ 1,000 ราย ภาระหนี้รวมทั้งสิ้น 270 ล้านบาท นอกจากนี้ SAM ยังดำเนินงานด้านการอบรมและให้ความรู้ทางการเงิน เพื่อเสริมสร้างวินัยทางการเงินให้แก่ประชาชนทั่วไปอย่างต่อเนื่อง ผ่านหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น สถานีตำรวจภูธร อ.ด่านช้าง สำนักงานปลัด กระทรวงกลาโหม สถาบันคุ้มครองเงินฝาก บจ.ธนบุรีประกอบรถยนต์ บจ.สยามมิชลิน เป็นต้น

ส่วนแผนงานในปี 2562 นายนิยตกล่าวว่า SAM มีเป้าหมายเก็บเงินสดรับที่ 11,600 ล้านบาท และเพิ่มขนาดพอร์ตสินทรัพย์เพิ่มด้วยการเข้าประมูลซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจากธนาคารพาณิชย์ตามแผนระยะยาวที่ตั้งไว้ให้ได้ตามเป้าหมายที่ 16,500 ล้านบาท ปัจจุบัน SAM มีสินทรัพย์ NPL คงเหลือมูลค่ารวมทั้งสิ้น 335,000 ล้านบาท แบ่งเป็นลูกหนี้รายใหญ่ ร้อยละ 66 SME ร้อยละ 30 และรายย่อย ร้อยละ 4 จึงมุ่งเน้นการช่วยเหลือลูกค้าปรับโครงสร้างหนี้ทุกกลุ่มให้บรรลุข้อตกลงได้ง่ายและสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งนี้มีแผนการจัดกิจกรรมพิเศษต่างๆ อาทิ กิจกรรมลดหนี้มีสุข กิจกรรมเปิดบ้านทำงานวันหยุด เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเข้ามาเจรจาปรับโครงสร้างหนี้นอกวันทำการ และเพิ่มเติมกิจกรรมสัญจร (Mobile Branch) เพื่อเดินทางไปพบลูกค้าและให้บริการในพื้นที่อย่างทั่วถึงตลอดปี

นอกจากนี้ในส่วนทรัพย์สิน NPA คงเหลือ 3,700 รายการ มูลค่ารวม 21,000 ล้านบาท แบ่งเป็นทรัพย์รายใหญ่มูลค่ามากกว่า 20 ล้าน ร้อยละ 5 ที่เหลือเป็นทรัพย์มูลค่าต่ำกว่า 20 ล้าน ร้อยละ 95 โดยกว่าร้อยละ 50 เป็นทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย ดังนั้น กลยุทธ์การบริหารจัดการ NPA ในปีนี้จึงเน้นการทำตลาดเข้าถึงลูกค้ารายย่อย พร้อมวางแผนจัดกิจกรรมต่างๆ ตลอดปี เช่น การจัดงานประมูลทรัพย์ NPA จำนวน 9 ครั้ง การเข้าร่วมงานมหกรรมกับหน่วยงานพันธมิตร จำนวน 5 ครั้ง รวมถึงการเปิดบูธ “ทรัพย์มือสองต้อง SAM” จำนวน 6 ครั้ง รวมทั้งการจัดโปรโมชั่นและกิจกรรมส่งเสริมการขายที่น่าสนใจมากมาย เช่น “SAM อีซี่ โปร” ฟรีค่าโอน 1% พร้อมอีก 2 โปรโมชั่นยอดนิยม ทั้ง “SAM จัดให้” และ “SAM Light ผ่อนสบายๆ 0%” และอื่นๆ คาดว่าจะกระตุ้นยอดขาย NPA ได้ยาวถึงสิ้นปี

ด้านแผนงานโครงการคลินิกแก้หนี้ในปี 2562 ได้เตรียมความพร้อมขยายขอบเขตการให้บริการเพื่อรองรับลูกค้ากลุ่ม Non-Bank และเพิ่มความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น เครดิตบูโร เพื่อลดกระบวนการและขั้นตอนการตรวจสอบให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมทั้งยังมีแผนจัดกิจกรรมเปิดบ้านทำงานวันหยุดกับ คลินิกแก้หนี้ ทุกวันเสาร์ โดยเริ่มครั้งแรกวันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์และตลอดเดือนมีนาคมนี้ ณ ที่ทำการ ชั้น 12 อาคารเล้าเป้งง้วน ถ.วิภาวดีรังสิต ด้วยหวังว่าการจัดกิจกรรมนี้ จะช่วยสร้างโอกาสและกระตุ้นกลุ่มเป้าหมายให้เข้ามาขอคำปรึกษาและเข้าร่วมโครงการฯ มากขึ้น ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนด้านหนี้สินส่วนบุคคลของผู้ที่ประสบปัญหาดังกล่าวได้ไม่มากก็น้อย และช่วยให้ลูกหนี้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ SAM ยังให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมเพื่อสังคม เช่น การอบรมและให้ความรู้ทางการเงินเพื่อเสริมสร้างวินัยทางการเงินให้แก่ประชาชนทั่วไปอย่างต่อเนื่องตลอดปี โดยเฉพาะนักศึกษาที่จบการศึกษาใหม่ที่กำลังจะเข้าทำงาน เพื่อสร้างความตระหนักเรื่องการวางแผนการเงินก่อนเริ่มมีรายได้ ทั้งนี้ ในปี 62 SAM ยังให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัยเข้ามาให้บริการลูกค้า ผ่านแอปพลิเคชัน เว็บไซต์ และสื่อโซเชียลอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเข้าถึงลูกค้าและให้บริการอย่างสะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น