ThaiPublica > เกาะกระแส > รู้จัก Mega Millions – Powerball สองล็อตเตอรี่รางวัลใหญ่ในสหรัฐฯ – แจ๊กพอตสูงสุด 1.6 พันล้านดอลล์

รู้จัก Mega Millions – Powerball สองล็อตเตอรี่รางวัลใหญ่ในสหรัฐฯ – แจ๊กพอตสูงสุด 1.6 พันล้านดอลล์

9 มกราคม 2019


ที่มาภาพ:https:// www.reuters.com/article/us-usa-lottery/u-s-gets-lottery-fever-as-jackpots-rise-to-2-2-billion-idUSKCN1MW196

โดยทั่วไปแล้ว การลงทุนเป็นหนทางที่นำไปสู่ความร่ำรวยมั่งคั่ง แต่ก็ไม่เสมอไปสำหรับอีกหลายคน เพราะบางครั้งการเสี่ยงโชคก็ทำให้เป็นเศรษฐีหรือมหาเศรษฐีได้ ด้วยเหตุนี้ล็อตเตอรี่จึงยังเป็นที่นิยมของผู้คนในหลายประเทศทั่วโลก เนื่องจากไม่ต้องใช้เวลานานกว่าจะมีเงินก้อน เพียงแค่ซื้อแล้วรอลุ้นตามงวดที่ออก บางครั้งไม่มีโชคก็สูญเงิน หากโชคดีก็ถูกรางวัล แม้จะไม่ใช่รางวัลใหญ่ แต่ผู้ซื้อก็สมหวังที่ได้รับเงิน

สำหรับประเทศไทยมีคนชอบเสี่ยงโชคมากมาย ข้อมูลของ TMB Analytics ระบุว่า 1 ใน 4 ของคนไทยซื้อลอตเตอรี่และหวย รวมเป็นจำนวนเงินกว่า 2.5 แสนล้านบาทต่อปี หรือคนไทยราว 20 ล้านคนซื้อลอตเตอรี่และหวย ล่าสุดเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ออก หนังสือด่วนมาก เชิญสมาชิก สนช. ประชุมในวันที่ 10 มกราคม 2562 เพื่อพิจารณาร่างกฎหมายเร่งด่วนของรัฐบาล 13 ฉบับ ในจำนวนนี้มีร่างกฎหมายที่เป็นไฮไลต์สำคัญ คือ ร่างพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. โดยสาระสำคัญเพิ่มอำนาจคณะกรรมการสามารถออกหวยรูปแบบใหม่ อาทิ หวยออนไลน์,ลอตโต้และจ่ายรางวัลรูปแบบใหม่ “แจ๊กพอต” เป็นต้น นั่นหมายความว่าจากนี้ไปคนไทยจะมีโอกาสซื้อหวยที่หลากหลายขึ้น มีรางวัลจูงใจมากขึ้น

  • ทีเอ็มบีเผยคนไทยเสพติดลอตเตอรี่และหวย “รวย – จนไม่เกี่ยว” – คนไทยซื้อลอตเตอรี่และหวย กว่า 2.5 แสนล้านบาทต่อปี
  • แก้กฎหมายหวย ให้อำนาจบอร์ดฯ ออกสลากรูปแบบใหม่ – แจกรางวัล “แจ๊กพอต” – ยุบเลิกกองทุนสลากฯ พับเงินเข้าคลัง
  • จากการรวบรวมข้อมูลในโลกนี้ล็อตเตอรี่ที่ให้รางวัลใหญ่ประเภทรางวัลแจ๊กพอตที่รู้จักกันทั่วโลกมีด้วยกัน 2 รายใหญ่ คือ Mega Millions และ Powerball ในสหรัฐฯ ซึ่งหากถูกรางวัลผู้ซื้อก็กลายเป็นมหาเศรษฐีในทันที

    การออกล็อตเตอรี่ในสหรัฐฯ ต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดและสามารถออกได้อย่างอิสระภายใต้เขตอำนาจรัฐอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพราะไม่มีสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเหมือนประเทศไทย สหรัฐฯ มีองค์กรรัฐที่ออกล็อตเตอรี่จำนวน 47 รายใน 44 รัฐ เรียกว่า State Lotteries อย่างไรก็ตาม มีการรวมตัวกันขึ้นของ State Lotteries ที่ครอบคลุมพื้นที่ที่กว้างขึ้น มีรางวัลแจ๊กพอตที่สูงขึ้น ส่งผลให้มีการออกล็อตเตอรี่ขึ้นมาอีก 2 ประภท คือ Mega Millions กับ Powerball ซึ่งออกโดยทุกองค์กรที่จำหน่ายล็อตเตอรี่อยู่แล้ว

