รายงานโดย สุนิสา กาญจนกุล
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในท้องถิ่น (จีดีพี) ของรัฐแคลิฟอร์เนียในปีที่ผ่านมา ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 127 พันล้านเหรียญ รวมเป็น 2.798 ล้านล้านเหรียญ ทำให้เศรษฐกิจของแคลิฟอร์เนียมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก รองจากสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น เยอรมนี และแซงหน้าอังกฤษ ซึ่งมีมูลค่าจีดีพี 2.622 ล้านล้านเหรียญ
ในปี 2002 แคลิฟอร์เนียเคยครองตำแหน่งเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 5 ของโลกมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ทำให้อันดับตกลงเรื่อยๆ จนกลายเป็นอันดับ 10 ในปี 2012 แต่เมื่อเศรษฐกิจโดยรวมเริ่มฟื้นตัว อันดับของแคลิฟอร์เนียก็ค่อยๆ ขยับขึ้นเรื่อยๆ จนกลับมาคว้าตำแหน่งเดิมได้อีกครั้งในปีนี้
ที่มาของความมั่งคั่ง
แคลิฟอร์เนียเป็นรัฐที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในสหรัฐฯ (ประมาณ 39.5 ล้านคน) เป็นที่ตั้งของเมืองหลวงแห่งอุตสาหกรรมบันเทิงอย่างฮอลลีวูด เป็นที่อยู่ของซิลิคอนแวลลีย์ ศูนย์รวมความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี อีกทั้งยังมีพื้นที่การเกษตรที่อุดมสมบูรณ์อย่างเซ็นทรัลแวลลีย์อีกด้วย
ไอรีนา แอสมันด์ซัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์แห่งแผนกการคลังของรัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า เศรษฐกิจทุกภาคส่วนของรัฐแคลิฟอร์เนีย ยกเว้นภาคการเกษตร มีผลทำให้จีดีพีของรัฐขยายตัวจากเดิมในปี 2017 ตัวอย่างเช่น ภาคบริการด้านการเงินและอสังหาริมทรัพย์เติบโตขึ้น 26 พันล้านเหรียญ ภาคสารสนเทศและข่าวสารเติบโตขึ้น 20 พันล้านเหรียญ ภาคอุตสหกรรมการผลิตเติบโตขึ้น 10 พันล้านเหรียญ ฯลฯ
กระแสแยกตัวเป็นรัฐอิสระคืนชีพ
ความรุ่งโรจน์ทางเศรษฐกิจส่งผลให้กระแสการรณรงค์ให้แคลิฟอร์เนียแยกตัวออกเป็นรัฐอิสระ (CALEXIT) กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง หลังจากที่เคยล้มเหลวมาก่อนแล้ว
CALEXIT ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรชื่อ Yes California ในเดือนสิงหาคม 2015 และเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างระหว่างช่วงการหาเสียงเป็นประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ ในปี 2016 เนื่องจากมีชาวแคลิฟอร์เนียจำนวนมากไม่พอใจนโยบายของทรัมป์
องค์กร Yes California ประสบความสำเร็จในการเรียกร้องให้รัฐแคลิฟอร์เนียจัดให้มีการหยั่งเสียงเกี่ยวกับแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อแยกตัวออกมาเป็นรัฐอิสระเมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าชาวแคลิฟอร์เนียส่วนใหญ่ลงคะแนนเสียงไม่เห็นด้วย
แม้จะพ่ายแพ้ในการรณรงค์และหลายฝ่ายมองว่าการแยกตัวเป็นอิสระของแคลิฟอร์เนียเป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้นได้ แต่อย่างน้อย ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นก็บ่งบอกถึงความอึดอัดที่สุมอยู่ในใจของชาวแคลิฟอร์เนียได้เป็นอย่างดี เนื่องจากแคลิฟอร์เนียเป็นรัฐที่มีความแตกต่างจากรัฐอื่นๆ มากในแง่การเมืองและวัฒนธรรม ดังจะเห็นได้จากการที่ชาวแคลิฟอร์เนียเห็นต่างจากชาวรัฐอื่นอย่างชัดเจนในเรื่องนโยบายด้านผู้อพยพและสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ชาวแคลิฟอร์เนียพยายามเรียกร้องต่อรัฐบาลกลางให้มีการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ด้าน เพราะรัฐแคลิฟอร์เนียจ่ายภาษีเป็นจำนวนมหาศาล แต่ได้รับสิ่งตอบแทนน้อยกว่าที่จ่ายไป อีกทั้งยังมองว่าพวกตนไม่ได้รับความยุติธรรมเรื่องสิทธิในรัฐสภา โดยที่แคลิฟอร์เนียมีประชากรเกือบ 40 ล้านคน แต่มีตัวแทนในรัฐสภาได้เพียง 2 คน เท่ากับเวอร์มอนต์ (ประชากร 623,657 คน) และไวโอมิง (ประชากร 579,315 คน)
ความไม่พอใจที่คุกรุ่นมาโดยตลอดนี้ จึงเป็นเชื้อไฟอย่างดีสำหรับองค์กรอย่าง Yes California ที่ประกาศชัดเจนว่าไม่ยอมแพ้ และจะเดินหน้ารณรงค์เรื่องการแยกตัวออกมาเป็นรัฐอิสระต่อไป
แหล่งข้อมูล:
1.http://www.latimes.com/business/la-fi-california-economy-gdp-20180504-story.html
2.https://www.cnbc.com/2018/04/24/calexit-plan-to-divorce-california-from-us-is-getting-a-second-chance.html
3.https://en.wikipedia.org/wiki/Yes_California
4.https://www.stanforddaily.com/2018/09/27/final-hf-calexit-supporters-relaunch-campaign-with-proposals-to-create-a-north-american-nation/
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
