ThaiPublica > คอลัมน์ > หลอกขาย ICO โดยอ้าง ก.ล.ต.

หลอกขาย ICO โดยอ้าง ก.ล.ต.

19 ตุลาคม 2018


ทพพล น้อยปัญญา

“ตามที่มีการแชร์ข้อความใน social media ว่ามีการนัดหมาย ก.ล.ต. เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับ ICO ราย OneCoin นั้น ก.ล.ต. ขอชี้แจงว่า ไม่มีการนัดหมายดังกล่าวแต่อย่างใดครับ

ทั้งนี้ ขณะนี้ยังไม่มีบริษัทใดได้รับอนุญาตให้ออกและเสนอขาย ICO จาก ก.ล.ต. หากท่านได้รับการชักชวนโดยแอบอ้าง ก.ล.ต. หรือพบการดำเนินการที่น่าสงสัย โปรดใช้ความระมัดระวังและสามารถโทรแจ้งเบาะแสได้ที่……”

ข้อความข้างต้นได้โพสต์อยู่ใน Facebook ของสำนักงาน ก.ล.ต. เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2561 เป็นการเตือนถึงการทำ ICO ของเงินดิจิทัลรายหนึ่งชื่อ OneCoin ซึ่งอ้างว่าได้นัดหมายปรึกษากับทาง ก.ล.ต. ซึ่งทาง ก.ล.ต. ได้ปฏิเสธว่าไม่มีการนัดหมายแต่อย่างใดทั้งสิ้น

อันที่จริง OneCoin เป็นเหรียญที่มีปัญหามานานแล้ว ธนาคารแห่งประเทศไทยเคยออกประกาศเตือนเรื่อง OneCoin ตั้งแต่ 26 เมษายน 2560 ว่า

“ตามที่มีการเชิญชวนประชาชนให้ลงทุนในหน่วยข้อมูลเล็กทรอนิกส์ ที่เรียกว่า Onecoin โดยอ้างว่าเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีผู้นิยมใช้ทั่วโลกนั้น

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขอเรียนชี้แจงดังนี้

1. Onecoin ไม่ใช่เงินที่สามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายไทย และในปัจจุบันยังไม่มีประเทศใดยอมรับหรือรับรองว่า Onecoin เป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย

2. ในการถือครองหรือลงทุนในหน่วยข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่ทางการยังไม่ได้รับรองว่าสามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายประชาชนควรระมัดระวัง ศึกษาข้อมูลและรายละเอียดให้เข้าใจอย่างถ่องแท้เพราะมีความเสี่ยงที่มูลค่าของหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้จะผันผวน หรือปรับลดค่าลงได้อย่างรวดเร็ว และอาจใช้เป็นช่องทางในการหลอกลวงและฉ้อโกงประชาชนได้ โดยเฉพาะในกรณีที่มีการโฆษณาว่าเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่จะให้ผลตอบแทนสูง หากมีการหาสมาชิกเพิ่มได้มาก”

นี่ขนาดธนาคารแห่งประเทศไทยมาประกาศเตือนแล้ว(รวมทั้งอีกหลายประเทศ) แต่ OneCoin ก็ไม่ยักกะตาย กลับมามีบทบาทอีกโดยเมื่อประมาณต้นปี 2561 ที่ผ่านมา Dr Ruja Ignatova ซึ่งว่ากันว่าเธอเป็นเจ้าของเหรียญ OneCoin มาทำ presentation อย่างยิ่งใหญ่เกี่ยวกับเหรียญ OneCoin นี้ (ดู presentation ของเธอได้ที่นี่) เลยทำให้บรรดาสาวกของเธอกลับมีความหวังที่จะเห็นการลงทุนในเหรียญ OneCoin นี้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น โดยไม่คำนึงว่าเหรียญนั้นมีค่าเพิ่มขึ้นเพราะเหตุใด