    ผู้ที่มีสิทธิซื้อล็อตเตอรี่และรับรางวัลในสหรัฐฯ ทั้ง State Lotteries หรือ US Lottery รวมไปถึง Mega Millions กับ Powerball ไม่จำกัดว่าเป็นพลเมืองสหรัฐฯ (US residence) หรือไม่ใช่พลเมืองสหรัฐฯ (non-US residence) ซึ่งสำหรับพลเมืองสหรัฐฯ นั้นก็ไม่จำกัดอีกว่าจะมีสถานะใด แต่มีข้อกำหนดว่าต้องอายุ 18 ปี ขึ้นไป โดยสามารถซื้อล็อตเตอรี่ได้ในทุกรัฐที่ออกล็อตเตอรี่ แม้ว่าจะไม่ได้อาศัยหรือพำนักในรัฐมีการออกล็อตเตอรี่ หรือแม้แต่ไม่ได้พำนักหรืออาศัยในสหรัฐฯ เลย

    non-US residence สามารถซื้อและรับรางวัลได้หากถูกล็อตเตอรี่ แต่สิ่งที่ต้องคำนึงคือ พื้นที่ที่อยู่อาศัยนั้นอาจจะมีผลต่อการรับรางวัลหากถูกล็อตเตอรี่ขึ้นมา เนื่องจากแต่ละรัฐมีหลักเกณฑ์ที่ต่างกัน เช่น ผู้ถูกรางวัลสามารถไม่เปิดเผยตัวก็ได้ ขณะเดียวกันในหลายประเทศมีหลักเกณฑ์การเก็บภาษีจากเงินรางวัลล็อตเตอรี่ที่ต่างกัน ในกรณีที่จะซื้อล็อตเตอรี่ประเภทอื่น นอกเหนือจาก Mega Millions และ Powerball ควรตรวจสอบกฎกติกาให้ถี่ถ้วนก่อน

    แม้ non-US residence จะสามารถซื้อล็อตเตอรี่และรับรางวัลได้หากถูก แต่ก็มีกฎเกณฑ์ว่า ขณะที่ซื้อต้องอยู่ในสหรัฐฯ เพื่อให้สามารถซื้อล็อตเตอรี่ได้ถูกต้องตามกฎหมาย และการซื้อล็อตเตอรี่ออนไลน์ผ่านอินเทอร์เน็ตนั้นผิดกฎหมาย ประกอบกับมีการหลอกลวงผ่านอินเทอร์เน็ตมากมาย จึงต้องระวัง

    การที่สหรัฐฯ ไม่ห้าม non-US residence ในการซื้อล็อตเตอรี่ ทำให้ผู้ที่เข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายก็สามารถซื้อล็อตเตอรี่และรับรางวัลได้เช่นกัน เพียงแต่การแสดงตัวเพื่อรับรางวัลอาจทำให้ถูกจับกุมในข้อหาเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายและอาจถูกส่งตัวกลับประเทศ ซึ่งเคยมีตัวอย่างมาแล้ว ในปี 2011 ที่โฮเซ่ อันโตนิโอ กัว-ท็อค ถูกรางวัลเป็นเงิน 750,000 ดอลลาร์ แต่ไม่กล้าแสดงตัวเพื่อขอรับเงิน เพราะไม่มีสถานะเข้าเมืองอย่างถูกกฎหมาย จึงขอให้นายจ้างไปรับรางวัลแทน แต่ปรากฏว่านายจ้างเชิดเงินไป

    นอกจากนี้ ผู้ที่กระทำผิดทางกฎหมาย ผู้กระทำผิดทางอาญา ก็มีสิทธิที่จะซื้อล็อตเตอรี่และขึ้นเงินรางวัลแจ๊กพอตได้ ดังกรณีของ ทิโมที พูล ในเดือน 2014 ที่ถูกล็อตเตอรี่เป็นเงิน 2 ล้านดอลลาร์จากการซื้อล็อตเตอรี่แบบขูดจากการจำหน่ายล็อตเตอรี่ของ Florida Super Millions แต่พูลได้ถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศกับเด็กผู้ชายวัย 9 ปีซึ่งเป็นเพื่อนกับครอบครัวเขา พูลยืนยันว่าเขาบริสุทธ์แต่ต่อรองการรับสารภาพทำให้เขาต้องถูกจำคุกมากกว่า 1 ปีและถูกบันทึกว่าเป็นให้การว่าเป็นผู้กระทำผิดทางเพศ ขณะที่ Florida Super Millions ไม่มีข้อห้ามเกี่ยวกับการกระทำผิดทางอาญาของผู้มีสิทธิ์ซื้อล็อตเตอรี่ ดังนั้นพูลจึงได้รับเงินรางวัลจำนวน 2,219,807.90 ดอล ลาร์

    ที่มาภาพ : https://nylottery.ny.gov/mega-millions

    Powerball ซื้ออย่างไร

    Powerball Lottery คือล็อตเตอรี่ที่ออกโดยพันธรัฐ (multi-state lottery) ยกเว้นใน 8 รัฐ ซึ่งเข้ามาแทน Lotto America ในปี 1992 และเป็นล็อตเตอรี่ประเภทแรกที่ใช้กระบอกกลม 2 กระบอกในการจับรางวัล โดยกระบอกใบแรกใช้สำหรับลูกบอลสีขาว และอีกใบสำหรับลูกบอลสีแดง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ Powerball

    โดยปกติการจับรางวัลจะมีทุกวันพุธและวันเสาร์เวลา 22.12 น. ตามเวลาตอนกลางของประเทศ หรือ Central Time (Central Time มีเวลาช้ากว่าเวลาในประเทศไทย 13 ชั่วโมง แต่ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน มีการปรับ Daylight Saving Time ซึ่งจะมีผลให้เวลาของอเมริกาช้ากว่าเวลาในประเทศไทยเป็น 14 ชั่วโมง) โดยมีการจับรางวัลที่ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ ในออร์แลนโด รัฐฟลอริดา แต่ไม่มีการประกันว่าทุกครั้งที่มีการจับรางวัลจะมีรางวัลแจ็กพอต

    รางวัลแจ๊กพอตของ Powerball Lottery เริ่มต้นที่ 40 ล้านดอลลาร์ และเพิ่มขึ้น 10 ล้านดอลลาร์ในการจับรางวัลแต่ละครั้งหากแจ๊กพอตไม่แตก บางครั้งรางวัลแจ๊กพอตสูงถึงหลายร้อยล้านดอลลาร์ ในปี 2016 รางวัลแจ๊กพอตที่สูงสุดในประวัติศาสตร์โลกคือ สูงกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ยังมีรางวัลเงินสดอีกตั้งแต่ 4 ดอลลาร์ถึง 2 ล้านดอลลาร์

    สำหรับวิธีการเล่น Powerball คือ ผู้เล่นจะต้องซื้อตั๋ว Powerball ราคา 2 ดอลลาร์แล้วเลือกลูกบอลสีขาว 5 ลูกจาก 69 ลูก และเลือกลูกที่ 6 จากลูกบอลสีแดงที่มีทั้งหมด 26 ลูก ซึ่งต้องเรียงเลข 6 ชุดให้ตรงกันทั้งหมด ห้าชุดแรกคือลูกบอลสีขาวทั้งหมด ส่วนชุดที่หกคือชุดสีแดงหรือ Powerball หาก 5 ชุดแรกเรียงตรงกันก็รับรางวัล 1 ล้านดอลลาร์และหาก 5 ชุดแรกลูกสีขาวเรียงตรงกันและถูกรางวัลชุดที่หกหรือลูกสีแดงรวมเป็นหกชุดก็รับรางวัลแจ๊กพอต 40 ล้านดอลลาร์

    ผู้เล่นยังมีสิทธิเลือกเล่น PowerPlay โดยจ่ายเงินเพิ่มครั้งละ 1 ดอลลาร์ ซึ่งจะเพิ่มมูลค่ารางวัลหากเลือกเลข 1-5 ชุดแรก โดยรางวัลที่จะได้รับหากมีลูกบอลเรียงกันตรงน้อยกว่า 5 ลูก รางวัลจะเพิ่มเป็น 2-5 เท่า ซึ่งจำนวนเท่าของรางวัลนี้จะมาจากการสุ่ม และเงินที่จ่ายเพิ่มใน PowerPlay จะไม่มีผลต่อรางวัลแจ๊กพอต