(โปรดสังเกตว่า ตัวการในการทำแชร์ลูกโซ่มักจะเป็นผู้หญิง อย่างเช่นในบ้านเราก็มีแม่ชม้อย ล่าสุดก็เป็นซินแสโชกุน ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด? ใครรู้บ้าง)

เว็บ Siam Blockchain ได้รายงานว่า ประเทศต่าง ๆ ก็ได้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับ OneCoin นี้เช่น สำนักงานอัยการเขตในมณฑลหูหนานได้เรียกปรับเงินผู้ต้องสงสัย 4 คนที่เป็นส่วนหนึ่งในขบวนการ “Weika Coin” ซึ่งเป็นชื่อในประเทศจีนของ OneCoin ขณะที่ในประเทศอิตาลี ก็มีผู้ที่ต้องเสียค่าปรับไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลายล้านยูโร ในขณะที่ทางประเทศอินเดียนั้น ก็ได้เริ่มเคลื่อนไหวดำเนินการจับกุมที่ผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับ OneCoin ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ทางผู้ช่วยเลขาธิการ ก.ล.ต. ก็ได้ให้ความเห็น ในงาน Digital Thailand Big Bang 2018 เมื่อวันที่ 19 กันยายนว่า “Onecoin ไม่ได้เป็น ICO ไม่ได้เป็นอะไรเลยคือเป็นแชร์ลูกโซ่ธรรมดานั่นเอง บอกว่าจะไปลงทุนในอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ว่าก็ไม่ได้เอาเงินไปลงทุน ทำให้ทางการไทยเราเนี่ยก็เลยกังวลมากไปกว่าแค่ ICO Scam กังวลไปถึง Digital Asset ทั้งหมด”

จนล่าสุดถึงกับมีข่าวออกมาว่าได้นัดหมายกับ ก.ล.ต. แล้วเพื่อหารือถึง ICO ของ OneCoin จน ก.ล.ต. ต้องออกมาปฏิเสธข่าวเป็นการแปลกแต่จริงที่ว่า เมื่อ 2 วันก่อนหน้านั้น ทาง ก.ล.ต. ของสหรัฐอเมริกาที่รู้จักกันดีในชื่อของ SEC ก็ได้ดำเนินคดีกับบริษัทที่ทำ ICO โดยอ้างว่าได้รับอนุญาตจากทางการแล้ว

SEC ได้ขอคำสั่งศาลเป็นการฉุกเฉินเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2561 ให้หยุดการขาย ICO ที่มีการหลอกลวงโดยอ้างว่าได้รับอนุญาตจาก SEC แล้ว

ห้างหุ้นส่วน Blockvest LLC และหุ้นส่วนผู้ก่อตั้งชื่อ Reginald Buddy Ringgold, III, หรือ Rasool Abdul Rahim El ได้ทำการขาย ICO โดยอ้างว่าได้ “จดทะเบียน” กับและได้รับ “อนุมัติ” จาก SEC แล้ว

นอกจากนี้ นาย Ringgold ได้สร้างหน่วยงานกำกับดูแลปลอมมีชื่อว่า “Blockchain Exchange Commission” ซึ่งหน่วยงานปลอมนี้มีรูปเครื่องหมายเหมือนกับของ SEC และทำ link เชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ของ SEC อีกด้วย นับว่ากล้าจริง ๆ

ใครที่สนใจไปดูคำร้องของ SEC ได้ที่ SEC Blockvest Complaint by CCN

เป็นสัจธรรมครับว่า ตราบใดที่มนุษย์ยังมีความโลภอยู่ ตราบนั้นก็จะมีการลวงโลกออกมาหลอกลวงผู้ที่มีความโลภทั้งหลายเหล่านั้น

หนังสือ”กฎหมาย Bitcoin Blockchain ICO and etc”
เขียนโดย ทพพล น้อยปัญญา คอลัมนิสต์ “ไทยพับลิก้า” มีขายที่บูธของสำนักพิมพ์วิญญูชน ในงาน “งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 23” ระหว่างวันที่ 17 – 28 ตุลาคม 2561

ป้ายคำ :