    ที่มาภาพ : https://www.lotteryusa.com/new-york/powerball/

    วิธีเล่น Mega Millions

    Mega Millions คือล็อตเตอรี่ที่ออกโดยพันธรัฐ (Multi state Lottery) เช่นเดียวกับ Powerball โดยตั๋ว Mega Millions หาซื้อได้ในทุกรัฐยกเว้น 6 รัฐ รางวัลแจ๊กพอตเริ่มต้นที่ 40 ล้านดอลลาร์ และเพิ่มขึ้น 5 ล้านดอลลาร์ทุกครั้งที่มีการจับรางวัลและไม่มีคนได้รับรางวัลแจ๊กพอต

    Mega Millions เริ่มขึ้นในปี 1996 ในชื่อ The Big Game โดยมี 6 รัฐเข้าร่วมในช่วงแรก ต่อมาเมื่อได้รับความนิยมมากขึ้นและปัจจุบันเกือบทุกรัฐเข้าร่วม จึงมีการเปลี่ยนชื่อเป็น The Big Game Mega Millions ในปี 2002 และเปลี่ยนอีกครั้งปี 2005 เป็น Mega Millions

    เดือนตุลาคม 2017 Mega Millions ปรับเปลี่ยนโครงสร้างทำให้การถูกรางวัลแจ๊กพอตยากขึ้นแต่มีโอกาสถูกรางวัลเงินล้านมากขึ้น ซึ่งการปรับเปลี่ยนนี้ทำให้รางวัลแจ๊กพอตมีมูลค่าสูงขึ้น และมูลค่าเริ่มต้นของรางวัลแจ๊กพอตเพิ่มขึ้น 3 เท่า นอกจากนี้ยังได้ปรับราคาตั๋วจาก 1 ดอลลาร์เป็น 2 ดอลลาร์ ลดจำนวนลูกบอลสีขาวจาก 75 ลูกเป็น 70 ลูก เพิ่มจำนวน Mega Ball จาก 15 ลูกเป็น 25 ลูก และเพิ่มรางวัลแจ๊กพอตจาก 15 ล้านดอลลาร์เป็น 40 ล้านดอลลาร์ ตลอดจนยังมีการขายตั๋วเพื่อลุ้นรางวัลแจ๊กพอตอย่างเดียว (Just the Jackpot) โดยข้อมูล ณ เดือนตุลาคม 2017 มีบางรัฐที่จำหน่ายตั๋ว Just the Jackpot เพียงอย่างเดียวในราคา 3 ดอลลาร์

    ผลของการปรับเปลี่ยนนี้ทำให้ Mega Millions ใกล้เคียงกับ Powerball มากขึ้น รางวัลแจ๊กพอตที่เคยแตกไปในวันที่ 30 มีนาคม 2012 มีมูลค่าสูงสุด 656 ล้านดอลาร์

    วิธีการเล่น Mega Millions ก็เหมือนกับ Powerball คือผู้เล่นต้องเลือกเลข 5 ชุดจาก เลข 1-70 และอีก 1 ชุดจากเลข 1-25 ใน Mega Ball ซึ่งเลข 5 ชุดแรกไม่จำเป็นต้องเรียงตามลำดับ ราคาตั๋วของ Mega Millions คือ 2 ดอลลาร์ และมีออปชันให้เล่น Megaplier ซึ่งก็เหมือนกับ PowerPlay ของ Powerball เพียงแค่เพิ่มเงิน 1 ดอลลาร์ รางวัลจะเพิ่มเป็น 2-5 เท่า

    หากเลข 5 ชุดแรกตรงกันเลขที่ออกรางวัลซึ่งไม่จำเป็นต้องเรียงตามลำดับ ผู้เล่นจะได้เงิน 1 ล้านดอลลาร์ แต่หาก 5 ชุดแรกถูกและชุดที่ 6 ตรงกับ MegaBall ก็จะได้รางวัลแจ๊กพอต ส่วนรางวัลมูลค่าน้อยสุดคือ 2 ดอลลาร์ Mega Millions จับรางวัลทุกวันอังคารและวันศุกร์ในเวลา 23.00 น. ตามเวลาภาคตะวันออก หรือ Eastern Standard Time (EST จะมีเวลาช้ากว่าเวลาในประเทศไทย 12 ชั่วโมง ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน จะมีการปรับเลื่อนเวลาในช่วงฤดูร้อนอีก 1 ชั่วโมงหรือ Daylight Saving Time ซึ่งจะมีผลให้เวลาของอเมริกาช้ากว่าเวลาในประเทศไทย 13 ชั่วโมง)

    ที่มาภาพ : https://www.thelottolife.com/blog/see-where-the-8-highest-mega-millions-lottery-jackpots-were-won

    ลุ้นแจ๊กพอต 1.6 พันล้านดอลล์ เมษายน 2019

    การจับรางวัล Mega Millions ล่าสุด วันศุกร์ที่ 4 มกราคม 2019 มีรางวัลแจ๊กพอต 40 ล้านดอลลาร์และมีให้เลือกรับรางวัลเป็นเงินสด 23.9 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่การจับรางวัลวันอังคารที่ 1 มกราคม 2019 มีผู้เล่นจากนิวยอร์กทำแจ๊กพอตมูลค่า 425 ล้านดอลลาร์แตก สำหรับการจับรางวัลวันอังคารที่ 8 มกราคมนี้ รางวัลแจ๊กพอตจะมีมูลค่า 45 ล้านดอลลาร์และมีให้เลือกรับเงินสด 27.3 ล้านดอลลาร์

    รางวัลแจ๊กพอตของ Mega Millions ขณะนี้มีมูลค่าสูงถึง 1.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยตั๋วที่ถูกรางวัลในการจับรางวัลวันที่ 24 ตุลาคม 2018 มาจากการขายในเซ้าท์แคโรไลนา และยังไม่มีผู้ถูกรางวัลมาแสดงตัวเพื่อขอรับเงินรางวัล ซึ่งผู้ที่ถูกรางวัลมีเวลารับเงินรางวัลถึงเดือนเมษายน 2019 นี้

    ผู้ที่ถูกรางวัลสามารถเลือกรับเงินรางวัลแบ่งเป็นงวดๆ ได้ตลอดเวลา 30 ปี หรือเลือกรับเงินครั้งเดียวเป็นเงินสดในจำนวนที่ต่ำกว่าเงินรางวัลจริง โดยในกรณีรางวัลแจ๊กพอต 1.6 พันล้านดอลลาร์ หากเลือกรับเป็นเงินสดจะได้เงิน 904.9 ล้านดอลลาร์ และหากมีผู้ถูกรางวัลรายเดียว ก็จะต้องเสียภาษีเป็นเงิน 217.2 ล้านดอลลาร์

    สำหรับรางวัลแจ๊กพอตมูลค่าสูงสุด 5 อันดับแรกที่ออกไปแล้ว ได้แก่
    หนึ่ง แจ๊กพอต Powerball มูลค่า 1.586 พันล้านดอลลาร์ จากการจับรางวัลวันที่ 13 มกราคม 2016 โดยมีตั๋วที่ถูกรางวัล 3 ใบจากผู้ซื้อในเทนเนสซี ฟลอริดา และแคลิฟอร์เนีย

    สอง แจ๊กพอต Powerball มูลค่า 778.7 ล้านดอลลาร์ จากการจับรางวัลเดือน สิงหาคม 2017 โดยมีตั๋วที่ถูกรางวัล 1 ใบจากผู้ซื้อในแมสซาชูเซตส์ซึ่งตัดสินใจเลือกรับเงินสดจำนวน 480.5 ล้านดอลลาร์ก่อนเสียภาษี

    สาม แจ๊กพอต Mega Millions มูลค่า 656 ล้านดอลลาร์ จากการจับรางวัลเดือน มีนาคม 2012 โดยมีตั๋วที่ถูกรางวัล 3 ใบจากผู้ซื้อในอิลลินอยส์ แมรีแลนด์ และแคนซัส

    สี่ แจ๊กพอต Mega Millions มูลค่า 648 ล้านดอลลาร์ จากการจับรางวัลเดือน ธันวาคม 2013 โดยมีตั๋วที่ถูกรางวัล 2 ใบจากผู้ซื้อในจอร์เจียและแคลิฟอร์เนีย ซึ่งทั้งสองรายเลือกรับเงินสดคนละ 173 ล้านดอลลาร์ก่อนเสียภาษี

    ห้า แจ๊กพอต Powerball มูลค่า 590.5 ล้านดอลลาร์ จากการจับรางวัลเดือน พฤษภาคม 2013 โดยมีตั๋วที่ถูกรางวัล 1 ใบจากผู้ซื้อในฟลอริดา และเป็นรางวัลแจ๊กพอตสูงสุดที่มีผู้ถูกรางวัลรายเดียว ซึ่งตัดสินใจเลือกรับเงินสดจำนวน 370 ล้านดอลลาร์ก่อนเสียภาษี

    เรียบเรียงจาก cnbc,reuters,thebalanceeveryday,newsweek,washingtonpost